ผ่าประเด็นร้อน
พระเอกมาแล้ว... เขามายังไง มาได้ไง มาทำไม พร้อมเครื่องหมายคำถามเป็นกุรุส “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จู่ๆ ก็เสนอหน้าออกอากาศ ประกาศให้รู้กันทั้งประเทศว่า อั๊วนี่แหละจะเป็นคนกลางเดินสายเข้าหาทุกฝ่ายเพื่อหาทางออก อั๊ยย่ะ !!!
ฟังแล้วก็ให้ฉงน แปลกแปร่งจนต้องขอฟังอีกครั้ง ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ขัดแย้งรุนแรง และก็เป็นอภิสิทธิ์คนนี้ ที่ออกตัวแรงๆ ปฏิเสธแนวทางหลายอย่างที่ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายอื่นๆ พยายามเสนอมาตลอด มาวันนี้กลับมาออกตัวเสนอเอง
คนที่ติดตามการเมืองคิดได้แวบแรก โดยไม่ต้องมโนว่า มันมีนัยแอบแฝงอะไรหรือไม่ !!!
ดูจากบริบทการเมืองตอนนี้ การออกมาประกาศเดินสายเจรจาแบบนี้ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งยวง เพราะ 1. อภิสิทธิ์ เป็นบุคคลที่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง อยู่ระหว่างเขาควายแห่งความโกลาหล การจะเสนอตัวเป็นคนกลาง ดูแล้วธุระไม่ใช่ 2. อภิสิทธิ์ถูกตั้งข้อสงสัย ถูกตั้งข้อหวาดระแวง โดยเฉพาะจากฝ่ายตรงกันข้าม 3. กำพืดนิสัยของอภิสิทธิ์เป็นอย่างไร คนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง เป็นประเภทไม่เคยรับฟัง ไม่ยอมรับฟังข้อเสนอของใคร การเดินไปหาคนนั้น คนนี้ มีแต่จะพูดให้คนอื่นฟังมากกว่า
หมากเกมนี้ของอภิสิทธิ์ จึงมีนัยแอบแฝงแน่ ในทางการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ถูกคนนินทาหมาดูถูกตลอดมาตั้งแต่มีม็อบ กปปส. ที่นำโดย “กำนันเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ว่าเป็นพวกเดียวกัน แยกกันเดิน ร่วมกันตี แม้จะพยายามสลัดภาพให้แยกออกจากกันเพียงใด แต่ความเคลื่อนไหวเชิงลึก ยังถ้อยทีถ้อยอาศัยกันตลอด
ประเด็นสำคัญเรื่องการเลือกตั้ง กปปส. ตั้งธงแจ่มชัดไม่เอาแน่ ขอปฏิรูปก่อน แต่พรรคประชาธิปัตย์นั้นไม่ชัด ภายในพรรคมีความเห็นแตกแยกหลายทิศทาง แต่จำต้องยอมเดินตาม กปปส. ไปก่อน เนื่องเพราะที่ผ่านมากำลังเดินไปในทิศทางที่ถือแต้มต่อ กดดันรัฐบาลได้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อ กปปส. ไม่เลือกตั้ง ประชาธิปัตย์ก็ต้องไม่เลือกตั้งด้วย ถ้าไปเห็นดีเห็นงามกับการเลือกตั้งอย่างที่สมาชิกพรรคหลายคนต้องการ ก็กลายเป็นศัตรูกันก็เท่านั้น และงานของ กปปส. ก็ล่มไม่เป็นท่า
หรือวันนี้สัญญาณมันเปลี่ยนไปแล้ว!!!
“มาร์ค” ไม่เป็นตัวของตัวเองอีกแล้ว ไม่มีบทเล่นหรืออย่างไร โดนค่อนขอดว่าตกเป็นเบี้ยล่าง เดินตามสุเทพต้อยๆ เลยอยากจะพลิกมาเล่นบทเด่นกับเขาบ้าง แต่ประเด็นสำคัญคือ อยากพาพรรคประชาธิปัตย์เข้าสู่การเลือกตั้งอย่างนั้นหรือ ??
ข้อเสนอที่ออกมาเริ่มฉีกแนวไปจาก กปปส. ที่ให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง วันนี้ “มาร์ค” แบะท่าพร้อมจะทำการปฏิรูปควบคู่ไปกับการเลือกตั้ง อยากจะลงเลือกตั้งเสียแล้ว กลัวตัวเองและพรรคพวกต้องตกงาน
เพราะไม่อยากไปเล่นบทเดียวกับ กปปส. ยังหวังจะต่อสู้ จะกลับมาชนะในระบบ เล่นแบบกั๊กๆ มาตลอด ไม่กล้าออกไปลุยกับ กปปส. ไม่กล้าเสี่ยงทุ่มหมดหน้าตัก ลาออกไปลุยด้วย วันนี้เมื่อเห็นม็อบ กปปส. เริ่มอ่อนแรง ก็พลิกกระดานมาเดินตามระบบ ทำตัวเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง หวังฟลุ๊กได้หล่อ ได้เป็นพระเอกขี่ม้าขาว พุดโธ่!!
“อภิสิทธิ์” ถ้ามาเดินเกมนี้จริงๆ ฝ่ายนักโทษหนีคดี ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายลิ่วล้อพรรคเพื่อไทย ก็ยิ้มแก้มปริ เพราะเรียกร้องมาตลอดอยู่แล้ว ให้สู้กันในระบบ ในกติกาเลือกตั้ง เพราะประเมินว่า ถ้าเลือกตั้งกันในระบบเดิมก็ชนะอยู่ดี หรือว่า “อภิสิทธิ์” คิดว่าจะสู้ได้ ???
แต่กระนั้นฝ่ายไอ้แม้ว และพรรคเพื่อไทยเองก็ไม่เชื่อน้ำยาอภิสิทธิ์ เหมือนอย่างหลายๆ คน ยังไม่รู้ว่า “มาร์ค” เอาจริงหรือเล่นเกมอะไรรึเปล่า เลยออกมาจวก มาด่ากันตั้งแต่หัวแถวยันภารโรง คนเสื้อแดง นปช. เผาเมือง ก็ออกมากระแทกกระทั้น เพื่อหาคำตอบที่แท้จริง
คิดว่าอภิสิทธิ์หยั่งเชิง ก็เลยหยั่งเชิงกลับไปเหมือนกัน ไอ้เรื่องของการเจรจารอมชอม จนถึงวันนี้ นช.ทักษิณ ก็ยังไม่มีความคิดที่จะยอมง่ายๆ ไม่มีทางที่จะยอมแพ้โดยศิโรราบ ยังคิดถึงการได้กลับบ้านอย่างเท่ๆ ทุกวัน
ไอ้ที่บอกว่าจะเลิกเล่นการเมือง จะวางมือทั้งโคตร โกหกทั้งเพ ถ้าตราบใดที่ทักษิณยังมีความคิดจะครอบครองประเทศ ไม่เลิกคิดเรื่องนี้ มันก็ไม่มีวันจบสิ้น ความขัดแย้งของประเทศไทยก็ยังต่อเนื่องเฟื่องฟูต่อไป
เรื่องที่จะให้เจรจากันโดยทักษิณยอมทั้งหมด ไม่มีแน่ ไม่อย่างนั้นจบไปนานแล้ว ยิ่งลักษณ์ถอยไปแล้ว แต่วันนี้ทักษิณยังบอกให้สู้ต่อ สู้ไปจนกระเด็นออกจากเก้าอี้ ห้ามลุกออกไปก่อน !!!
จะสู้กับใครก็ต้องสู้ แม้มันจะยากและยาวนานแค่ไหนก็ตาม ทักษิณคิดแบบนั้น
วันนี้มีความพยายามจากบางฝ่ายที่หวังดี อย่าง พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีต ผบ.สส. นำคณะรัฐบุคคล ออกมาโยนความคิดความเห็นให้สังคม เสนอให้พระมหากษัตริย์ใช้พระบรมราชวินิจฉัยหาทางออกให้บ้านเมือง ไม่ต้องใช้แนวทางตามกฎหมาย ไม่ต้องยึดติดกติกาแบบกอดเอาไว้จนตัวตายเหมือนอย่างที่รัฐบาลทำอยู่ และทำให้บ้านเมืองจมปลักอยู่กับความขัดแย้ง คณะรัฐบุคคลกำลังโยนความข้อเสนอแหวกม่านประเพณี หนีความขัดแย้งไปให้ได้
พล.อ.สายหยุด ผ่านร้อนผ่านหนาวมาโชกโชน มองว่าบ้านเมืองถึงทางตันแล้ว เลยต้องออกมาทำอะไรสักอย่าง แต่กระนั้นเลยยังแสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวทางของ อภิสิทธิ์ มองออกว่าเป็นกลอุบายบางอย่าง และในทางการเมือง ไม่มีทางสำเร็จได้
มองขาด มองแบบคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนหลายอ่าง มาร์คเสนอไม่ทันไรก็บอกทันทีว่า ไม่ใช่ เพราะประสบการณ์ เพราะรู้ถึงเบื้องลึก จึงออกมาสรุปให้แบบไม่ต้องรอคำตอบ
ฉะนั้นการเดินสายของมาร์ค ยังต้องจับตาดูว่าจริงใจหรือเล่นเกม อุปโลกน์ตัวเองเป็นพระเอก หวังสำเร็จมองยาวไปถึงการชนะเลือกตั้ง เพียงแต่จะสะสางความขัดแย้งตรงหน้าไปไม่ง่าย
แม้แต่ฝ่ายเดียวกันยังไม่เอาด้วย แค่เริ่มต้นก็ยากแล้ว ไหนจะคู่ขัดแย้งอย่างรัฐบาลเพื่อไทย แม้ได้คุยกันจริงก็คงต้องเสียเหงื่อ เสียน้ำลายหลายปี๊บ เจรจาลงตัวยาก ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอยู่แล้ว
สุดท้ายอาจโดนด่าเป็นเกมปาหี่สร้างภาพ สร้างราคา เหมือนที่เคยด่าฝ่ายรัฐบาลที่ใช้ 2 เทพ พงศ์เทพ เทพกาญจนา กับ วราเทพ รัตนากร กันสนุกปาก
ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง!!!