โฆษก พท.โวยทีม กม.ปชป.ตีความกฎหมายแบบศรีธนญชัย ให้เลขาฯ วุฒิสภาทูลเกล้าฯ ตำแหน่งประธานวุฒิสภา ตั้งนายกฯ ม.7 เชื่อใครบ้าตามเสียงติดคุก ซัดเป็นเกมการเมือง ชิงอำนาจรัฐบาล ยัน “นิวัฒน์ธำรง” มีอำนาจปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้เลขาธิการวุฒิสภาเป็นผู้มีอำนาจในการทูลเกล้าฯ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย เป็นประธานวุฒิสภา รวมถึงเสนอให้นายสุรชัย เดินหน้าตั้งคณะกรรมการสรรหานายกรัฐมนตรี มาตรา 7 ว่า ตนมองว่านายวิรัตน์เสนอแนวทางไม่ต่างจากเผด็จการ เสนอนอกกฎหมาย นอกรัฐธรรมนูญ ตีความเข้าข้างตนเอง ข้อเสนอของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตรงข้ามกับความคิดประชาชน นักวิชาการและนักกฎหมาย เชื่อว่าหากเลขาธิการประธานวุฒิสภาและนายสุรชัย ทำตามที่ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์บอกก็จะขัดรัฐธรรมนูญ และเสี่ยงต่อการติดคุก
ส่วนการที่รักษาการประธานวุฒิาสภา อาจจะเสนอตั้งกรรมการสรรหานายกฯ มาตรา 7 นั้นก็ไม่ใช่อำนาจที่รักษาการประธานวุฒิสภา และอำนาจของวุฒิสภาจะกระทำได้ เพรารัฐธรรมนูญ มาตรา 50 กำหนดให้นายกฯ ต้องมาจาก ส.ส.และต้องผ่านการโหวตในสภาผู้แทนราษฎร ผู้ทูลเกล้าฯแลผู้รับสนองพระบรมราชโองการจะต้องเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า กรณีที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์พยายามอ้างกฎหมายแบบศรีธนญชัยว่านายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ไม่มีอำนาจทูลเกล้าฯ หรือมีอำนาจบริหาร แต่ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยยืนยันว่านายนิวัฒน์ธำรง มีอำนาจที่จะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีได้ทุกประการ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
“สิ่งที่นายวิรัตน์ และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์เสนอนั้นเป็นแค่เกมการเมือง เพื่อแย่งชิงอำนาจรัฐบาล และน่าจะเป็นการปล้นอำนาจประชาชนแบบหน้าด้านๆ ไม่เห็นหัวประชาชนเจ้าของอำนาจ ผมขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฟังเสียงประชาชน เคารพประชาชน ถ้าอยากได้อำนาจบริหารบ้านเมือง และทำให้ประชาชนยอมรับก็ควรจะลงสู่สนามเลือกตั้ง จะสง่างามมากกว่าที่จะมาเสนอให้ได้มาซึ่งนายกฯเถื่อนหรือรัฐบาลเถื่อนแบบนี้”