ปธ.กกต.ชี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใด ระบุประชุมรัฐ-กกต.ล่ม เหตุรัฐเผ่นก่อน ทั้งที่ตกลงกันแล้วจะเชิญตัวแทน กปปส.เข้าร่วมหารือด้วย พร้อมวอนสื่อให้ความเป็นธรรมกรณีนำเสนอ กกต.ยื้อเลือกตั้ง ชมว่าที่ประธานวุฒิสภากล้าหาญหาทางออกประเทศ ด้าน “สมชัย” ฉุนตอกสื่อมติชน อัดประชุมล่มเพราะรัฐบาลไม่ใช่ กกต.
วันนี้ (16 พ.ค.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่ายังไม่ทราบว่า การเลือกตั้ง ส.ส.จะเกิดขึ้นเมื่อใด เพราะการหารือระหว่าง กกต.กับรัฐบาล 2 ครั้งที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จ ขณะนี้รอการประสานงานจากรัฐบาลอยู่ซึ่งที่จะให้มีการพูดคุยผ่ายระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์นั้นคงต้องถามระดับเจ้าหน้าที่ก่อน เพราะเรื่องของการเลือกตั้งมีรายละเอียดค่อนข้างมาก จึงควรเป็นการพบปะพูดคุยกันจะเป็นการดีกว่า เผื่อมีรายละเอียดที่ต้องถกเถียงกัน เช่น เรื่องของผู้ที่จะมีอำนาจในการทูลเกล้าฯ ร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ที่มีข่าวว่ารอบนายกรัฐมนตรีก็เคยเป็นผู้รับสนองฯ มาแล้ว เหตุการณ์อาจจะเหมือนกันแต่เหตุข้อเท็จจริงแตกต่างกัน ก็ต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจ รวมถึงประเด็นที่อาจเห็นต่างกันว่าจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายศุภชัยยังกล่าวปฏิเสธกรณีมีสื่อมวลชนนำเสนอเหตุการณ์ประชุมร่วม กกต.กับรัฐบาลล่มเมื่อวานว่า กกต.ต้องการยื้อเลือกตั้งว่า ไม่เป็นความจริง การพูดคุยเมื่อวานไม่สำเร็จไม่ใช่ความผิดของ กกต. โดยก่อนที่จะเริ่มประชุมทราบแล้วว่า กปปส.จะเดินทางมาที่โรงเรียนนายเรืออากาศ กกต.จึงได้เสนอต่อฝ่ายรัฐบาลว่าหากผู้ชุมนุมมาถึงให้เชิญแกนนำผู้ชุมนุมเข้ามาหารือกับ กกต.และรัฐบาลเป็นแบบส่วนตัว ซึ่งรัฐบาลก็รับฟัง แต่เมื่อถึงเวลาทางฝ่ายรัฐบาลก็ได้แจ้งขอให้ยุติการประชุมและออกจากห้องประชุมไปก่อน กกต.ด้วยซ้ำ ดังนั้นการนำเสนอของสื่อฯ จึงอยากให้ความเป็นธรรมต่อ กกต.ด้วย
เมื่อถามว่า การพูดคุยยังไม่ประสบความสำเร็จจะจัดการเลือกตั้งได้สำเร็จหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า เราก็ประเมินสถานการณ์อยู่ และต้องถามฝ่ายความมั่นคงว่าจะสามารถดูแลความเรียบร้อยในการเลือกตั้งได้หรือไม่ กกต.ไม่อยากพูดเรื่องสถานการณ์อีก เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว หากพูดมากก็จะถูกกว่าหาว่าโยกโย้ การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ระบุว่าจะมีการคัดค้านของประชาชนใน 15-20 จังหวัดหากมีการเลือกตั้งก็เป็นสิ่งที่เราต้องคิดและนำมาหาแนวทางในการป้องกัน ดังนั้นในขณะนี้จึงยังไม่สามารถจะบอกได้ว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเมื่อใด
นายศุภชัยยังกล่าวถึงการที่ กกต.มอบหมายให้เวลาธิการ กกต.ไปรับฟังความคิดเห็นจากเวทีวุฒิสภาเกี่ยวกับการหาทางออกประเทศว่า เป็นการไปรับฟังข้อเสนอแล้วมาแจ้งให้ที่ประชุม กกต.ทราบ สิ่งไหนที่ทำให้บ้านเมืองสงบ ส่วนตัวก็เห็นควรสนับสนุน แต่ก็ต้องดูว่าอยู่ในกรอบของเราหรือไม่ แต่เราจะไม่ขัดขวาง อะไรที่ทำให้บ้านเมืองสงบเราก็สนับสนุน หากมีการตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลางก็ไม่เกี่ยวกับเรา ตนมองเห็นเจตนาดีของว่าประธานวุฒิสภา อยากให้บ้านเมืองสงบ ไม่ตำหนิเลย และทุกฝ่ายควรที่จะต้องชมเชยในความกล้าหาญด้วยซ้ำ ที่ยอมเสียสละ ไม่ใช่จะไปฟ้องเขา
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ได้ชี้แจงกรณีหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 16 พ.ค. นำเสนอบทนำว่า “กกต.ยื้อเลือกตั้ง” รวมถึงคอลัมน์ “เรียงคนเป็นข่าว” ก็นำเสนอข้อความในลักษณะเดียวกันว่า ประเด็นการประชุมร่วมกับรัฐบาลที่ไม่ประสบความสำเร็จ 1. กกต.ได้ทำหนังสือเชิญ รัฐบาลมาร่วมประชุมกับ กกต.เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับเงื่อนไขการจัดการเลือกตั้ง โดยได้นัดหมายล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ ให้มีการประชุมในวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 9 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง อาคารบี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 2. กกต.ได้เตรียมการประชุม ทั้งในด้านบุคลากรและประเด็นเนื้อหาเป็นที่เรียบร้อยพร้อมที่จะประชุมตามวัน เวลาที่กำหนด
3. เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.ของวันที่ 14 ประธาน กกต.ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า มีการติดต่อมาจากรัฐบาล ขอย้ายสถานที่ประชุม เป็นหอประชุมโรงเรียนนายเรืออากาศ โดยอ้างเหตุผลความปลอดภัยของฝ่ายรัฐบาล 4. กกต.ยืนยันที่จะใช้ที่ประชุมที่ ศูนย์ราชการตามเดิม เนื่องจากเป็นการแจ้งแบบฉุกเฉิน และเสนอทางเลือกแก่รัฐบาล 3 ทาง คือ 1) ยืนยันประชุมตามเดิม 2) ให้มีการประชุมชุดเล็กระหว่างสองฝ่ายในเวลาสถานที่เดิม 3) ให้กำหนดวัน เวลา สถานที่ประชุมใหม่ ตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควร
5. รัฐบาลเลือกแนวทางที่ 3 โดยกำหนดการประชุมร่วม ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมกานตรัตน์ กองทัพอากาศ 6. ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 น. กกต.ทั้ง 5 ท่านได้เดินทางไปที่ห้องประชุมกานตรัตน์ กองทัพอากาศซึ่งเป็นสถานที่ที่รัฐบาลเป็นผู้เลือกเอง แม้ว่า กกต.จะมีการทักท้วงว่าอาจมีความไม่ปลอดภัยต่อผู้ประชุม แต่รัฐบาลยืนยันในมาตรการการรักษาความปลอดภัย ในที่ประชุมนอกจากฝ่ายการเมืองแล้ว ยังมี ผบ.ตร.และตัวแทนจากกองทัพ เข้าร่วมประชุมด้วย 7. เวลาประมาณ 10.30 น. ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของนายนิวัฒน์ธำรงได้มาแจ้งรายงานสถานการณ์ว่ามีม็อบเข้ามาสมควรเลิกประชุม ทำให้นายนิวัติธำรงประกาศยุติการประชุม และรีบเก็บแฟ้มประชุมเดินออกจากที่ประชุมอย่างรวดเร็ว
เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นสิ่งพิสูจน์ว่าปัญหาการประชุมทั้งสองครั้งที่ไม่สำเร็จ มิได้มีสาเหตุมาจากการที่ กกต.พยายามยื้อไม่ให้มีการประชุม แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากฝ่ายรัฐบาล สมควรที่สื่อมวลชนที่มีคุณภาพ ควรรายงานและนำเสนอความคิดเห็นที่เป็นธรรมต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หากมติชนเป็นสื่อที่ต้องการข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ตนยินดีมอบเทปบันทึกเสียงข้อความการสนทนาในช่วงเวลาดังกล่าวทั้งหมดเพื่อให้ข้อเท็จจริงได้ปรากฏ จะได้ทราบว่าในนาทีที่ขบวนม็อบยังมาไม่ถึง ทุกคนในที่ประชุมมีท่าทีอย่างไร
