“ปานเทพ” ชำแหละ “มาร์ค” เสนอตัวหาทางออกประเทศ หลัง “แม้ว” ประกาศยอมถอยเพียงไม่กี่วัน เชื่อหวังเป็นโอกาสทองได้รับเลือกตั้ง ชี้ออกตัวก่อนเวลาอันควรทำการต่อสู้ กปปส. ระส่ำ ด้าน “พิภพ” แนะลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
วันที่ 29 เม.ย. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกฯและแกนนำรุ่น 2 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วย นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางเอเอสทีวี
โดย นายปานเทพ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินสายหารือทางออกประเทศเริ่มต้นที่ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ตนคิดว่านายอภิสิทธิ์ต้องการพบคนเหล่านี้ในเชิงสัญลักษณ์ นั่นก็คือปลัดกระทรวงยุติธรรมโยงถึงกระบวนการยุติธรรม ต้องการให้เห็นว่าแก้ด้วยกฎหมายเรื่องก็ไม่จบ ด้านนึงคือทหาร ต้องการให้เห็นว่ารัฐประหารปัญหาก็ไม่จบ นายอภิสิทธิ์ต้องการสื่ออะไรบางอย่าง กับใครสักคน ซึ่งมีนัยสำคัญ
นายปานเทพ กล่าวอีกว่า เชื่อมโยงการออกมาเสนอตัวของนายอภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. นายนพดล ปัทมะ เสนอแนวคิดกุญแจ 5 ดอกหาทางออกประเทศ ต่อมา 14 เม.ย. นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นำทีมข้าราชการเชียงใหม่รดน้ำขอพร พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านทางสไกป์ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดว่าเลิกคิดอาฆาตจองเวร ต้องการเจรจากับทุกฝ่าย และพร้อมเสียสละ จากนั้น 21 เม.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่ายอมให้ตระกูลชินวัตรเลิกเล่นการเมือง นั่นแสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ตัวว่าถูกรุกหนัก เลยตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการเจรจา สังเกตไปกว่านั้น นายอภิสิทธิ์ เริ่มให้สัญญาณว่าจะเดินสายเจรจาวันที่ 25 เม.ย. นายอภิสิทธิ์คงเล็งเห็นว่าเป็นโอกาสทองที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถอย ซึ่งสอดรับกับที่ นายไพศาล พืชมงคล พูดว่ามีกระบวนการอะไรพิเศษบางอย่าง
ทีนี้มาดูคนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้ใจมากที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่าเป็นลูกจ้างรัฐบาล และหลายครั้งก็เห็นด้วยกับการเลือกตั้ง เป็นไปได้หรือไม่ว่า นายอภิสิทธิ์ ได้สัญญาณหลายทาง ทั้งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และพล.อ.ประยุทธ์ และ ผบ.สส. ยังตอกย้ำด้วยคำพูดว่าการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า เราต้องดูลักษณะของนายอภิสิทธิ์ด้วย คำว่าปฏิรูปเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2549 แต่หลังจากนั้นพรรคการเมืองได้หมุนเวียนกันขึ้นมาบริหารประเทศ เมื่อมีอำนาจไม่มีใครคิดปฏิรูปจริงเลย นายอภิสิทธิ์ พูดเรื่องการปฏิรูปกี่รอบ ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ สุดท้ายก็เอาเอกสารเก็บไว้บนหิ้ง
นายปานเทพ ยังกล่าวอีกว่า หลังยุบสภามีหนทางที่จะได้รัฐบาล มี 3 ทางเท่านั้น คือ 1. เลือกตั้ง 2. มาตรา 7 หรือมาตรา 3 และ 3. รัฐประหาร ทั้งๆ ที่กระแสที่ 2 และ 3 ขบวนการที่เดินหน้ากันอยู่ยังทำไม่เสร็จเลย การที่นายอภิสิทธิ์ชูแนวทางที่ 1 อาจพอฟังดูมีเหตุผลว่า เพราะ 2 ช่องทางที่เหลือไปไม่ได้แล้ว สถานการณ์นั้นคนพอเข้าใจ แต่นาทีนี้ก่อนมีโอกาสที่จะเกิด 2 แนวทางหลัง การที่นายอภิสิทธิ์ออกมากระทำการดังกล่าว ทำให้เกิดความระส่ำ ไขว้เขวได้ อย่างเช่น แนวทางที่ 2 ผู้ที่จะยื่นชื่อนายกฯทูลเกล้าฯถวายในหลวง ก็มีความเสี่ยง เขาอาจจะถอย หรือรัฐประหารคนทำก็เสี่ยง เขาก็จะถอย เพื่อมารอแนวทางที่ไม่มีความเสี่ยงดีกว่า ถ้านายอภิสิทธิ์เสนอทางออกหลังแนวทางที่ 2 และ 3 เสร็จสิ้น นั่นคือหาทางออก แต่มาตอนนี้เป็นการชิงตัดหน้าเพื่อไม่ให้ทำสำเร็จ
ถามว่าทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงกลัวแนวทางที่ 2 และ 3 เพราะเลือกตั้งอยู่ใต้ภายใต้รัฐธรรมนูญ ยึดทรัพย์ก็ไม่ได้และอาจไม่ต้องติดคุกหากเกิดการเจรจากันได้ ส่วนนายกฯมาตรา 7 นายกฯจะเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่มีใครควบคุมได้ รัฐประหารยิ่งแล้วใหญ่ควบคุมไม่ได้ว่าเป็นใคร สรุป 2 แนวทางหลังนักการเมืองในระบบกลัวการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ตัวเองควบคุมไม่ได้ เลยเลือกทางที่พอคุยกันได้เพื่อรักษาอาชีพตัวเองไว้ ตนเชื่อว่าในที่สุดขบวนการเดินอย่างนี้ นายอภิสิทธิ์จะทำไม่สำเร็จ ถึงอย่างไรภาคประชาชนไม่มีทางยอม เพราะสู้มาขนาดนี้แล้ว
“อภิสิทธิ์พูดได้ยังไงว่าไม่มีใครได้ทุกอย่างที่ต้องการ ในเมื่ออภิสิทธิ์ไม่ได้ลงทุนเท่ากับประชาชนที่เขาเดินทางอย่างยาวนาน 6 เดือนกว่า ด้วยการเสียสละเงินทอง หยาดเหงื่อ เลือดเนื้อ และชีวิต ไปตัดสินแทนพวกเขาได้อย่างไร อภิสิทธิ์ลงทุนน้อยกว่าเขามาก ไม่มีสิทธิ์พูดประโยคนี้” นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพ กล่าวแนะนำนายอภิสิทธิ์ ว่า ควรถอยออกมา สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ควรทำที่สุด คือเรียกร้องพรรคการเมืองทั้งหลายรับผิดชอบความล้มเหลวทางการเมืองที่ผ่านมา แล้วยุติการลงเลือกตั้งทุกพรรคการเมือง เปิดโอกาสให้ประชาชนมีรัฐบาลของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เรียกร้องให้มาลงเลือกตั้งอย่างมีเงื่อนไข ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาก็ต้องรับผิดชอบ รู้จักถอยออกมาจากอำนาจและผลประโยชน์ เพื่อให้อำนาจกลับสู่ประชาชน อย่างนี้ถึงจะได้ชื่อว่านายอภิสิทธิ์เสียสละอย่างแท้จริง
ด้าน นายพิภพ กล่าวว่า ถามนายอภิสิทธิ์หน่อยว่ากำลังกังวลนายสุเทพใช่หรือไม่ เพราะนายสุเทพไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่สมาชิกพรรคแล้ว กังวลเรื่องปฏิวัติประชาชนใช่หรือเปล่า ทำไมจึงไม่ทำไปตามประชาชน ไหนเคยประกาศว่าประชาชนต้องมาก่อน ถ้านายอภิสิทธิ์เข้าร่วมหนุนให้เกิดการปฏิวัติประชาชนอย่างจริงจัง นี่คือผู้นำทางการเมืองที่เดินตามมติประชาชนอย่างแท้จริง
การสร้างรัฏฐาธิปัตย์ก็กำลังเดินอยู่ ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่เห็นว่าการเลือกตั้งไม่สำเร็จแน่นอนอยู่แล้ว หรือว่าไม่เชื่อประชาชน ไม่เชื่อมั่นการปฏิวัติประชาชน แล้วขอถามว่า นายชวน หลีกภัย อยู่ที่ไหน ปกตินายอภิสิทธิ์ฟังนายชวนมาก
ถ้านายอภิสิทธิ์กังวลการปฏิวัติประชาชน ทำไมไม่มามีส่วนร่วม จะได้เป็นเรื่องจริงและไม่กระทบตัวเอง หรือนายอภิสิทธิ์จะรับผิดชอบเพื่อให้ประชาชนปฏิวัติได้สำเร็จ นั่นคือควรลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประกาศว่าพรรคมีมติไม่ลงเลือกตั้งจนกว่าการปฏิรูปประเทศจะสำเร็จ