ปชป.ออกแถลงการณ์เรียกร้องทุกฝ่ายยุติการยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า หวั่นรัฐบาลจนมุมทางการเมืองจะส่งซิกแก๊งแดงก่อความรุนแรง ขณะเดียวกัน แนะยุบ ศอ.รส. เหตุมีพฤติกรรมใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง พร้อมให้ยุติการโจมตีกระบวนการยุติธรรมและองค์กรศาล วอนรัฐบาลเสียสละ เป็นผู้นำยุติความขัดแย้ง ผลักดันการปฏิรูปการเมืองอย่างเป็นรูปธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ออกแถลงการณ์ว่า 1.พรรคประชาธิปัตย์ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างมวลชนฝ่ายสนับสนุนของกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะมวลชนคนเสื้อแดง ซึ่งจะมีการชุมนุมใหญ่ในวันนี้ โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า มวลชนเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเปิดเผย ได้รับการอำนวยความสะดวกจากเจ้าหน้าที่รัฐ พรรคฯ มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อรัฐบาลเข้าสู่ภาวะจนมุมทางการเมือง ก็จะหันมาใช้ยุทธศาสตร์การใช้ความรุนแรงเพื่อข่มขู่คุกคาม และเพื่อหวังแก้สถานการณ์ทางการเมืองให้แก่ตนเอง พรรคฯ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลการชุมนุมของทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าโดยไม่มีการแบ่งแยก พรรคฯ ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทำหน้าที่โดยยึดถือความถูกต้อง ปฏิบัติต่อประชาชนอย่างเท่าเทียม ยึดหลักกฎหมายของบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้สถานการณ์พัฒนาไปสู่การเผชิญหน้า และการนองเลือด
2.พรรคประชาธิปัตย์ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการได้ดำเนินการตัดสินใจยุบศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) เนื่องจากที่ผ่านมานั้นพฤติกรรมของผู้ที่มีบทบาทใน ศอ.รส. มักจะใช้อำนาจไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง มีการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง มีการออกแถลงการณ์ซึ่งเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ มีการวิพากษ์วิจารณ์ศาล และกระบวนการยุติธรรมอย่างเปิดเผย
นอกจากนั้น ยังมีลักษณะของการออกแถลงการณ์ข่มขู่คุกคามมวลชนที่เห็นต่างกับรัฐบาล มากไปกว่านั้น ศอ.รส.ก็ยังมีปัญหาความชอบธรรมทางด้านกฎหมายของการจัดตั้งหน่วยงานหลังการยุบสภา ซึ่งไม่ได้มีการขออนุมัติจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง และ ศอ.รส.เองก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการหลายแห่ง โดยเฉพาะฝ่ายทหาร พรรคฯ จึงเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง และยิ่งจะสร้างความแตกแยกให้มากขึ้นในสังคมไทย
3.พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า การเคารพกฎหมายอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยมีความเข้มแข็ง และเดินหน้าไปได้อย่างยั่งยืน พรรคฯ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล และพรรคเพื่อไทยยุติการโจมตีกระบวนการยุติธรรม และองค์กรศาลเมื่อเห็นว่าตนนั้นเป็นฝ่ายผิด แต่พรรคเพื่อไทยควรต้องมีมาตรฐานในการเคารพกระบวนการยุติธรรมในทุกกรณี มิใช่เลือกเฉพาะกรณีที่ตน และพรรคพวกได้รับผลประโยชน์ และขอให้ยุติท่าทีในการสร้างความสับสนให้แก่สังคม และควรยึดเอาข้อเท็จจริง และสาระสำคัญของเรื่องต่างๆ เป็นที่ตั้งมากกว่าที่จะใช้จินตนาการสร้างเรื่องราวเพื่อกล่าวร้ายกับภาคส่วนอื่น โดยเฉพาะความพยายามในการกล่าวถึงอำมาตย์ มือที่มองไม่เห็น หรือขบวนการสมคบคิดซึ่งไม่มีอยู่จริง
4.ปัญหาความชอบธรรมของรัฐบาลรักษาการก็ยังเป็นที่ถกเถียงทั้งในแง่ของอำนาจของผู้ที่ดำรงตำแหน่งรักษาการนายกฯ และอำนาจของผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนั้นจะสามารถกระทำการในขอบเขตต่างๆ ได้มากน้อยเพียงใด และจากมาตรา 10 และ 11 ของ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินก็ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของนายกฯ ซึ่งรองนายกฯ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ นั้นไม่ได้มีอำนาจที่เท่าเทียมกัน สาเหตุนี้จะเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้เกิดความสับสน และการไม่ยอมรับรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลจึงควรตัดสินใจที่จะเสียสละดำเนินการอย่างใดเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพื่อให้ปัญหา และผลประโยชน์ของประเทศสามารถถูกแก้ไข และผลักดันได้อย่างเป็นรูปธรรม
5.พรรคประชาธิปัตย์ย้ำว่า ปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นล้วนเป็นปัจจัยแห่งความขัดแย้งของสังคมไทยในปัจจุบัน พรรคฯ ย้ำจุดยืนของการไม่ต้องการเห็นการเผชิญหน้า การสูญเสีย การเปลี่ยนแปลงนอกกฎหมาย จนไปถึงการฉีกรัฐธรรมนูญ และการปฏิวัติรัฐประหาร พรรคฯ ย้ำว่าทางออกที่เหมาะสมของประเทศคือ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งจะต้องร่วมกันรับผิดชอบ ไม่ผลักภาระปัญหาทางการเมืองให้เป็นปัญหาของบ้านเมือง และต้องร่วมกันหาคำตอบที่เหมาะสมสำหรับประเทศ และประชาชนโดยรวม โดยแนวคิดการปฏิรูปต้องได้รับการผลักดันอย่างเป็นรูปธรรม กระบวนการประชาธิปไตยต้องเดินหน้าไปอย่างมั่นคง ประชาชนต้องมีความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบสนองจากฝ่ายการเมืองในการสร้างกลไกรองรับความต้องการต่างๆ ของภาคประชาชน เพื่อนำไปสู่ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง พรรคฯ จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายรับผิดชอบ และเสียสละเดินหน้าร่วมกันแก้ปัญหา โดยสามารถเริ่มได้ที่รัฐบาลรักษาการที่ต้องเป็นผู้นำในการยุติความขัดแย้ง และเสียสละเพื่อพาประเทศเดินหน้าเพื่อให้มีจุดเริ่มของการแก้ไขปัญหาต่อไป