เปลี่ยนแปลงเดือนเมษาฯ !!

เกาะกระแส


00 ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้เริ่มมีข้อเสนอและตัวบุคคลที่สอดแทรกเข้ามากันแบบเป็นเนื้อเป็นหนังมากขึ้น อย่างล่าสุด ก็มีกลุ่มที่เรียกว่า "รัฐบุคคล" มี พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีต ผบ.สูงสุด เป็นแกนนำเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะรัฐบุรุษ ปรึกษาหารือกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ผู้นำองค์กรต่างๆ เพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับบ้านเมือง ด้วยการร่วมกัน ร่าง พระบรมราชโองการฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ให้ทรงลงพระปรมาภิไธย โดยมีพล.อ.เปรม ในฐานะรัฐบุรุษ เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่กำลังจะพลิกผันกันอยู่ในเวลานี้

00 อย่างไรก็ดี นาทีนี้ถือว่ายังไม่สะเด็ดน้ำ และยัง "ไม่ถึงทางออก" เพราะถือว่ายังเดินไม่สุดทาง แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามหลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และ ศาลรธน.ชี้ขาดสถานภาพของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อนั้นก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ประจวบเหมาะกันพอดี และถือว่าเหมาะสมสำหรับทางออกดังกล่าวเหมือนกัน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องดูท่าทีของฝ่าย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วยว่า จะยอมรับคำตัดสินหรือไม่ เพราะถ้าไม่ยอมรับ ก็ย่อมหมายถึง ไม่ยอมรับกติกา ไม่เคารพกม. ก็ยิ่งหมดความชอบธรรมลงไปอีก ไม่เหลือสภาพอะไรอีกแล้ว ถึงตอนนั้นทุกฝ่ายก็ย่อมมีสิทธิ์ขับไล่ออกไปให้พ้นได้ทันที ซึ่งระยะเวลา "การเปลี่ยนแปลงใหญ่" ก็คงจะเป็นช่วงปลายเดือนเม.ย.ถึงต้นเดือน พ.ค.นั่นแหละ

00 หากพูดกันแบบตรงไปตรงมา ก็ต้องยอมรับความจริงว่า ทุกฝ่ายกำลังรอองค์อิสระอย่างป.ป.ช. และ ศาลรธน. ซึ่งหากให้เดา ทั้งทางกองทัพก็คงต้องรอให้ถึงวันนั้นด้วย และถึงตอนนั้นก็ต้องวัดใจ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะ "ลอยตัว" อยู่จนถึงเกษียณฯ เดือนตุลาคม หรือเปล่า เพราะถึงตอนนั้นหาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังดื้อด้านไม่ยอมไป มันก็สมควรร่วมกันสหบาทา "ถีบให้ตกเก้าอี้" กันคราวนี้แหละ
00 สำหรับฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร นาทีนี้ก็คงยอมรับสภาพความจริงได้แล้วว่า ตัวเองไม่สามารถกุมสภาพได้เบ็ดเสร็จเหมือนเดิมอีกแล้ว ส่วนสำคัญอาจเป็นเพราะ "ความโลภ" ทำให้หน้ามืดตามัว เพราะถ้าก่อนหน้านี้ไม่ดันหลังน้องสาวตัวเองที่ "ด้อยความสามารถ" ลงมาเป็น"นายกฯหุ่นเชิด" แต่เลือกคนที่มีความรู้ความสามารถมากกว่านี้มาแทน เชื่อว่าคงจะไม่หายนะอย่างที่เห็น แต่ก็อย่างว่าแหละ มันก็เหมือนมีอะไรดลใจ ทำให้สังคมได้เห็นธาตุแท้ ได้เห็นความจริง ตลอดระยะเวลากว่าสองปี มันช่างสาหัสกันจริงๆ

00 จะเรียกว่านาทีทองสำหรับหลอกรับประทานเงิน ทักษิณ ชินวัตร ก้อนใหญ่อีกรอบ เช่นเดียวกัน สำหรับบรรดาลิ่วล้อมีชื่อ อย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คนพวกนี้ย่อมได้ที รอจังหวะอยู่แล้ว รู้ว่า หากมีการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น ยิ่งคราวนี้ต้องใช้มวลชนเพื่อเป้าหมายกดดันข่มขู่คุกคามองค์กรอิสระและศาล เป็นงานสำคัญต่ออนาคต ภารกิจแบบนี้มันก็ต้องใช้ปัจจัย ใช้เงินจำนวนมาก แต่ถึงจะมากเท่าไหร่ ก็ต้องยอมทุ่ม เพราะนี่ถือว่าเป็นโอกาสลุ้นครั้งสุดท้ายแล้ว แม้ว่าจะเสียเงินเปล่าก็ตาม

00 อยากให้ถึงวันชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงกันอีกครั้ง ให้มาถึงเร็วๆ อยากรู้จริงๆว่า มันจะมากันสักกี่คน และคราวนี้จะได้เห็นกันชัดๆ ว่า "ความเสื่อม" มันชัดเจนแค่ไหน คราวที่แล้วเคยมีการปลุกระดมชุมนุมกันเต็มที่ ที่ถนนอักษะ คราวนี้ก็จะขอแก้ตัวนัดชุมนุมที่เดิม วัดมวลชนกับ กปปส. ของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่าใครจะมากกว่ากัน ซึ่งก็อยากเห็นจริงๆ แต่ถึงอย่างไรคนที่ถูก "หลอกรับประทาน" ก็ยังเป็น ทักษิณ วันยังค่ำ !!