ศอ.รส.เตรียมเชิญ กกต.หารือดูแลการเลือกตั้ง พร้อมทำหนังสือถึงผู้บริหารรัฐวิสาหกิจทุกแห่งห้ามหนุน กปปส.สร้างความเสียหาย ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดี ขณะเดียวกันเรียกร้องประชาชนไม่ให้เข้าร่วมชุมนุมกับ กปปส.และ นปช. เพื่อความปลอดภัย
น.ส.สิริมา สุนาวิน คณะทำงานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรี่ยบร้อย (ศอ.รส.) แถลงผลประชุม ศอ.รส.ว่า ศอ.รส.มีความกังวลต่อการที่กลุ่ม กปปส. และกลุ่ม นปช.ได้ประกาศนัดชุมนุมใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 2 พ.ค.นี้ โดย ศอ.รส.ขอร้องให้แกนนำทั้งสองฝ่ายจัดการชุมนุมโดยสงบ และไม่ยั่วยุมวลชนให้เกิดการเผชิญหน้ากันซึ่งจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งเลวร้ายลงไปอีก ขณะนี้มีรายงานว่าได้มีการชักชวนประชาชนจำนวนมากให้เข้าร่วมชุมนุมกับทั้ง 2 กลุ่ม และ ศอ.รส.ขอเรียกร้องประชาชนให้ใช้วิจารณญาณหลีกเลี่ยงการร่วมชุมนุม ไม่ว่ากับกลุ่ม กปปส. หรือกลุ่ม นปช. เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง และแม้ว่าการเข้าร่วมการชุมนุมจะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่หากมีการกระทำผิดกฎหมายอย่างหนึ่งอย่างใด ท่านก็จะต้องถูกดำเนินคดีทุกคนไปโดยไม่มีการละเว้น ส่วนแกนนำทุกคนจะต้องรับผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง โดย ศอ.รส. จะบังคับใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่มอย่างเท่าเทียมกันเพื่อป้องกันเหตุร้ายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ศอ.รส.ยังได้รับทราบเกี่ยวกับการปราศรัยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ที่ประกาศว่าในวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะเรียกคืนอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน โดยอ้างว่าไม่มีรัฐบาลที่มีความชอบธรรม มีเพียงคณะบุคคลที่อ้างความเป็นรัฐมนตรีที่พ้นอำนาจไปแล้วตั้งแต่ประกาศยุบสภา และ กปปส.จะจัดตั้งคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติขึ้นเอง โดย ศอ.รส.มีความกังวลอย่างยิ่งว่าการประกาศเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงเจตนากระทำการเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแล้ว ยังจะสร้างความขัดแย้งมากขึ้นในหมู่ประชาชน เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการดังกล่าวซึ่งอาจนำไปสู่ความรุนแรงและการเผชิญหน้ากันได้
ทั้งนี้ ศอ.รส.ขอเรียนว่า เมื่อมีการยุบสภา อำนาจอธิปไตยก็ได้กลับคืนสู่ประชาชนแล้ว และเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่จะใช้อำนาจอธิปไตยนั้นผ่านการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลและสภานิติบัญญัติที่ชอบธรรม จะเห็นได้ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้บิดเบือนประเด็นนี้อย่างชัดเจน เพราะในสมัยรัฐบาลที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี เมื่อยุบสภาแล้ว นายสุเทพกับคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นก็ได้อยู่ในตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อๆ มาจนมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ นายสุเทพจึงใช้วาทกรรมบิดเบือนประเด็นเพื่อให้พี่น้องประชาชนหลงเชื่อโดยปราศจากความเป็นจริงตามรัฐธรรมนูญอย่างสิ้นเชิง
น.ส.สิริมากล่าวว่า ตามที่ ศอ.รส.ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20 ก.ค. 2557 เนื่องจากการเลือกตั้งจะทำให้ความขัดแย้งของมวลชนกลุ่มต่างๆ ยุติลง และนำมาซึ่งความสงบเรียบร้อยของประเทศ ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ ศอ.รส. รวมทั้งการเลือกตั้งก็เป็นหลักสากลอันเป็นที่ยอมทั่วโลกในวิถีทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยวันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.ศอ.รส. ได้มีหนังสือถึงประธาน กกต. เพื่อเสนอให้แต่งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง กกต. กับ ศอ.รส. เพื่อเตรียมการต่างๆ ให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม และป้องกันการขัดขวางการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ศอ.รส.ได้มีหนังสือถึงประธาน กกต. ขอเชิญ กกต. หรือผู้แทนเข้าร่วมประชุมกับ ผอ.ศอ.รส.และคณะ ในวันที่ 8 พ.ค.นี้ เวลา 14.00 น.
ในการนี้ ศอ.รส.ขอเตือนพี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อการชักจูงของแกนนำ กปปส. ให้กระทำการขัดขวางการเลือกตั้งซ้ำอีก เนื่องจาก ศอ.รส.มีนโยบายในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับผู้กระทำผิดฐานขัดขวางการเลือกตั้ง และความผิดที่เกี่ยวข้องกับการขัดขวางการเลือกตั้งเป็นความผิดอุกฉกรรจ์ที่มีทั้งโทษจำคุกและปรับ รวมถึงการตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ศอ.รส.ได้รับข้อมูลว่ากลุ่ม กปปส.จะใช้พนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งเข้าร่วมดำเนินการให้เกิดความเสียหายและเดือดร้อนแก่ระบบสาธารณูปโภค หรือกิจการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อเป็นการสนับสนุนหรือช่วยเหลือการกระทำผิดของนายสุเทพ ซึ่งจะสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่อันเป็นภารกิจและความรับผิดชอบของ ศอ.รส. ดังนั้นในวันนี้ ผอ.ศอ.รส.จึงได้มีหนังสือถึงผู้บริหารและประธานกรรมการบริหารของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เพื่อสั่งการให้ดำเนินการป้องกัน แก้ไข โดยให้จัดทำแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนและปฏิบัติได้จริงเมื่อเกิดเหตุขึ้น และให้ส่งแผนปฏิบัติการดังกล่าวมายัง ศอ.รส. ภายในวันที่ 12 พ.ค.นี้ และหากมีการปล่อยให้พนักงานและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดกับแกนนำกลุ่ม กปปส. ผู้บริหารอาจต้องรับผิดตามกฎหมายของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงาน ความผิดฐานสนับสนุนการเป็นกบฏของแกนนำ กปปส. และความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง ศอ.รส.
โดยข้อสั่งการดังกล่าวของ ศอ.รส.ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว
