“สุเทพ” นำผู้ชุมนุม กปปส. ทำพิธีถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันฉัตรมงคล ก่อนที่จะทำพิธีสัตยาธิษฐาน ขอปกปักรักษาบ้านเมือง ให้พ้นจากภัยพาลของกลุ่มโจรในระบอบทักษิณ ชี้ปัจจุบันบ้านเมืองกำลังมีภัย จำต้องลุกขึ้นต่อสู้ ลั่นใช้เวลาเพียงใดมิลดเลิก มิย่อท้อ ขอประสบความสำเร็จและความสงบสุขกลับคืน ขณะที่ในช่วงเย็นตัวแทนเครือข่าย กปปส. ร่วมวางพานพุ่ม “อุทัย” แกนนำ คปท. ตกบันไดไหล่หลุด
วันนี้ (5 พ.ค.) เมื่อเวลา 19.15 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ได้ขึ้นเวทีปะรำพิธีหน้าพระบรมมหาราชวัง ถ.ราชดำเนินใน เพื่อทำพิธีถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล ร่วมกับแกนนำและผู้ชุมนุม กปปส. โดยกล่าวว่า มวลมหาประชาชนต่างรู้สึกปีติเป็นล้นพ้น ที่ได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดี ถวายพระพรชัยมงคลแด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เนื่องในอภิลักษณ์ขิตมงคลสมัย ที่วันฉัตรมงคลได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ นับตั้งแต่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อ 64 ปีที่ผ่านมา ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงวิริยะอุตสาหะ ปฏิบัติบำเพ็ญภารกิจนานัปการ เพื่อขจัดทุกข์ บำรุงสุข แก่อาณาประชาราษฎร์ โดยมิทรงย่อท้อต่ออุปสรรค ปัญหา และความลำบากตรากตรำพระวรกาย ด้วยน้ำพระราชหฤทัยเปี่ยมด้วยพระเมตตากรุณาอย่างหาที่สุดมิได้
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงยึดมั่นในทศพิธราชธรรมอย่างแน่วแน่ สมดังพระปฐมบรมราชโองการ ที่ได้ตรัสไว้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ตลอดระยะเวลา 64 ปีที่ล่วงผ่านมา เหล่าพสกนิกรไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ต่างตระหนักแล้วว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเป็นดั่งดวงประทีป ที่ส่องสว่างถึงชีวิตและจิตใจของพสกนิกรทั้งปวง ให้ได้รับความสุข ความหวัง และมีพลังชีวิตอันแน่วแน่ ที่จะดำรงตนด้วยความสุข ด้วยความพอเพียง ด้วยความรู้รักสามัคคี พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ที่พระองค์ทรงมีต่ออาณาประชาราษฎร์ได้ขจรขจาย ไม่เพียงแต่ในผืนแผ่นดินสยาม แต่หากได้รับการขานกล่าว และยกย่องสรรเสริญไปทั่วทุกสารทิศ ทุกเหตุ ทุกประเทศ ทุกแว่นแคว้น ไม่ว่าใกล้หรือไกล พร้อมกับถวายพระเกียรติให้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกษัตริย์ทั้งปวง
ปวงข้าพระพุทธเจ้าล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม ที่พระราชทานแก่อาณาประชาราษฎร์ ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน จึงขอน้อมจิตถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน สถิตสถานเป็นมิ่งขวัญแก่ปวงข้าพระพุทธเจ้า พร้อมกันนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าจะขอถวายสัตย์ปฏิญาณในโอกาสอันเป็นมิ่งมหามงคลนี้ด้วยว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่โดยเต็มกำลังความสามารถ ด้วยสติรู้ตัว ปัญญารู้คิด และสุจริตจริงใจ โดยมุ่งประโยชน์ของส่วนรวมยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนตน จะร่วมมือกันสร้างสรรค์ความเจริญมั่นคงและพัฒนาประเทศชาติให้ยั่งยืน โดยการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ส่งเสริมคนดีให้เข้ามาบริหารจัดการบ้านเมืองในทุกระดับ และข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ดำรงยั่งยืนตลอดไป
จากนั้น นายสุเทพ พร้อมกับผู้ชุมนุมได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ต่อมาเวลา 19.25 น. นายสุเทพ ได้ทำพิธีสัตยาธิษฐานร่วมกับผู้ชุมนุม โดยระบุว่าสถานที่ที่เรายืนพร้อมกันอยู่ ณ เวลานี้ คือแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศไทย เบื้องหน้าคือพระบรมมหาราชวัง อันเป็นที่ประทับของบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระสยามเทวาธิราช ซึ่งเปรียบเสมือนเทพยดาอันศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยอภิบาลปกปักรักษาประเทศให้พ้นจากเหตุเภทภัยมาโดยตลอด เรายืนอยู่หน้าวัดพระศรีรัตนศาลดาราม อันเป็นที่ประดิษฐานของค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย เบื้องซ้ายคือศาลหลักเมืองของกรุงเทพมหานคร ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 เพื่อให้เมืองใหม่ที่สร้างขึ้นนี้พบแต่ความเป็นสิริมงคล ปลอดจากเหตุร้ายรุนแรงทุกประการ
ณ เวลานี้ สถานที่นี้ถือได้ว่าเราอยู่บนพื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์ ท่ามกลางการชุมนุมของเทวดาผู้พิทักษ์รักษาประเทศ ขอเชิญพี่น้องมวลหมู่มหาประชาชนได้โปรดพนมมือและตั้งสัตยาธิษฐาน เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อเหล่าเทพยดา ที่ได้มาชุมนุมพร้อมกัน ณ ที่นี้ โดยตนเป็นตัวแทนของมวลมหาประชาชน กล่าวตั้งสัตยาธิษฐานในนามมวลมหาประชาชนทั้งหลาย ซึ่งต่างมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น จึงมารวมกัน ณ ที่นี้ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล
แต่สืบเนื่องด้วยปัจจุบันบ้านเมืองกำลังมีภัย อันเกิดจากกลุ่มคณะบุคคล คือ ระบอบทักษิณ บังเกิดจิตคิดชั่วร้าย มิได้ดำรงตนเป็นประชาชนที่รักชาติบ้านเมือง แต่กลับใช้เล่ห์เพทุบายแสวงช่องทางเข้าคุมอำนาจทางการเมืองการปกครอง แล้วทรยศต่อคนไทย แผ่นดินไทย ด้วยการทุจริตคอร์รัปชัน คดโกงเบียดบังเงินแผ่นดินเป็นของตน ย่ำยีทำลายหลักคุณธรรมในระบบราชการ ให้เป็นข้ารับใช้คนในระบอบทักษิณ ไม่ใส่ใจในทุกข์ยากของประชาชน แต่กลับใช้นโยบายหลอกลวงให้หลงเชื่อ แล้วใช้โอกาสนั้นกระทำการทุจริต ดังทุกข์ที่เกิดขึ้นแก่ชาวนาทั้งแผ่นดิน จนเป็นผลให้ชาวนาประสบชะตากรรมเลวร้ายแสนสาหัส ยามเมื่อมีผู้ร้องต่อกระบวนการยุติธรรม ระบอบทักษิณกลับแสดงการคุกคาม แทรกแซง ข่มขู่ศาล องค์กรอิสระ และกระบวนการยุติธรรม เป็นการทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม ของบ้านเมืองอย่างร้ายแรง จนถึงขั้นเป็นกบฎต่อรัฐธรรมนูญ
ยามที่มวลมหาประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน จำต้องลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องรักษาบ้านเมืองให้อยู่รอด ระบอบทักษิณกลับใช้สมุนอันธพาลเข้าคุกคาม ข่มขู่ ประทุษร้ายจนมีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก แม้กระทั่งเด็กผู้บริสุทธิ์ ก็ถูกเข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ไร้ความปรานี ความชั่วร้ายแรงทั้งหลายนี้หากปล่อยไว้ต่อไปบ้านเมืองจะถึงขั้นวิบัติล่มจมลงได้ แม้แต่สถาบันสูงสุด อันเป็นที่เคารพของพสกนิกรชาวไทย ยังถูกคนในระบอบทักษิณทำเหิมเกริม บังอาจจาบจ้วงล่วงเกินด้วยการออกแถลงการณ์ข่มขู่หากศาลรัฐธรรมนูญมิได้ตัดสินให้เป็นดังต้องการ ก็จะกราบบังคมทูลให้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยถึงสถานะทางการเมืองของตน และจะฉวยโอกาสอยู่ในอำนาจต่อไป โดยไม่ได้สนใจว่าเป็นการดึงฟ้าต่ำ นำสถาบันมายุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งปวงนี้ เป็นความเลวร้ายหายนะต่อบ้านเมือง เป็นภัยต่อแผ่นดิน เปรียบดังเป็นกลุ่มโจรที่คุมสมัครพรรคพวกเข้าปล้นบ้านเมือง และกระทำการหยามหยาบต่อสิ่งควรเคารพทั้งปวง จนสุดที่จะยอมให้ระบอบทักษิณอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว
พวกข้าพเจ้าทั้งหลาย จึงขอตั้งสัตยาธิษฐาน เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระแก้วมรกต พระบรมมหาราชวัง พระสยามเทวาธิราช พระหลักเมือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ณ ที่นี้ โดยขออ้างเอาความสัตย์จริงดังนี้ 1. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ อีกทั้งสมเด็จบูรพมหากษัตริย์ แห่งสยามราชสีมาอาณาจักรนี้ ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงอาณาประชาราษฎร์ ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม ทรงตั้งอยู่ในธรรม ทรงเคารพธรรม ทรงประกาศธรรม ทรงประพฤติธรรม เป็นอาณาประโยชน์แก่อาณาประชาราษฎร์ เป็นความสัตย์แล้ว 2. มวลมหาประชาชนมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน เป็นความสัตย์แล้ว
3. มวลมหาประชาชนมีความตั้งใจมั่นที่จะปกปักรักษาบ้านเมือง ให้พ้นจากภัยพาลของกลุ่มโจรในระบอบทักษิณ เป็นความสัตย์แล้ว 4. มวลมหาประชาชนต่างยึดมั่นในผลประโยชน์ชาติ ละประโยชน์ ละความสุขสบายแห่งตน ยอมตรากตรำลำบากกายเพื่อสนองคุณชาติบ้านเมือง เป็นความสัตย์แล้ว 5. มวลมหาประชาชนใช้ความดี ใช้ธรรมะ ใช้ความสงบ สันติ อหิงสา เอาชนะความชั่ว ไม่ใช้ความรุนแรง เป็นความสัตย์แล้ว ในขณะนี้บ้านเมืองกำลังมีภัยร้ายแรง จากกลุ่มโจรในระบอบทักษิณ ด้วยความสัตย์ทั้งปวงที่ได้กล่าวมาแล้ว ขอจงเป็นบุญรักษา ให้พลังมวลมหาประชาชนมีพลังอันแข็งแกร่ง มีจิตใจอันกล้าหาญ มั่นคง แน่วแน่ เพื่อรุกไล่ศัตรูของแผ่นดิน จนประสบชัยชนะเหนือกลุ่มโจรมารแผ่นดินนี้ และแม้กลุ่มโจรแผ่นดินนี้คิดสู้ ก็ขอให้มวลมหาประชาชนมีพลังเหนือความชั่วร้ายนั้น ทั้งออกด้วยจิตอันเด็ดเดี่ยว ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก และอดทนจนการทั้งปวงสำเร็จลง
จากนั้น นายสุเทพได้กล่าวนำพร้อมมวลชนว่า ข้าพเจ้าทั้งหลาย เป็นผู้มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้มารวมกันอยู่ ณ บริเวณอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ขอรวมจิตตั้งสัตยาธิษฐานว่า พวกข้าพเจ้ามวลมหาประชาชนจะร่วมกันดำเนินการต่อสู้กับโจรแผ่นดิน จะร่วมกันขจัดระบอบทักษิณและเหล่าทรราช เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ โดยตั้งใจมั่นแน่วแน่ไม่ท้อถอย จะไม่ลดละ จนกว่าจะขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไป และปฏิรูปประเทศไทยก่อนการเลือกตั้ง ด้วยสัตยาธิษฐานนี้ แม้การต่อสู้กับโจรแผ่นดินจะใช้เวลาเพียงใด พวกข้าพเจ้าทั้งหลายจะมิลดเลิก มิย่อท้อ จนการทั้งปวงลุล่วงลงเป็นที่เรียบร้อย ขอสัตยาธิษฐานอันปวงข้าพเจ้ามวลมหาประชาชนได้ปรารถตั้งไว้โดยชอบ ด้วยความบริสุทธิ์ ด้วยความตั้งมั่น และด้วยจิตใจที่มีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จงสำเร็จเป็นอิทธิฤทธิ์ เป็นบุญฤทธิ์ เป็นอธิษฐานฤทธิ์ ต่อพระมหากษัตริย์เจ้าอย่างเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ด้วย และขอจงเป็นผลต่อความสงบสุขแห่งแผ่นดินนี้ด้วย จากนั้นนายสุเทพและผู้ชุมนุมร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา และจุดเทียนชัยถวายพระพร ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไป โดยขบวนของนายสุเทพได้เดินเท้าจากสนามหลวง ไปทางถนนบำรุงเมือง ถนนพระราม 1 ถนนราชดำริ มุ่งหน้าสวนลุมพินี
สำหรับบรรยากาศในช่วงเย็น แกนนำและเครือข่ายแนวร่วมของ กปปส. และจังหวัดต่างๆ ได้ร่วมกันทำพิธิถวายความจงรักภักดี เนื่องในวันฉัตรมงคล โดยให้ตัวแทนวางพานพุ่มต่อพระบรมฉายาลักษณ์ และมีการเปิดเพลงพระราชนิพนธ์ ให้ผู้ชุมนุมได้รับฟังสำหรับบรรยากาศการชุมนุมโดยทั่วไป กลุ่มมวลชนได้กระจายอยู่บนถนน และในพื้นที่ท้องสนามหลวง และจับจองพื้นที่ด้านหน้าเวที เพื่อติดตามกิจกรรมต่างๆ อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยจากการ์ดอาสาอย่างเข้มงวดรอบพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณรอบเวที อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรภาคีของ กปปส. ได้ประสบอุบัติเหตุตกบันไดระหว่างลงจากเวทีหลังถวายพานพุ่มแล้วเสร็จ เบื้องต้นมีอาการไหล่หลุด