**นาทีนี้เชื่อว่าถ้าเป็นนักสู้อุดมการณ์ขับไล่ทรราชย์ระบอบทักษิณ ตื่นตัวจนตกผลึกกันมานานคงไม่ต้องมานั่งถามกันอีกต่อไปแล้ว การระดมพลครั้งใหญ่ของ กปปส. ภายใต้การนำของ กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เริ่มเคลื่อนไหวออกตัวกันตั้งแต่วันมหามงคล 5 พฤษภาคม เป็นต้นไป และกำหนดวันดีเดย์เผด็จศึก ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมเป็นต้นไป ไม่ต้องมาถามว่าจะชนะหรือไม่ จะสำเร็จหรือไม่ เพราะถือว่าเลยเวลามานั่งถามนั่งตอบกันอีกแล้ว
เอาเป็นว่าระดมออกมาให้เต็มที่ สู้กันให้สุดแรง เต็มที่ทุกครั้ง และพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ เพราะการสู้กับพวกโจรชั่วที่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ กักขฬะ เถื่อนถ่อย ก็ต้องพร้อมต่อกรทุกทางเช่นเดียวกัน
และตราบใดที่ผู้นำคือ กำนันสุเทพ ยังไม่วอกแวก ยังมีความแน่วแน่เดินไปสู่เป้าหมายที่มวลมหาประชาชนกำหนดไว้ให้เดินตั้งแต่แรก ก็ให้การสนับสนุนเต็มที่ และให้กำลังใจเต็มเปี่ยมเช่นเดียวกัน เพราะช่วงเวลาผ่านมา 6 เดือนถือว่าได้พิสูจน์ให้เห็นกันมาแล้ว
การระดมพลครั้งใหญ่ดังกล่าว กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ย้ำว่า เป็นการเผด็จศึกครั้งสุดท้าย และต้องจบให้ได้ภายในเดือนนี้ มีการเรียกระดมพลกันครั้งใหญ่อีกรอบ ส่วนจะเป็นครั้งที่เท่าไหร่ ก็คงไม่ต้องไปสนใจกันแล้ว
อย่างไรก็ดี หากไม่ปฏิเสธความจริงมันก็ต้องมีคำถามทุกครั้งเช่นเดียวกันเมื่อมีการชุมนุมใหญ่ เช่น คำถามที่ว่า "จะจบมั๊ย" จะจบแบบไหน หรือเมื่อไหร่จะจบ สารพัดคำถาม เพราะที่ผ่านมา เมื่อมีการเรียกระดมพลชุมนุมใหญ่คราวใด ก็มักบอกว่า ครั้งสุดท้าย ไม่ชนะไม่เลิก แม้ว่าเรื่องไม่เลิกยังเดินหน้าไม่ยอมถอย แต่ยังไม่ชนะขั้นเด็ดขาดสักที
ดังนั้นเมื่อมีการชุมนุมใหญหลายครั้ง ทุกครั้งก็มีมวลชนออกมากันแบบทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกภูมิภาค ทั้งในเมืองหลวงและต่างจังหวัดชนิดที่เรียกว่าไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย หรือแม้แต่การเมืองในโลกนี้เลยทีเดียว ไม่มีการปักหลักชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่ต่อเนื่องยาวนานแบบนี้ ด้วยจำนวนปริมาณของมวลชนเรือนล้าน
แต่พวกนักการเมืองทรราชย์กลุ่มนี้ไม่เคยสนใจ ยังหน้าด้านกอดเก้าอี้เอาไว้แน่น มิหนำซ้ำยังใช้กลไกเครือข่ายข้าราชการ รวมทั้งใช้พวกอันธพาลการเมืองรับจ้างออกมาลอบกัด ทำร้ายมวลชน หรือฝ่ายที่เห็นแตกต่างอยู่ตลอดเวลา จนบาดเจ็บล้มตายกันนับไม่ถ้วนแล้ว
คำถามที่ลอยลมเข้ามาอีกก็คือ คราวนี้หากมีการระดมมวลชนเข้ามากันจนเต็มอัตราศึก ปริมาณไม่น่าจะต่างกับคราวก่อน แล้วจะเผด็จศึกอย่างไร แม้ว่าคราวนี้ กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ จะยืนยันว่า มีไม้เด็ด ที่เด็ดขาด ไม่ยอมประนีประนอมเกรงใจอีกต่อไปแล้ว เพียงแต่ว่า ยังอุบไว้ก่อนเพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามตั้งตัวทัน แม้ว่าจะเชื่อตามนั้น ไม่อยากสงสัย หรือตั้งคำถามมาก แต่อดไม่ได้ที่ต้องการอยากรู้ อยากเห็น
**ที่สำคัญหลายคนอยากรู้ว่า คราวนี้จะมีท่าทีอย่างไรกับคนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก รวมไปถึงผู้นำเหล่าทัพรายอื่นๆ อยากถามว่า ถ้าคนพวกนี้ยังรับใช้รัฐบาลทรราชย์ที่ขาดความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิงแล้ว จะทำอย่างไรกับคนพวกนี้ จะปล่อยให้ลอยนวลไปจนเกษียณอายุราชการหรือเปล่า ที่ตั้งคำถามแบบนี้ไม่ใช่หมายความว่า ตั้งความหวังกับคนพวกนี้ เพียงแต่ว่าต้องการความชัดเจน หากคนพวกนี้ไม่ยืนเคียงข้างมวลมหาประชาชน ก็สมควรปฏิเสธพวกเขาเช่นเดียวกัน อย่าไปเสียเวลาเอาอกเอาใจ หรือเกรงใจแบบไร้ประโยชน์
อย่างไรก็ดี คราวนี้คงไม่ต้องพูดอะไรกันให้เรื่องมาก เพราะเชื่อว่าด้วยระยะเวลาการต่อสู้ของประชาชนที่ยืนหยัดร่วมกันมาอย่างยาวนาน คงไม่มีอะไรต้องพูดกันมากให้เสียเวลาแบบมองตาก็รู้ใจกันแล้ว และแม้ว่าคราวนี้เชื่อว่าทุกคนจะต้องออกมาร่วมกันขับไล่ครอบครัวทรราชย์ กันจนถึงที่สุด
**ไม่ต้องถามกันว่าจะเผด็จศึกได้หรือไม่ เพราะคำถามที่ต้องถามกันก็คือ จะออกมากันหรือเปล่า !!
เอาเป็นว่าระดมออกมาให้เต็มที่ สู้กันให้สุดแรง เต็มที่ทุกครั้ง และพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ เพราะการสู้กับพวกโจรชั่วที่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ กักขฬะ เถื่อนถ่อย ก็ต้องพร้อมต่อกรทุกทางเช่นเดียวกัน
และตราบใดที่ผู้นำคือ กำนันสุเทพ ยังไม่วอกแวก ยังมีความแน่วแน่เดินไปสู่เป้าหมายที่มวลมหาประชาชนกำหนดไว้ให้เดินตั้งแต่แรก ก็ให้การสนับสนุนเต็มที่ และให้กำลังใจเต็มเปี่ยมเช่นเดียวกัน เพราะช่วงเวลาผ่านมา 6 เดือนถือว่าได้พิสูจน์ให้เห็นกันมาแล้ว
การระดมพลครั้งใหญ่ดังกล่าว กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ย้ำว่า เป็นการเผด็จศึกครั้งสุดท้าย และต้องจบให้ได้ภายในเดือนนี้ มีการเรียกระดมพลกันครั้งใหญ่อีกรอบ ส่วนจะเป็นครั้งที่เท่าไหร่ ก็คงไม่ต้องไปสนใจกันแล้ว
อย่างไรก็ดี หากไม่ปฏิเสธความจริงมันก็ต้องมีคำถามทุกครั้งเช่นเดียวกันเมื่อมีการชุมนุมใหญ่ เช่น คำถามที่ว่า "จะจบมั๊ย" จะจบแบบไหน หรือเมื่อไหร่จะจบ สารพัดคำถาม เพราะที่ผ่านมา เมื่อมีการเรียกระดมพลชุมนุมใหญ่คราวใด ก็มักบอกว่า ครั้งสุดท้าย ไม่ชนะไม่เลิก แม้ว่าเรื่องไม่เลิกยังเดินหน้าไม่ยอมถอย แต่ยังไม่ชนะขั้นเด็ดขาดสักที
ดังนั้นเมื่อมีการชุมนุมใหญหลายครั้ง ทุกครั้งก็มีมวลชนออกมากันแบบทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกภูมิภาค ทั้งในเมืองหลวงและต่างจังหวัดชนิดที่เรียกว่าไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย หรือแม้แต่การเมืองในโลกนี้เลยทีเดียว ไม่มีการปักหลักชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่ต่อเนื่องยาวนานแบบนี้ ด้วยจำนวนปริมาณของมวลชนเรือนล้าน
แต่พวกนักการเมืองทรราชย์กลุ่มนี้ไม่เคยสนใจ ยังหน้าด้านกอดเก้าอี้เอาไว้แน่น มิหนำซ้ำยังใช้กลไกเครือข่ายข้าราชการ รวมทั้งใช้พวกอันธพาลการเมืองรับจ้างออกมาลอบกัด ทำร้ายมวลชน หรือฝ่ายที่เห็นแตกต่างอยู่ตลอดเวลา จนบาดเจ็บล้มตายกันนับไม่ถ้วนแล้ว
คำถามที่ลอยลมเข้ามาอีกก็คือ คราวนี้หากมีการระดมมวลชนเข้ามากันจนเต็มอัตราศึก ปริมาณไม่น่าจะต่างกับคราวก่อน แล้วจะเผด็จศึกอย่างไร แม้ว่าคราวนี้ กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ จะยืนยันว่า มีไม้เด็ด ที่เด็ดขาด ไม่ยอมประนีประนอมเกรงใจอีกต่อไปแล้ว เพียงแต่ว่า ยังอุบไว้ก่อนเพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามตั้งตัวทัน แม้ว่าจะเชื่อตามนั้น ไม่อยากสงสัย หรือตั้งคำถามมาก แต่อดไม่ได้ที่ต้องการอยากรู้ อยากเห็น
**ที่สำคัญหลายคนอยากรู้ว่า คราวนี้จะมีท่าทีอย่างไรกับคนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก รวมไปถึงผู้นำเหล่าทัพรายอื่นๆ อยากถามว่า ถ้าคนพวกนี้ยังรับใช้รัฐบาลทรราชย์ที่ขาดความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิงแล้ว จะทำอย่างไรกับคนพวกนี้ จะปล่อยให้ลอยนวลไปจนเกษียณอายุราชการหรือเปล่า ที่ตั้งคำถามแบบนี้ไม่ใช่หมายความว่า ตั้งความหวังกับคนพวกนี้ เพียงแต่ว่าต้องการความชัดเจน หากคนพวกนี้ไม่ยืนเคียงข้างมวลมหาประชาชน ก็สมควรปฏิเสธพวกเขาเช่นเดียวกัน อย่าไปเสียเวลาเอาอกเอาใจ หรือเกรงใจแบบไร้ประโยชน์
อย่างไรก็ดี คราวนี้คงไม่ต้องพูดอะไรกันให้เรื่องมาก เพราะเชื่อว่าด้วยระยะเวลาการต่อสู้ของประชาชนที่ยืนหยัดร่วมกันมาอย่างยาวนาน คงไม่มีอะไรต้องพูดกันมากให้เสียเวลาแบบมองตาก็รู้ใจกันแล้ว และแม้ว่าคราวนี้เชื่อว่าทุกคนจะต้องออกมาร่วมกันขับไล่ครอบครัวทรราชย์ กันจนถึงที่สุด
**ไม่ต้องถามกันว่าจะเผด็จศึกได้หรือไม่ เพราะคำถามที่ต้องถามกันก็คือ จะออกมากันหรือเปล่า !!