โฆษก ปชป.ห่วงรัฐบาลปล่อย 2 ม็อบเผชิญหน้า มือที่ 3 แฝงสร้างสถานการณ์จนควบคุมไม่ได้ นำไปสู่สงครามกลางเมือง ซัดรัฐบาลทำตัวเป็นศรีธนญชัย บิดเบือนสร้างภาพไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการตัดสินความผิด “ยิ่งลักษณ์” ของศาล รธน. ขณะที่ประธานแก๊งแดงสร้างนิยายหลอกเด็กดึง “ป๋าเปรม” ให้สมุนย่ำยี
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคเป็นห่วงการยกระดับการชุมนุมและอาจเกิดการเผชิญหน้าของมวลชนทั้ง กปปส.และ นปช.ในสุดสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอาจมีผู้ไม่หวังดีที่แฝงตัวเข้ามาโดยมีการอำนวยความสะดวกจากเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อสร้างสถานการณ์ ทำให้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยที่รัฐบาลไม่ได้ระงับเหตุใดๆ ท่ามกลางวิกฤตประเทศที่เกิดจากผู้มีอำนาจตั้งตัวเป็นรัฐธรรมนูญเสียเอง ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยถึงความผิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างชัดเจน แต่พรรคเพื่อไทยยังทำตัวเป็นศรีธนญชัย บิดเบือนสร้างภาพว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งเป็นการทำร้ายประเทศอย่างร้ายแรง โดยเหยียบย่ำรัฐธรรมนูญ
ส่วนที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ประกาศไม่ลงสมัคร ส.ส.นั้น ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อแผ่นดินและสภาไทย แต่แกนนำ นปช.กลับใช้มุกเก่าสร้างนิยายหลอกเด็กที่อ้างถึงชื่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มาให้คนเสื้อแดงย่ำยี เพื่อปกป้องตัวเองให้พ้นผิด พรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่าไม่มีทฤษฎีสมคบคิดใดๆ ตามที่แกนนำ นปช.กล่าวอ้างเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น วันนี้รัฐบาลต้องยอมรับว่าไม่สามารถนำประเทศพ้นวิกฤตได้ การมุ่งสู่การเลือกตั้งวันที่ 20 ก.ค.ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ ดังนั้นคนที่มีอำนาจสามารถตัดสินใจได้ต้องออกมาตัดสินใจไม่ให้ประเทศถลำสู่วิกฤตความขัดแย้งเกินที่จะถอนตัวได้
ส่วนที่แกนนำ กปปส.ยกระดับเคลื่อนไหวมวลชนไปปิดสถานีโทรทัศน์และทำเนียบรัฐบาลนั้น นายชวนนท์กล่าวว่า ทางพรรคได้เฝ้าจับตามองความเคลื่อนไหวเช่นกัน และเห็นว่า การกระทำของกลุ่ม กปปส.ยังไม่มีการทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด เพราะการเคลื่อนมวลชนไปนั้นก็ยังไม่ได้มีพฤติกรรมที่บุกรุกเข้าไปยังอาคารภายในของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ และยังไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญ ทุกอย่างยังอยู่ภายใต้สิทธิของรัฐธรรมนูญ แต่วันนี้เกรงว่า รัฐบาลจะปล่อยปละละเลยให้แต่ละฝ่ายใช้กำลังตามอำเภอใจ จากนั้นจะใช้กำลังแฝงที่มีการใช้อาวุธโดยมีผู้ชุมนุมเป็นเป้าหมายเพื่อนำสู่สงครามกลางเมือง ถ้ารัฐบาลทำอย่างนี้ก็จะกลายเป็นทรราชเต็มตัวทันที ซึ่งพรรคจะคอยจับตาดู เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า หรือเกิดเหตุรุนแรงใดๆ ขึ้นอีก ที่สำคัญพรรคไม่ต้องการให้ประชาชนถูกหลอกมาเป็นเกราะกำบังของรัฐบาลอีกแล้ว