xs
xsm
sm
md
lg

ปิดฉาก “ระบอบทักษิณ” วันของประชาชน เดินหน้าปฏิรูปประเทศ!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

การประกาศดีเดย์ขับไล่ “ระบอบทักษิณ” ครั้งสำคัญที่สุดตั้งแต่วันที่ 19-26 พฤษภาคม ของมวลมหาประชาชนในชื่อ กปปส.ที่นำโดย “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ยืนยันกันแบบวัดใจกันไปเลย ถ้าหากภายในวันที่ 26 พฤษภาคม กระทำการทวงคืนอำนาจมาเป็นของประชาชนไม่สำเร็จ หรือมีประชาชนออกมาจำนวนไม่มากพอ บรรดาแกนนำก็จะยอมสลายการชุมนุมในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 27 พฤษภาคม จะเดินไปมอบตัว

ความหมายที่เห็นเฉพาะหน้าก็ออกมาในทำนองว่า “กูอยู่มึงไป หรือไม่ก็มึงอยู่กูไป” มีอยู่สองทางเลือกเท่านั้น ไม่มีเจรจาออกกลางๆ เป็นอันขาด เนื่องจากการต่อสู้คราวนี้มีอยู่สองทางคือ ดีกับชั่ว ดำกับขาวเท่านั้น ไม่มีกลาง ที่สำคัญเป็นการต่อสู้กันระหว่างคนที่ตื่นรู้ และลุกขึ้นมาทวงอำนาจคืนจากนักการเมืองชั่วทุกคน ทุกพรรคการเมือง นอกเหนือจากระบอบทักษิณ และรัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้

การลุกขึ้นมาของมวลมหาประชาชนในนามของ กปปส.ที่มี “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็นแกนนำคราวนี้ถือว่า “เหลืออด” ตจ่อพฤติกรรมเห็นแก่ได้ ห่วยแตก และโคตรโกงของ รัฐบาลและเครือข่ายของระบอบทักษิณ และครอบครัวของ ทักษิณ ชินวัตร และที่ผ่านมาชาวบ้านได้สะสมความเกลียดมาอย่างต่อเนื่อง และนี่คือสาเหตุว่าทำไมมวลมหาประชาชนจึงยืนหยัดต่อสู้มาได้นานกว่า 6 เดือน ถือว่าทำลายสถิติโลก หากจะชุมนุมให้นานกว่านี้อีกก็ได้ แต่นั่นก็ทำให้บ้านเมืองฉิบหายวายป่วง เศรษฐกิจพังพินาศ เพราะขนาดประชาชนรวมพลังออกมาขับไล่กันทั้งประเทศนับล้านๆคน รัฐบาลทรราชแก๊งนี้ก็ยังหน้าด้านหน้าทน ไม่สนใจ ตรงกันข้ามยังใช้เครือข่ายอำนาจรัฐ มวลชนรับใช้ที่มาในรูปเจ้าหน้าที่รัฐ กองกำลังติดอาวุธลอบทำร้ายจนมวลชนที่ออกมาชุมนุมต่อต้านอย่างสันติ เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ราย บาดเจ็บร่วมพันคนเข้าไปแล้ว

คนพวกนี้ปากอ้างว่าบูชาประชาธิปไตย แต่ไม่เคยยอมรับการตรวจสอบ ไม่ยอมรับอำนาจศาลหากตัวเองเสียประโยชน์ อ้างแต่เรื่องประชาธิปไตยฉาบฉวยคือเลือกตั้ง เพราะมั่นใจว่าด้วยกลไกเครือข่ายเงิน และกลไกข้าราชการที่วางเอาไว้อย่างเข้มแข็ง รวมทั้งนโยบายประชานิยมที่ใช้โครงการรัฐ งบประมาณของรัฐมาแจกชาวบ้านจนเสพติด แน่นอนว่าเลือกตั้งกี่ครั้งด้วยกลไกแบบเดิมก็ต้องชนะวันยังค่ำ

อย่างไรก็ดี ภายใต้การบริหารที่ห่วยแตกอย่างไม่น่าเชื่อ เกินความคาดหมายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้ระยะเวลากว่าสองปีทำให้ชาวบ้านได้ “ตาสว่าง” กันเกินคาดเช่นเดียวกัน

อีกด้านหนึ่งการบริหารแบบห่วยแตกแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ ทำให้ประจานระบอบทักษิณที่เคยเก็บซ่อนเอาไว้มานาน ให้ชาวบ้านได้รู้ความจริง จากเดิมที่มักจะโทษคนอื่น โทษอำมาตย์ โทษคนโน้นคนนี้ยกเว้นโทษตัวเอง มาวันนี้ได้เห็นกันจะจะ ทำให้ต้องถดถอยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แต่แม้ว่ามวลมหาประชาชนจะยืนหยัดต่อต้าน ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวเขาจะยืนหยัดต่อต้านอย่างมั่นคงแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ถือว่ายังไม่สะเด็ดน้ำ ยังไม่อาจเผด็จศึกได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดสักที แม้ว่าจะมีมวลชนออกมามากแค่ไหนก็ตาม เพราะคนพวกนี้ไร้ซึ่งจริยธรรมและมารยาทางการเมือง เพราะการสิ้นสุดจากอำนาจนั่นย่อมหมายถึงการสูญสิ้นผลประโยชน์ ไม่อาจทุจริตคอร์รัปชันสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้อีกต่อไป

บางคนก็วิเคราะห์ว่าเป็นเพราะ “กองทัพ” และ “ผู้นำกองทัพ” ยังวางเฉย ดูดาย ไม่ยอมรับผิดชอบ ลอยตัวอยู่เหนือความขัดแย้ง อ้างแต่เรื่องความเป็นกลาง ทำตามกฎหมาย และคำสั่งของรัฐบาล ใช่ หลายคนกำลังตำหนิบทบาทของ “ผู้บัญชาการทหารบก” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าวางเฉย-ดูดาย ปล่อยให้รัฐบาลที่มีพฤติกรรมเยี่ยงทรราชย์ ไร้ความชอบธรรมกระทำย่ำยีประชาชนที่ออกมาต่อต้าน ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการทวงคืนอำนาจของปวงชนกลับคืนมา

แต่ถึงอย่างไรนาทีนี้ถือว่ามวลชนได้หมดความคาดหวังกับคนในกองทัพแบบนี้ไปนานแล้ว และเดินหน้าขับไล่ “ระบอบทักษิณ” ด้วยพลังของประชาชนล้วนๆ และแม้ว่าการระดมพลออกมาเผด็จศึกคราวนี้จะมีผลออกมาแบบไหน จะสามารถเผด็ดศึกได้ตามเป้าหมาย หรือออกมาในทางตรงกันข้ามในวันที่ 26 พฤษภาคม แม้ว่าจะไม่สำเร็จ แกนนำจะเข้ามอบตัวและสลายการชุมนุมไปก็ตาม แต่การปฏิรูปประเทศต้องเดินหน้าต่อไป และการเลือกตั้งแบบห่วยๆแบบเดิมจะไม่มีเกิดขึ้น และที่สำคัญระบอบทักษิณ และครอบครัวทักษิณ ก็ไม่มีวันลอยหน้าลอยตาในสังคมได้อีกต่อไป

เพราะพลังปฏิรูปประเทศได้ตื่นขึ้นมาแล้ว ต้องเดินหน้าต่อไป!!
กำลังโหลดความคิดเห็น