“อภิสิทธิ์” ห่วงการเมืองวุ่นมีปลุกระดมมวลชน ชี้ สตง. เตือนดันทุรังเลือกตั้งผลาญงบอีก แปลกใจคำพูด “ปู”

หน.ปชป. เชื่อการเมืองร้อนขึ้น ชี้มีการปลุกระดมมวลชน เชื่อโรดแมปตนไม่เสียหาย ชี้ สตง. ส่งหนังสือให้ชดใช้เงิน 3.8 พันล้านค่าเสียหายเลือกตั้งล่ม สะท้อนถ้าดึงดันก็เสียเงินอีก ยันได้ยินคำพูดนายกฯ แล้วทำตัวไม่ถูก เพราะสิ่งที่อ้างว่าไม่ได้ทำกลับทำ

วันนี้ (8 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองจากนี้ไปว่าอุณหภูมิคงจะร้อนแรงขึ้น เพราะทั้งฝ่ายรัฐบาลและกลุ่ม กปปส. มีการปลุกระดมมวลชน โดยต่างฝ่ายต่างก็ยังมีความมั่นใจในแนวทางของตัวเอง จะเห็นว่าเมื่อวานนี้ ทั้งๆ ที่นายกรัฐมนตรีพ้น คือไม่อยู่แล้ว รัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็ยังท่องคาถาบอกว่าไปเลือกตั้ง 20 ก.ค. เพราะฉะนั้นมันก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฝ่าย กปปส. เองซึ่งต้องการเห็นการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง แล้ววันนี้เห็นว่าไม่มีนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็เดินหน้าในการที่จะเคลื่อนไหว ที่ใช้คำว่า ทวงคืนอำนาจของประชาชนกลับมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ไม่มีนายกรัฐมนตรีแล้ว จะเข้าในขั้นตอนแผนทางออกของประเทศในการสรรหาตัวนายกฯ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่ เพราะบางฝ่ายคิดเช่นนั้น แต่บางฝ่ายไม่ยอมรับ ฝ่ายหนึ่งก็บอกว่าต้องดำเนินการเพราะรัฐธรรมนูญบอกว่านายกฯ นั้นเมื่อพ้นไปแล้วต้องมีการสรรหา อีกฝ่ายนึงก็บอกว่าไม่ได้ ต้องรอเลือกตั้ง มันก็จะเกิดความขัดแย้งกัน แต่แผนที่ตนเสนอนั้นจะต้องไม่มีความขัดแย้ง คือทุกฝ่ายต้องยินยอมพร้อมใจมาเดินด้วยกัน แต่วันนี้ถามว่าประเด็นที่จะเดินนี้มันยังเดินได้แต่เดินแบบมีการโต้แย้งกันตลอดเวลา

ต่อข้อถามว่าหากเอาคนกลางมาแก้ปัญหา แก้สถานการณ์ ทำในสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น แล้วจะเสียหายอะไรกับพรรคเพื่อไทยอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากทำตามแผนของตนนั้น ไม่เสียหาย เพียงแต่ต้องมีการกำหนดแผนทางเดินของประเทศให้ชัดว่า คนกลางที่เข้ามานี้จำกัดอำนาจขอบเขตไว้ที่ไหน ห้วงเวลาที่จะมาทำหน้าที่ตรงนี้ใช้เวลานานเท่าไหร่เพื่อที่จะเป็นความมั่นใจว่า มันไม่ใช่เป็นการเอาคนกลางเข้ามาโดยที่ไม่มีขอบเขต มิเช่นนั้นจะถูกกล่าวหาว่าเป็นรัฐประหารเงียบก็จะเป็นประเด็นขึ้นมา

ส่วนที่มีหนังสือจาก สตง. ให้รัฐบาลชดใช้เงิน 3,800 ล้าน ที่จัดการเลือกตั้ง 2 ก.พ. แล้วเป็นโมฆะ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ค่อยแน่ใจว่าในรูปธรรมนั้นหมายถึงอย่างไร แต่ว่าประเด็นที่ สตง. สะท้อนออกมาคือว่า การดึงดันในขณะนั้นทั้งๆ ที่มีการทักท้วงให้แก้ไขปัญหาเพื่อให้การเลือกตั้งเรียบร้อย หรือเป็นไปตามรัฐธรรมนูญนี้ เมื่อรัฐบาลเป็นคนปฏิเสธ แล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นคือการสูญงบประมาณโดยไม่ได้ผลตามมา ก็เป็นเรื่องที่ต้องถามหาความรับผิดชอบ ส่วนใครจะต้องรับผิดชอบบ้างก็ต้องว่ากันไป แต่ว่าสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ สตง. กำลังเตือนกลายๆ ว่าถ้าคิดจะดึงดัน ผลักดันการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะไม่เรียบร้อย จะต้องมีการเสียเงินอีก ก็น่าจะจำนวนใกล้เคียงกัน 3,800 ล้าน แล้วเตรียมรับผิดชอบไว้ด้วยหรือไม่ ซึ่งต้องสื่อสารไปถึง กกต. ด้วยว่า ไม่ได้มีหน้าที่แค่จัดการเลือกตั้งเท่านั้น แต่มีหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งให้สำเร็จ และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นถ้าจะเลือกตั้งแล้วมันไม่สำเร็จ ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญจะต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

ส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แถลงลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยระบุถึงทำงานมา 2 ปี 9 เดือน 2 วัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “เอาเป็นว่า พวกผมที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลมา 2 ปี 9 เดือน 2 วัน บอกได้แต่เพียงว่า คือได้ยินแล้วทำตัวไม่ถูกเลย จะตกใจ หรือจะหัวเราะ หรือจะร้องไห้นั้น ตอบยากจริงๆ ครับ เพราะยืนยันได้เลยว่า หลายสิ่งหลายอย่างที่บอกว่าไม่ได้ทำนั้น ทำ และหลายสิ่งที่บอกว่าได้ทำไปนั้น ไม่ได้ทำ”