“ประพันธ์” เชื่อ “มาร์ค” เสนอตัวหาทางออกประเทศ เหตุกลัวอดเข้าสู่อำนาจ หาก กปปส.ชนะ ด้าน “พิชาย” ชี้ส่งผลกระทบต่อการชุมนุมแน่นอน เพราะมวลชนประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งอาจถอยห่างเพื่อรอดูท่าที “อภิสิทธิ์”
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 20.50 น. นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ ศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางเอเอสทีวี
โดยนายประพันธ์กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอตัวหาทางออกประเทศว่า ตนเห็นธาตุแท้นายอภิสิทธิ์มานานแล้ว มาถึงวันนี้ยิ่งตอกย้ำความเชื่อตนว่านายอภิสิทธิ์ไม่ต่างจากนายทักษิณ นายบรรหาร เป็นนักการเมืองประเภทเดียวกัน ไม่เคยทำเพื่อประเทศชาติ หวังแต่จะมีอำนาจ
ตนมองว่าการที่นายอภิสิทธิ์ออกมาแสดงบทบาทตอนนี้ เนื่องจาก 1. ตามข่าวตอนนายทักษิณมาฮ่องกง เขาพูดกับคนที่เข้าพบว่าสิ่งอยากได้มากที่สุดคือหาทางเจราดึงประชาธิปัตย์มาสู่กระบวนการเลือกตั้งให้ได้ 2. ใกล้มีคำวินิจฉัยศาลของรัฐธรรมนูญ อาจทำให้เกิดกระบวนการมีนายกฯ ที่ไม่ได้มาจากนักการเมือง ถ้าปล่อยให้เป็นไปตามนั้นจะไม่มีชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ 3. หากมีการปฏิวัติก็จะไม่มีชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ เช่นกัน หากเป็นไปในแนวทางทาง 2 และ 3 นักการเมืองจะไม่ได้เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปประเทศด้วย นายอภิสิทธิ์รู้ตัวดี แล้วอ้างว่าอยากหาทางออกให้ประเทศ แท้จริงแล้วกำลังหาทางออกให้ตัวเองและพรรคการเมืองเท่านั้น การเคลื่อนไหวของนายอภิสิทธิ์ตอนนี้มุ่งประสงค์หยุดขบวนการของ กปปส.มากกว่า เป็นส่วนหนึ่งของการเตะสกัดกระบวนการภาคประชาชน
นายประพันธ์กล่าวต่อว่า นาทีนี้ กปปส.ไม่จำเป็นต้องรอคำตัดสินของศาล เมื่อมุ่งมั่นปฏิรูปก็เดินหน้าเลย เพราะคำตัดสินศาลอาจไม่เป็นไปตามคาด ฉะนั้นควรแยกออกจากกัน
นายพิชายกล่าวว่า ตอนนี้ประเทศมีสามทางเลือก คือ 1. ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง 2. เลือกตั้งก่อนปฏิรูป และ 3. เป็นแนวทางของนายอภิสิทธิ์ คือการเลือกตั้งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป การประกาศแบบนี้ของนายอภิสิทธิ์ทำให้สมาชิกประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งที่ร่วมชุมนุมกับ กปปส. ตั้งคำถามขึ้นมาว่าจะร่วมกับ กปปส.ต่อหรือเปล่า เป็นไปได้ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์อาจถอนตัวเพื่อรอดูท่าทีนายอภิสิทธิ์
ส่วนที่ไม่ใช่มวลชนของประชาธิปัตย์จะไม่กระทบก็จะสู้กับนายสุเทพต่อไป แต่ภาพรวมมวลชนที่นายสุเทพพยายามเขย่ากระแสไปสู่วันเผด็จศึก อาจไม่เป็นตามเป้า
นายพิชายกล่าวอีกว่า ตนพยายามหาวิธีการที่นายอภิสิทธิ์บอกว่าการเลือกตั้งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญด้วย ตนก็เลยจำลองโมเดลว่านายอภิสิทธิ์อาจเสนอให้มีสภาปฏิรูปโดยมวลมหาประชาชนเป็นหลัก อีกส่วนก็ให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นพร้อมกัน
นายพิชายกล่าวด้วยว่า ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่เสนอทางออกตั้งแต่วันแรกๆ ของการชุมนุม ตอนนั้นอาจเวิร์ก คนเห็นด้วยมาก แต่มาตอนนี้คนไม่ไว้วางใจนักการเมืองมากขึ้น เพราะมองว่านักการเมืองกลัวตัวเองจนแต้มเลยหาทางออกให้ตัวเองมีที่ยืนทางการเมือง ฉะนั้นข้อเสนอนายอภิสิทธิ์คงสำเร็จได้ยาก