xs
xsm
sm
md
lg

“นิวัฒน์ธำรง” ย้ำ ครม.ถูก กม.ไม่ออก ตั้งนายกฯ ซ้อนกันไม่ได้ แจงรัฐยินดีคุยทุกฝ่าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์(แฟ้มภาพ)
รมต.เฝ้าเก้าอี้นายกฯ แจงผลถกตัวแทนวุฒิฯ ย้ำ ครม.ถูกต้องตาม กม. ยกคำวินิจฉัยศาล ต้องอยู่จนมี ครม.ใหม่ ไม่งั้นขัด รธน. ย้อนตั้งนายกฯ ซ้อนนายกฯ ไม่ได้ ถึงตั้งไปก็มีอำนาจไม่ต่างจากปัจจุบัน ยันนายกฯ ต้องเป็น ส.ส. รับเห็นพ้องว่าให้ทุกฝ่ายเร่งแก้ปัญหาการเมือง ไม่ให้กระทบมากกว่านี้ รัฐยินดีคุยทุกฝ่ายใต้ รธน.

วันนี้ (19 พ.ค.) นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการหารือกับนายพีระศักดิ์ พอจิต ว่าที่รองประธานวุฒิสภา และนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ สมาชิกวุฒิสภา เดินทางมาร่วมหารือแทนนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย โดยแจ้งว่านายสุรชัยป่วยเข้าโรงพยาบาล และมีนายชัยเกษม นิติศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเข้าร่วมด้วย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของประเทศ สรุปดังนี้

นายนิวัฒน์ธำรง ได้ชี้แจงข้อกฎหมายเกี่ยวกับสถานะของคณะรัฐมนตรี และผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีว่า คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันเป็นคณะรัฐมนตรีที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 9/2557 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 ที่ให้รัฐมนตรีที่ไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ซึ่งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันให้ทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็น คณะรัฐมนตรี วุฒิสภา ศาล องค์กรตามรัฐธรรมนูญ เป็นต้น จะต้องปฏิบัติตาม (รัฐธรรมนูญมาตรา 216) ส่วนนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล สามารถปฏิบัติหน้าที่และมีอำนาจเท่ากับตำแหน่งที่ทำหน้าที่ (นายกรัฐมนตรี) ได้ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 10 และมาตรา 48

ดังนั้น ขณะนี้จึงมีคณะรัฐมนตรี และผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่ที่ปฏิบัติราชการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่างสมบูรณ์

สำหรับประเด็นที่ว่า กลุ่มบุคคลต่างๆต้องการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง และให้มีอำนาจในการบริหารราชการได้อย่างเต็มที่ (ไม่ถูกจำกัดด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 181) รัฐบาลได้ชี้แจงว่า ไม่สามามรถกระทำได้ เพราะขณะนี้ประเทศไทยมีคณะรัฐมนตรีและผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว จะแต่งตั้งซ้อนไม่ได้ อีกทั้งการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็มนั้น ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 171 และ 172 ประกอบกับอยู่ในระหว่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภา พ.ศ. 2556 ยังบังคับใช้อยู่ ซึ่งข้อเสนอแนะเรื่องการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่อ้างว่า มีอำนาจเต็มนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะยังต้องถูกจำกัดอำนาจในการบริหารตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 จึงเป็นกรณีที่ไม่แตกต่างจากคณะรัฐมนตรีที่ปฏิบัติหน้าที่ในปัจจุบัน สรุปความว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร จากการศึกษาข้อกฎหมายพบว่า ไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราอื่นใด ระบุเรื่องการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีอีก

สำหรับประเด็นที่มีการขอให้คณะรัฐมนตรีลาออกนั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติน้าที่ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 181 และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 ที่กำหนดให้คณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ที่ประชุมเห็นพ้องด้วยกันว่า ทุกฝ่ายควรหาทางแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับประเทศชาติ และประชาชนมากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ ทางรัฐบาลยินดีปรึกษาหารือกับวุฒิสภาและฝ่ายต่างๆ ตลอดเวลาเพื่อหาทางออกที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย โดยเร็วที่สุดต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น