กสม.ประณามโจรใต้ไร้มนุษยธรรมฆ่า จนท.สธ.หญิงท้อง จี้รัฐเพิ่ม รปภ.เยียวยา-เอาผิด

แถลงการณ์ กสม.ประณามโจรใต้ลอบกัดยิง จนท.สธ.หญิงตายทั้งที่ตั้งครรภ์ สาหัสอีก 1 ชี้ไร้มนุษยธรรม ป่าเถื่อน ยิ่งเฉพาะการฆ่าวิธีทารุณ ทำลายศพ ก่อให้เกิความเศร้าสลด พร้อมแสดงความเสียใจครอบครัวที่สูญเสีย จี้โจรใต้ยุติทำผิด กม.และขัดต่อมนุษยธรรม รัฐต้องเพิ่ม รปภ.ปชช. เยียวยาและเอาผิด ปชช.ช่วยสอดส่อง

วันนี้ (1 พ.ค.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. ออกแถลงการณ์ประณามเหตุความรุนแรงกรณี เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2557 เวลาประมาณ 14.00 น. มีคนร้ายจำนวน 4 คนแฝงตัวปะปนกับชาวบ้านบริเวณตลาดนัดโรงพยาบาลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหญิง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย เป็นผู้หญิงอยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ 2 เดือน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ว่าเป็นกระทำที่ทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ป่าเถื่อน เฉพาะอย่างยิ่งการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วยอาวุธสงคราม เช่น การใช้ระเบิดสังหารในที่ชุมชน การใช้วุธสงครามสังหารเด็ก สตรี และการสังหารด้วยวิธีทารุณโหดร้าย รวมถึงการฆ่าตัดคอ การทำลายศพ นอกจากจะก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกายของประชาชนผู้บริสุทธิ์แล้ว ยังเกิดความเศร้าสลดใจแก่ผู้ที่พบเห็นและสังคมโดยรวม โดย กสม.ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อทุกเหตุการณ์ ทุกชีวิต ทุกครอบครัวที่สูญเสีย

ทั้งนี้ กสม.เรียกร้องให้ผู้ที่ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงยุติการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ผิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิมนุษยชนทันที เพราะการกระทำดังกล่าวนอกจากจะละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้วยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขัดต่อมนุษยธรรมอีกด้วย ขณะที่รัฐบาลต้องเพิ่มมาตรการในการรักษาความสงบเรียบร้อย แก่ประชาชนในพื้นที่ให้เข้มงวดรัดกุมมากยิ่งขึ้น พร้อมเร่งดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายอย่างรวดเร็ว เป็นธรรมต่อผู้ได้รับผลกระทบ และครอบครัวจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และดำรงชีวิตอย่างปกติสุข ส่วนประชาชนและภาคส่วนต่างๆ ของชุมชนจะต้องช่วยกันสอดส่อง และระมัดระวังถึงภยันตรายทั้งปวงที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน จากการก่อความไม่สงบในพื้นที่ในประการสำคัญหากทุกภาคส่วนจะได้แสวงหาหนทาง และแนวทางอยู่ร่วมกันในฐานะประชาชนชาวไทยอย่างสันติสุขแล้ว จะเป็นพลังอย่างมหาศาลในการขับเคลื่อนมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง