รายงานการเมือง
การประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ 57 วาระ 2 และ 3 ถือเป็นรายการเรียกน้ำย่อยการเมืองที่อาจจะไม่เข้มข้นเท่ากับศึกซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะระเบิดศึกกันในช่วงปลายสมัยประชุมสภาฯ นี้
หรืออาจจะด้อยกว่าการอภิปรายร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ พ.ศ. ...วงเงิน 2 ล้านล้านบาทในวาระ 2 และ 3 ที่จ่อเข้าสภาฯในอนาคตอันใกล้
แต่ก็น่าติดตามไม่น้อยกับการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ 57 วาระ 2 และ 3 ในช่วง 14-15 สิงหาคมนี้ เนื่องจากมีส.ส.จำนวนมากโดยเฉพาะฝ่ายค้านต้องการใช้สิทธิอภิปราย เนื่องจากส.ส. ประชาธิปัตย์(ปชป.) ก็คงไม่พลาดที่จะใช้เวทีสภาฯรอบนี้จัดการซัดรัฐบาลอีกรอบ
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยอภิปรายกันมาแล้วในช่วงพิจารณางบวาระแรกเมื่อหลายเดือนก่อนเนื่องจากมันมีลูกติดพันสามารถอภิปรายขยายผลในวาระ 2 ต่อจากวาระแรกได้ต่อ ด้วยเหตุที่ส.ส.ที่ไม่เป็นกมธ.ก็ได้ยื่นขอสงวนคำแปรญัตติ มีมากมายหลายคนที่จะได้สิทธิอภิปรายในวาระ 2
แล้วก็ยังมีพวกกมธ.งบฯ 57 ในส่วนของพรรคปชป.เองที่เป็นกมธ.เสียงข้างน้อยก็จะใช้เวทีนี้อภิปรายพูดถึงการจัดสรรงบของกระทรวง-กรม-สำนักงานต่างๆ กันเต็มที่
เนื่องจากถือเป็นเวทีซึ่งเปิดกว้างให้ส.ส.อภิปรายกันได้แบบมีแรงเสียดทานน้อย หากข้อมูลไม่แรงหรือไปเปิดแผลคนในรัฐบาลหรือแกนนำพรรคเพื่อไทยคนไหนเข้า ก็ไม่ค่อยมีการประท้วงอะไรให้เสียเวลา
เพราะต้องเข้าใจก่อนว่า หากมีส.ส.ติดใจสงสัยหรืออภิปรายงบกระทรวงไหนหรือโครงการอะไรมากเป็นพิเศษ คนที่จะเป็นผู้ชี้แจงหลักคือกรรมาธิการงบฯ 57 ที่ส่วนใหญ่ก็คือพวกกมธ.จากซีกรัฐบาล-พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรี เว้นแต่มีการอภิปรายพาดพิงแบบโดนไปเต็มๆ เลี่ยงไม่ได้และปล่อยไปจะเกิดความเสียหาย รมต.เจ้ากระทรวงหรือรมต.ที่เกี่ยวข้องก็จะลุกขึ้นชี้แจงเองเว้นแต่ไม่ได้เตรียมมา
เบื้องต้นมีการเปิดเผยแนวอภิปรายของส.ส.ปชป.ออกมาแล้วจากวิปฝ่ายค้านบางส่วนว่า ภาพรวมการอภิปรายของฝ่ายค้าน จะมุ่งเน้นไปที่ภาพรวมการจัดทำงบฯ 57 ของรัฐบาลแบบต่อยอดจากวาระแรก คืออะไรที่ยังค้างคาใจ หรือคิดว่าวาระแรกยังอภิปรายไม่สุดๆ ก็จะมาใช้เวทีวาระ 2 นี้ กระหน่ำอีกรอบ
โดยหลักๆ ก็คงมุ่งเน้นไปว่า มีการตั้งงบฯ แบบไร้ระเบียบวินัยการเงินการคลัง มีสิทธิ์สูงที่จะเปิดช่องให้มีการรั่วไหลของงบประมาณ งบหลายโครงการโดยเฉพาะพวกงบลงทุนต่อเนื่องที่ใช้งบแบบข้ามปี ไม่มีการระบุรายละเอียดโครงการให้ชัดเจน อีกทั้งพบว่ามีการจัดสรรโครงการลงแต่ในพื้นที่ส.ส.รัฐบาลเป็นส่วนใหญ่เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง
ซึ่งเห็นได้จากรายงานของคณะกมธ.งบฯ 57 ที่ระบุไว้ในรายงานกมธ.ในส่วนของ ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณของรัฐบาลในภาพรวมที่มี 15 ข้อ ซึ่งกมธ.ได้ระบุในตอนหนึ่งว่า
“การขอรับการจัดสรรงบลงทุนของหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมทางหลวงชนบท กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมชลประทาน โดยเฉพาะรายการค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ควรจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการให้ครอบคลุม ทุกพื้นที่ตามความจำเป็น โดยคำนึงถึงหลักการกระจายงบประมาณ ไม่ควรกระจุกตัวเฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง”
ดูแล้วประเด็นฮอทๆ ที่เคยทิ้งเชื้อไว้ตอนวาระแรก ข่าวว่าวาระ 2 ยังมีต่อภาคสองไม่ว่าจะเป็นงบกระทรวงศึกษาธิการ ที่จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.เคยอภิปรายเรื่องงบประมาณเพื่อจัดซื้อรถตู้โดยสาร ขนาด 12 ที่นั่ง (ดีเซล) จำนวน 1,000 คัน วงเงิน2,343,724,000 บาท ที่มีการเขียนไว้ในเอกสารงบซึ่งตั้งราคาไว้แพงกว่าราคาในท้องตลาดมาก แต่ตอนนั้นเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการอ้างว่าสำนักงบประมาณพิมพ์ตัวเลขผิด
มาวาระ 2 ก็คาดว่างบกระทรวงศึกษาธิการคงโดนส.ส.ฝ่ายค้านไล่ชำแหละขยายความต่ออาทิงบซื้อเราเตอร์ไวไฟ ตามโรงเรียนต่างๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่ตั้งงบไว้ หลายพันล้านบาทเพื่อรองรับโครงการแจกแท็บเล็ตให้เด็กป.1
นอกจากนี้ก็ยังมีพวกงบของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ฝ่ายค้านติดใจบางโครงการที่เป็นพวกงบอบรมสัมมนา-งบปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น งบ ซ่อมตึกอาคาร ลอกท่อ ทำถนน ในพื้นที่ กทม. 50 เขต เขตละ 30 ล้านบาทแต่จัดให้กับเฉพาะเขตของส.ส.พรรครัฐบาล
หรือพวกงบโฆษณาหน่วยงานรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่อย่างบริษัท ปตท. -ธนาคารออมสิน ที่ก็มักอัดฉีดงบโฆษณาลงไปที่สื่อที่เชียร์รัฐบาลเพื่อไทยเป็นหลักโดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ในเครือข่ายเพื่อไทยอย่างช่อง Voice TV และทีวีเสื้อแดง หลังในการพิจารณาวาระแรกส.ส.ฝายค้านอย่างเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.ปชป.ได้เคยอภิปรายมาแล้วรอบหนึ่ง
นอกจากนั้นที่คาดว่าจะโดนฝ่ายค้านเรียงหน้าขึ้นอภิปรายก็ยังมีอีกหลายกระทรวง อย่างเช่นงบกลาง ที่รู้กันดีว่าเป็นงบที่ตั้งไว้เพื่อให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนำไปใช้ในโอกาสต่างๆ โดยเฉพาะกรณีฉุกเฉินหรือมีเหตุจำเป็นแต่ก็เห็นบ่อยที่รัฐบาลหลายชุดมักเล่นแร่แปรธาตุนำงบดังกล่าวไปจัดสรรเป็นงบหาเสียงทางการเมืองให้กับรัฐบาลหรือใช้จ่ายกันอย่างมือเติบ
รอบนี้ ข่าวว่าฝ่ายค้านก็จ้องซ้ำอีกรอบ กับงบกลาง ที่เป้าก็คงหวังชิ่งไปถึงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เสียหน่อย อย่างเช่นงบสร้างภาพพจน์ประเทศของนายกรัฐมนตรีในส่วนสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จัดไว้ 500 ล้านบาท เชื่อว่าส.ส.ฝ่ายค้านน่าจะใช้โอกาสนี้อภิปรายติงว่าการตั้งงบดังกล่าวไม่มีรายละเอียดว่าจะเอาไปทำอะไรบ้าง แล้วก็อภิปรายพ่วงพาดพิงยิ่งลักษณ์ไปในเชิงว่าชอบเดินทางไปต่างประเทศบ่อยเกินควรและไปมาแล้วก็ไม่เห็นได้งานอะไรกลับมาเป็นเนื้อเป็นหนัง นอกจากโชว์ชุดสวยกับยิ้มหวานแต่ละทริปที่ไม่คุ้มกับการเดินทางที่ยิ่งลักษณ์ชอบยกคณะแบบเหมาลำไปต่างประเทศแบบถี่ยิบ
ไฮไลท์สำคัญที่หลายคนรอชมก็คงไม่พ้น การอภิปรายงบในส่วนของโครงการหรือหน่วยงานสำคัญๆ อย่างเช่น งบกระทรวงพาณิชย์ หลายคนก็ลุ้นเหมือนกันว่ารอบนี้นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ซึ่งตอนอภิปรายงบวาระแรกมีการเปิดชื่อตัวละครใหม่ๆ ในโครงการรับจำนำข้าวออกมาเพิ่มเติมจากตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อปี 55 ไม่ว่าจะเป็น "เสี่ยเปี๊ยก" เจ้าของโรงสีที่ลพบุรี และ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์
ก็ไม่รู้ว่าอภิปรายงบฯ57 จะมีอะไรเด็ดๆ ออกมาจากฝ่ายค้านหรือไม่ในเรื่องโครงการรับจำนำข้าว แม้ดูแล้วเชื่อว่า ตอนนี้ส.ส.ฝ่ายค้านก็ต้องเก็บของดี-ทีเด็ดเอาไว้แล้ว จะมาปล่อยหมดตอนนี้ไม่ได้ ขืนปล่อยหมดพอไปถึงช่วงซักฟอกหากไม่มีทีเด็ดอะไร ศึกซักฟอกงานจะกร่อยเอาได้
ดูแล้วอภิปรายงบฯ 57 เนื้อหาและข้อมูลหลักๆ ก็จะเป็นการขยายความขยายผลจากการอภิปรายวาระแรก และข้อมูลสำคัญๆ ที่ส.ส.ของพรรคไปได้มาในชั้นกรรมาธิการฯงบ 57 โดยเฉพาะงบที่เป็นการตั้งโครงการซึ่งข้าราชการระดับสูงในแต่ละหน่วยงานไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปของโครงการได้ เพราะมีความคลุมเคลือเนื่องจากตั้งงบตามคำสั่งของนักการเมือง ข้อมูลเหล่านี้ ฝ่ายค้านก็จะนำมาอภิปรายในช่วง 14-15 ส.ค.นี้
เนื้อหา-ประเด็นการอภิปราย ตลอดจนการเชือดเฉือนกันของฝ่ายค้าน-รัฐบาลในช่วงการพิจารณางบฯ 57 จะเป็นอย่างไร จะออกแนวถ้อยทีถ้อยอาศัยแต่มีดุดันในบางจังหวะเพื่อเรียกความสนใจจากประชาชนและสื่อหรือเปิดมาก็ซัดกันหนักเลย ลากโยงสารพัดเรื่องนัยว่าเป็นเรื่องต้องอภิปรายเพราะเกี่ยวข้องกับการเอางบประมาณแผ่นดินไปใช้เพื่อหวังซัดรัฐบาล จนส.ส.เพื่อไทยประท้วงกันวุ่นวาย ก็รอติดตามกันได้
