ส.ส.ปชป.เผยอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 57 ชำแหละใช้จ่ายไร้วินัย-สุรุ่ยสุร่าย-เอื้อการเมือง กระจายเฉพาะพื้นที่พรรคเพื่อไทย ตามคำกล่าว “ปลอดประสพ” ไม่เว้นโฆษณารัฐวิสาหกิจหนุนสื่อเสื้อแดง หมกเม็ดงบเออีซีทุกกระทรวง เชื่อ 2 วันไม่พอ จับตารัฐบาลปิดปากรวบรัด
วันนี้ (12 ส.ค.) นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแนวทางการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ในวาระ2 ที่เข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 14-15 ส.ค.นี้ ว่า ส.ส.พรรคจะอภิปรายในมาตราที่ได้ขอสงวนคำแปรญัตติไว้ โดยสรุปภาพรวมคือ การใช้งบประมาณอย่างไร้ระเบียบวินัยการเงินการคลัง การใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย หลายโครงการไม่มีการระบุรายละเอียด และกระจายเฉพาะในส่วนพื้นที่ของฝ่ายรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง เป็นต้น
ยกตัวอย่างเช่น งบกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ งบจัดซื้อรถตู้รับส่งนักเรียนจากนโยบายการยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนในที่สุดก็มีการโยกงบไปจัดซื้อให้กับโรงเรียนต้นแบบประจำอำเภอ หรือการจัดงบซื้อเราเตอร์ ไว-ไฟ ตามโรงเรียนต่างๆ นับหมื่นโรงเรียน งบประมาณหลายพันล้านบาท ทั้งที่ยังไม่เคยมีผลการสำรวจการใช้แท็บเล็ตที่รัฐบาลแจกให้กับเด็ก ป.1 ว่าได้ผลมากน้อยแค่ไหน มองว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุและไม่ตอบโจทย์ รวมถึงกระทรวงการคลังไม่ยอมจัดงบประมาณให้กองทุนเงินออกตามกฎหมายกำหนด โดยอ้างว่าซ้ำซ้อนกับประกันสังคม ขณะที่มีกระแสข่าวรัฐบาลจะเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 8% แสดงให้เห็นว่าไม่สามารถจัดเก็บรายได้ได้ตามเป้าจริง จึงหันไปขูดรีดภาษีกับประชาชน
หรือกรณีงบสร้างภาพพจน์ประเทศของนายกรัฐมนตรีในส่วนสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จัดไว้ 500 ล้านบาท แต่ไม่มีรายละเอียดว่าจะเอาไปทำอะไรบ้าง เพราะเท่าที่เห็นนายกฯ มีการใช้เงินในการเดินทางด้วยเครื่องบินแบบเหมาลำไปต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แล้วยังจะมีโครงการเสนอซื้อเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันอีกหลายพันล้านบาท โดยอ้างเพื่อรับส่งบุคคลสำคัญเป็นการใช้งบอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย หรืออย่างกระทรวงมหาดไทย เช่น งบซื้อสมาร์ทโฟนให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน หลังจากก่อนหน้านี้จะซื้อไอแพดแจกแต่ถูกท้วงติงไป หรือแม้แต่ในสภาเองก็มีการโอนงบจัดกิจกรรมในพื้นที่ของประธานสภา และรองประธานสภา จัดโครงการสนับสนุนประชาธิปไตย 24 จังหวัด เป็นเงิน 27 ล้าน และยังมีงบส่วนกลางสนับสนุนอีกจังหวัดละ 3 ล้านบาท
นายบุญยอด กล่าวว่า ในช่วงพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ ตนได้เคยต่อสู้ให้ตัดงบของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอซีที ที่มีการของบไปทำโปรแกรมตรวจสอบทีวี วิทยุ ที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ กว่า 10 ล้านบาท โดยอ้างว่าเพื่อต้องการตรวจสอบดูว่าใครวิพากษ์วิจารณ์ หรือกล่าวหมิ่นสถาบัน หรือบุคคลอื่นๆ ซึ่งตนเชื่อว่ามีเจตนาจะคอยเซ็นเซอร์ใครที่วิพากษ์วิจารณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นหลักมากกว่า เพราะที่ผ่านมาไอซีทีไม่เคยจริงใจต่อการปราบปรามคนที่หมิ่นสถาบันอยู่แล้ว จึงได้ซักถามไปว่าไอซีทีมีอำนาจอะไรไปตรวจสอบ และยังมี กสทช. ดำเนินการอยู่แล้ว แต่ไอซีทีอ้างว่าเมื่อมีการนำเสนอบนเว็บไซต์ก็มีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบ ดังนั้นตนจึงได้ขอสงวนคำแปรญัตติเพื่อเสนอให้ตัดงบดังกล่าวออกไป
นอกจากนี้ การจัดงบประมาณในปี 2557 เป็นไปตามคำประกาศของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าใครไม่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยก็ไม่ต้องเอางบประมาณ อย่างงบของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เช่น งบอบรมสัมมนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น งบจัดคนไปดูงาน ซ่อมตึกอาคาร ลอกท่อ ทาสี ทำถนน ในพื้นที่ กทม.50 เขต เขตละ 30 ล้านบาท โดยจัดให้กับเขตที่มี ส.ส.พรรครัฐบาล แต่กีดกันไม่ให้พรรคฝ่ายค้าน หรือกรณีงบหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เช่น ปตท. การประปาฯ ธนาคารออมสิน ที่มีการนำงบไปสนับสนุนสถานีโทรทัศน์ของกลุ่มคนเสื้อแดงหลายร้อยล้านบาท
“แต่ที่น่าจับตาดูคือ การจัดงบเตรียมการเข้าสู่เออีซี ที่มีการซุกซ่อนไว้ทุกกระทรวง รวมแล้วเป็นเงินจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ก็มีการจัดงบนี้แต่ไม่เห็นผลปรากฏที่เป็นรูปธรรม ในครั้งนี้ก็ยังคงมีการหมกไว้อีกเช่นเคย เหมือนงบยุงลายในอดีต เช่น มีการของบจัดทำโปรแกรมการเรียนการสอนภาษาต่างๆ เช่น เรียนภาษาพม่า ภาษาเขมร แต่มีกระจายไปทุกกรมในทุกกระทรวง” นายบุญยอดกล่าว
นายบุญยอด กล่าวอีกว่า การที่วิปรัฐบาลกำหนดวันประชุมไว้ 2 วันนั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะเพียงพอ เพราะเป็นการพิจารณารายมาตราตามรายกระทรวง และมี ส.ส.ขอแปรญัตติจำนวนมาก แต่คาดว่ารัฐบาลก็จะปิดปากด้วยการรวบรัดอ้างว่าอภิปรายซ้ำประเด็นเพื่อกดดันการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน เหมือนเช่นกรณีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ผ่านมา