xs
xsm
sm
md
lg

พท.ปัดมีบิ๊กดีล นายใหญ่ยอมให้ “ชาญชัย” นั่งนายกฯ คนกลาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด (แฟ้มภาพ)
รองโฆษก พท.ปฏิเสธมีบิ๊กดีล นายใหญ่ยอมให้ “ชาญชัย ลิขิตจิตถะ” องคมนตรี เป็นนายกฯ คนกลาง ยันยื่นตีความการเลือกประธานวุฒิสภา มิชอบด้วยกฎหมาย เอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง เชื่อสุดท้ายโมฆะ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์กว่า มีบิ๊กดีลเกิดขึ้น โดยมีการเจรจากับคนจากแดนไกล หรือผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย ยินยอมให้มีนายกรัฐมนตรีคนกลาง โดยเห็นชอบร่วมกันว่าจะให้เสนอชื่อนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีคนกลาง ว่า ไม่เป็นความจริง ถ้าจะมีดีลเกิดขึ้นจริงต้องดีลกับประชาชนโดยการชนะการเลือกตั้งเท่านั้น ยืนยันว่าไม่มีการสมยอม สมรู้ร่วมคิดใดๆ พรรคเพื่อไทย พร้อมต่อสู้โดยจะไม่สมยอม หากมีความพยายามตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง เราจะต่อสู้ขัดขวางตามกระบวนการและวิถีประชาธิปไตยจนถึงที่สุด

นายอนุสรณ์ กล่าวด้วยว่า การที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศหลังจากที่เด็กในคาถา คือ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ได้รับคัดเลือกเป็นประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมประกาศให้นายสุรชัย ทูลกล้าฯ นายกฯ คนกลางในวันที่ 12 พ.ค. และให้ไปประชุมร่วมกับประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อกำหนดทิศทางตามแนวทางของนายสุเทพนั้น การประกาศดังกล่าวจะเป็นบททดสอบสำคัญของตัวแทนองค์กรเหล่านี้ว่าจะยินยอมให้นายสุเทพ ข่มขู่คุกคามหรือไม่ หรือจะยอมให้นายสุเทพ เป็นรัฏฐาธิปัตย์ อย่างอุกอาจเปิดเผยหรือไม่

สิ่งที่ นายสุเทพ ทำนั้นไม่มีใครตื่นตระหนก เพราะคนกรุงเทพฯ คุ้นชินตั้งแต่การชัตดาวน์กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ มวลชนร่อยหรอ เพราะการประกาศครั้งสุดท้ายของสุดท้ายเหลือมวลชนไม่ถึงหมื่น ท่อน้ำเลียงตีบตัน ขณะที่แนวร่วมก็ไปคนละทิศละทาง เพราะหลวงปู่พุทธะอิสระขอคืนพระราชอำนาจ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. อยากให้มีการรัฐประหาร ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อยากให้มีโรดแม็ป ชี้ให้เห็นว่าการจัดระเบียบแนวร่วมยังสะเปะสะปะ คนละทิศละทาง

“อยากให้สังเคราะห์ว่าตลอด 60 ปี ของพรรคประชาธิปัตย์เคยปฏิรูปอะไรที่แหลมคม น่าจดจำหรือไม่ ยืนยันว่าสุญญากาศในประเทศไม่เคยมี และไม่เคยเกิดขึ้นจริง จะมีก็คงเฉพาะเครือข่ายอำมาตย์ และ กปปส.เท่านั้นที่จะเป็นสุญญากาศ เพราะที่ผ่านมากระทำขัดรัฐธรรมนูญ สุดท้ายจะเป็นโมฆะ และเป็นสุญญากาศในที่สุด โดยเฉพาะการเลือกประธานวุฒิฯ ดังนั้น ฝ่ายกฎหมายจะยื่นร้องตีความเพื่อเอาผิดบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ สุดท้ายจะเป็นโมฆะ ส่วนจะยื่นทางช่องทางไหนนั้น คงต้องให้ฝ่ายกฎหมายหารือกันก่อน และทางเดียวที่จะทำให้รัฐบาลรักษาการพ้นไปได้ คือ ต้องเลือกตั้งเท่านั้น”


กำลังโหลดความคิดเห็น