หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “ยิ่งลักษณ์” ไม่สุดทาง มองแค่ลดระดับอุณหภูมิการเมือง ก่อนก่อตัวระลอกใหญ่ หลังเริ่มมีขบวนการดึงศาลมาร่วมความขัดแย้ง เชื่อดันทุรังเลือกตั้งปัญหาก็ยังไม่จบ ด้าน “วิรัตน์” เชื่อรัฐบาลเร่งเลือกตั้ง หวังฟอกผิดให้ตัวเอง ใช้สื่อวิทยุ-ทีวีเสื้อแดงปั่นหัวเข้าใจผิดศาล
วันนี้ (7 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่า ศาลตัดสินออกมาเป็นในลักษณะที่ไม่ได้สุดไปทางใดทางหนึ่ง อาจจะลดอุณหภูมิลงมาระดับหนึ่ง และการที่ตัดสินเร็วขึ้นก็มีผลดีเพราะหากไปตัดสินในช่วงที่มีการชุมนุมแล้ว จะทำให้มีความรุนแรงมากขึ้น แต่ก็มีคำถามอยู่ว่าแล้วมันเดินต่อไปอย่างไร ความขัดแย้งพื้นฐานที่ยังเถียงกันอยู่ ขณะนี้เริ่มมีการดึงศาลมาสู่ความขัดแย้งโดยออกแถลงการณ์เชิญชวนประชาชนที่ไม่พอใจคำตัดสินให้ออกมาแสดงออกเคลื่อนไหว โดยพรรคเพื่อไทยก็รีบออกมาบอกว่าต้องไปเลือกตั้ง ส่วน กปปส. ก็ระบุว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรม แสดงให้เห็นว่าปัญหาก็ยังมีอยู่
“ผมคิดว่าศาลตัดสินออกมา อาจจะลดอุณหภูมิลงมาระดับหนึ่ง แต่สุดไม่สุดนี้ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ ปัจจัยสำคัญข้อกฎหมายว่าอย่างไรก็ต้องอย่างนั้น และการที่ตัดสินเร็วขึ้นมีผลดีอย่างหนึ่ง เพราะมวลชนจะระดมจะชุมนุมใหญ่วันที่ 10 หรือ 14 หากตัดสินในช่วงที่มีการชุมนุมแล้ว อาจจะทำให้มีความรุนแรงมาก จึงเป็นเหตุผลที่ผมต้องเสนอแนวทางออกให้กับประเทศ เพราะมองเห็นว่าผลจะออกมาเป็นอย่างนี้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทำหนังสือทวงถามความรับผิดชอบต่อการสูญเสียเงิน 3,800 ล้านบาทในการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถือเป็นการท้วงขึ้นมาว่าหากยังมีการทำผิดซ้ำสองใครจะรับผิดชอบ และเชื่อว่าแม้จะมีการผลักดันให้จัดเลือกตั้งสำเร็จ และตั้งรัฐบาลได้ บ้านเมืองก็ไม่สงบ เพราะยังมีคนจำนวนมากที่ต่อต้านไม่ยอมรับไม่ยอมถูกยัดเยียดให้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ส่วนชัยชนะของ กปปส. ที่บอกว่าเด็ดขาดนั้นจะมาอย่างไร เพราะเชื่อว่าคนที่สนับสนุนรัฐบาล พรรคเพื่อไทย จำนวนมากในประเทศนี้ก็คงไม่ยอมรับเหมือนกัน
ด้าน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเพื่อแสดงจุดยืนและท่าทีของพรรคโดยไม่ยอมรับคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ และให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และรัฐบาล เร่งตรา พ.ร.ฎ.เลือกตั้งให้เร็วที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งว่า ถือเป็นการปฏิเสธประชาธิปไตย ปฏิเสธรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยและระบอบทักษิณกระทำการหมิ่นเหม่ต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายมาตลอด คนกลุ่มนี้ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพการตรวจสอบ ไม่ต้องการให้มีกฎหมายใดๆ ถ้าทำผิดก็ต้องไม่รับผิด เช่น ถ้ากฎหมายไหนที่เขาทำผิดก็จะแก้ไขใหม่ไม่ให้เป็นความผิดอีกต่อไป ถ้าแก้ไม่ได้ก็จะออกกฎหมายนิรโทษ
ส่วนการที่รัฐบาลเร่งตรา พ.ร.ฎ.เลือกตั้งให้เร็วที่สุด นายวิรัตน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะได้อ้างว่าถ้าชนะเลือกตั้งแล้ว แต่กลับถูกศาลรัฐธรรมนูญและถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กลั่นแกล้ง และจะใช้วิทยุชุมชน ทีวีเครือข่ายเสื้อแดงปั่นกระแสให้ชาวบ้านเข้าใจผิดศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. และศาลปกครอง ให้เห็นว่าโดนกลั่นแกล้ง แต่ความจริงคนเหล่านี้ทำผิดทุกขั้นตอนทั้งกฎหมายอาญาและรัฐธรรมนูญ แต่มาบิดเบือนให้ชาวบ้านเข้าใจผิด อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า กกต. และรัฐบาลยังเห็นต่างในเรื่องการออก พ.ร.ฎ.เลือกตั้งในสาระสำคัญ หากป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ครม. ชุดรักษาการที่มีอยู่ในกรณีจำนำข้าว ครม. ชุดนี้ก็ต้องไปหมด
“คาดว่ารัฐบาลคงเร่งเดินหน้าเลือกตั้งเพื่อหวังฟอกผิดให้ตัวเอง โดยอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง เพื่อมาบิดเบือนว่ามาจากการเลือกตั้ง ไม่ผิด ทั้งที่ความผิดจากการทุจริตก็คือผิดจากการโกง” นายวิรัตน์ กล่าว