xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.งัดแผนโลกล้อมรัฐบาลแก้เกม เดินสายพบ“ แบลร์-อันนัน” แฉความจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต (แฟ้มภาพ)
ปชป.ใช้แผนเกลือจิ้มเกลือ แก้เกมโลกล้อมรัฐบาล เดินสายพบ “โทนี แบลร์-โคฟี อันนัน” แจงความจริง “กม.นิรโทษกรรม-สภาปฏิรูป” ชี้เป็น กม.ที่องค์กรระหว่างประเทศฟันธงว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง พร้อมร่อน จม.ถึงยูเอ็น ฮิวแมนไรท์วอชท์ แปลรายงาน คอป.-กสม.ฟ้องชาวโลก รัฐบาลไม่ปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน เมินนิติรัฐ นิติธรรม ยันมีคนได้ประโยชน์จาก กม.นิรโทษแค่ 167 คน “องอาจ” ห่วงรัฐปิดปากวันถกงบปี 57 เพราะกลัวถูกลากไส้ ชี้ กม.นิรโทษหมกเม็ด ขัด รธน.ม.30

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการนิรโทษกรรมและการจัดเวทีสภาปฏิรูปการเมืองของรัฐบาลว่า เป็นเพียงเวทีลดความกดดันจากการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเท่านั้น การเดินสายเป็นเพียงละครทางการเมืองมาสนับสนุนแผนการของรัฐบาลที่จะล้างผิด จึงขอเรียนไปยังทุกท่านที่ได้รับเชิญว่ากำลังตกเป็นเครื่องมือรัฐบาลที่จะล้างผิดคนฆ่า คนเผา คนหมิ่นสถาบัน จึงขอให้ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองทุกท่านที่กระโจนไปร่วมให้คำนึงว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ในการผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมทางอ้อม

“ที่รัฐบาลบอกจะช่วยคนเป็นพันเป็นหมื่นนั้นโกหก เนื่องจากคนที่ถูกดำเนินคดีมีเพียง 1,800 คน สิ้นสุดคดีแล้ว 1,644 คน ติดคุก 5 คน กำลังพิจารณาคดี 150 คดี ผู้ถูกคุมขังเพียง 13 คน ส่วนคนหมิ่นสถาบันมี 12 คน รวมมีผู้ถูกคุมขังอยู่ 30 คน และอยู่ระหว่างต่อสู้คดีอีก 137 คน รวมถึงแกนนำแดงและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งแกนนำรู้ดีว่าไม่มีทางพ้นข้อกล่าวหาก่อการร้าย จึงพยายามผลักดันกฎหมายนี้ซึ่งจะมีผู้ได้ประโยชน์เพียงแค่ 167 คน”

นายชวนนท์ กล่าวว่า แนวทางการปฏิรูปที่แท้จริงมีข้อเสนอจากข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ ที่ระบุชัดว่าการนิรโทษกรรมให้กับคนฆ่าโดยไม่ค้นหาความจริงเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง รวมถึงรายงานของฮิวแมนไรท์วอชท์ ที่ระบุว่าเป็นโศกนาฏกรรมทับซ้อนในประเทศไทย ยอมรับไม่ได้เด็ดขาดที่จะมีการยกเลิกความผิดให้คนที่ลั่นไกยิงประชาชน สร้างความเสียหายผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม ยังไม่รวมข้อเสนอของ คอป.ที่รัฐไม่เคยตอบรับ

ดังนั้น พรรคจะเดินสายชี้แจงความจริงที่เกิดขึ้น โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มอบหมายให้ นายกษิต ภิรมย์ นายกรณ์ จาติกวณิช นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายเกียรติ สิทธีอมร และตน ร่วมกันเป็นคณะทำจดหมายเปิดผนึกถึงองค์กรภาคประชาชน สมาคมผู้สื่อข่าวและหน่วยงานระหว่างประเทศ ให้ทราบความจริงว่ารัฐบาลกำลังใช้อำนาจรัฐในทางที่มิชอบ แม้แต่องค์กรระดับโลก ก็คัดค้าน จะมีการขอเข้าพบ นายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ เมื่อเดินทางมาประเทศไทย เพื่อชี้แจงความจริงไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือหรือตรายางให้กับกฎหมายล้างผิดของรัฐบาล และจะเชิญตัวแทนสถานทูตในประเทศไทยมารับฟังความเห็นจากฝ่ายต่างๆ ในกรณีนี้ด้วย

นอกจากนี้พรรคจะส่งจดหมายไปยังสหประชาชาติ และสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ให้ช่วยยับยั้งการกระทำของรัฐบาล โดยจะมีการแปลรายงานข้อสรุปของ คอป.และกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ นายโคฟี อันนัน เคยมาประเทศแล้วและเสนอให้รัฐบาลทำตาม คอป.พร้อมกับเสนอให้อดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งเสียสละ แต่รัฐบาลพยายามออกกฎหมายล้างผิด ใช้โลกมาล้อมประเทศ จึงขอบอกว่าเราจะใช้โลกล้อมรัฐบาลด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งประเทศที่มีมาตรฐานเขาทราบดีว่าควรล้อมประเทศไทย หรือล้อมรัฐบาลไทย และขอยืนยันว่าเราทำเพื่อรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และระบบนิติรัฐ นิติธรรม

ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 วาระ 2 และ 3 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14-15 ส.ค.56 ซึ่งคณะกรรมาธิการได้มีข้อสังเกต 15 ข้อไปยังรัฐบาล ให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างจริงจัง เช่น การใช้จ่ายเงินนายกรัฐมนตรีจะกำกับดูแลให้การบริหารจัดการคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง

ทั้งนี้เห็นว่าสัปดาห์นี้มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะรวบรัดตัดตอนไม่ให้ ส.ส.ฝ่ายค้านทำหน้าที่ด้วยการเสนอให้ปิดการอภิปราย เพราะกลัวการเปิดโปงการทุจริตกลางสภา เช่น โครงการรับจำนำข้าว การซื้อรถตู้ของกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากในชั้นกรรมาธิการพบว่าการจัดสรรงบปี 57 อาจนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชัน จึงทำให้รัฐบาลกังวลว่าจะถูกเปิดโปง ในส่วนของพรรคขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่าไม่ควรหักดิบใช้เสียงข้างมากเพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านแปรญัตติ เพื่อปิดปาก ส.ส.ฝ่ายค้านในการพิจารณางบประมาณครั้งนี้ หากนายกฯมีความจริงใจที่จะปราบการทุจริตคอร์รัปชันควรใช้โอกาสนี้ให้ฝ่ายค้านได้ตรวจสอบการทุจริตอย่างเต็มที่

ส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในส่วนของพรรคหวังว่า กรรมาธิการเสียงข้างมากของรัฐบาลจะรับฟังเสียงข้างน้อยของฝ่ายค้านในกรรมาธิการด้วย เพราะหากรับฟังเสียงของฝ่ายค้านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็จะเป็นไปด้วยความราบรื่น ถ้าไม่ได้ออกมาเพื่อล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชิวัตร หรือแกนนำ เสียงข้างมากก็ควรจะทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นจริง นอกจากการพูดข้างนอกเฉยๆ ซึ่งพรรคเห็นว่ามีหลายประเด็นที่ต้องทำให้ชัดเจนคือ

1.การหมกเม็ดหลักการไว้อย่างคลุมเครือ แต่ในเนื้อหากับนิรโทษกรรมให้คนก่อการร้าย คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และนิรโทษกรรมคนไม่ร่วมการชุมนุมด้วย 2.กฎหมายนี้ส่อขัดรัฐธรรมนูญหลายมาตราเช่น มาตรา 30 ระบุว่าช่วงเวลานิรโทษกรรมต้องปรับแก้ให้มีความเท่าเทียมกันมากขึ้น 3.กฎหมายนี้มีเรื่องขัดกันของผลประโยชน์หลายกรณี ทั้ง ส.ส.และผู้ที่เกี่ยวข้องกับ ส.ส.จะได้ประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้ จึงเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน และยังมีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ไม่ได้ลงชื่อเป็นผู้เสนอกฎหมายก็จะได้รับประโยชน์ด้วย

4.กฎหมายนี้น่าจะเป็นกฎหมายการเงินต้องได้รับการลงนามจากนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะจะมีผลในการนิรโทษกรรมคนเผาศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ที่ศาลสั่งให้ชดเชยเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งผูกพันกับทรัพย์สินรัฐต้องจัดงบประมาณแผ่นดินไปสร้างศาลากลางหลังใหม่ 5.กฎหมายทำลายหลักนิติรัฐ ขัดหลักสิทธิมนุษยชน ล้างผิดอาญาโทษอุกฉกรรจ์ ต่อไปไม่มีใครกลัวกฎหมาย ทำผิดแล้วใช้อำนาจล้างผิดให้ตัวเองได้ ดังนั้นหากกรรมาธิการเสียงข้างมากจริงใจที่จะช่วยเหลือประชาชนจริงๆ ก็ควรจะทำให้สิ่งเหล่านี้มีความชัดเจน ไม่ต้องมีการตีความใดๆ อีกในอนาคต แต่ถ้าไม่ดำเนินการตามนี้ ตนเชื่อว่าประชาชนคงไม่ยอมให้กฎหมายนี้ผ่านไปอย่างปกติแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น