กรุงเทพโพลล์สำรวจความเห็นวันสงกรานต์ ประชาชนส่วนใหญ่ 61% คาดว่าปีนี้จะไม่คึกคัก 58% ไม่มีแผนที่จะเดินทาง ส่วนกิจกรรม 44% จะทำบุญ สรงน้ำพระ “ยิ่งลักษณ์” เป็นนักการเมืองที่อยากเล่นสาดน้ำมากสุด ส่วนดาราต้องยกให้ “ณเดชน์” 60% ไม่เชื่อมั่นว่ามาตรการรณรงค์ 7 วันอันตรายของภาครัฐจะช่วยลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิต
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) จึงได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “คนกรุงกับเทศกาลสงกรานต์ 2557” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 1,184 คนพบว่า คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 61.2 คาดว่าเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะไม่ค่อยคึกคักเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ร้อยละ 34.0 คาดว่าจะคึกคักพอๆ กับปีที่แล้ว มีเพียงร้อยละ 4.8 ที่คาดว่าจะคึกคักมากกว่าปีที่แล้ว
ด้านการวางแผนเดินทางในวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.3 บอกว่าไม่มีแผนที่จะเดินทาง ขณะที่ร้อยละ 41.7 มีแผนที่จะเดินทาง โดยในจำนวนนี้ ร้อยละ 24.9 จะกลับไปจังหวัดบ้านเกิด/เยี่ยมญาติ และร้อยละ 14.8 จะไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ที่เหลือร้อยละ 2.0 จะไปต่างประเทศ
นอกจากนี้ เมื่อถามถึงกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ที่คาดว่าจะทำแน่นอนในปีนี้พบว่า ร้อยละ 44.9 จะทำบุญ/สรงน้ำพระ เนื่องในวันปีใหม่ไทย รองลงมาร้อยละ 29.8 จะรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ และร้อยละ 18.0 จะเล่นสาดน้ำ ขณะที่ร้อยละ 7.3 จะไม่ทำอะไรเลยฃ
ส่วนสถานที่ที่นึกถึงเป็นอันดับแรกเมื่อพูดถึงการเล่นน้ำเทศกาลสงกรานต์ คือ ถนนข้าวสาร กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 34.0 รองลงมาเป็น คูเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ร้อยละ 17.2 และถนนสีลม กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 16.1 โดยเรื่องที่กังวลมากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คือ อุบัติเหตุทางจราจร การเดินทาง (ร้อยละ 60.9) รองลงมาคือ การเมาสุราและการทะเลาะวิวาท ร้อยละ 49.5 และการลวนลามและล่วงเกินทางเพศ ร้อยละ 39.6
สำหรับนักการเมืองที่อยากไปเล่นสาดน้ำสงกรานต์ด้วยมากที่สุดอันดับแรกคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 32.9 รองลงมาคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ร้อยละ 27.1 และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ร้อยละ 14.7)
ส่วนนักแสดง นักร้องที่อยากเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยมากที่สุดคือ ณเดชน์ คูกิมิยะ ร้อยละ 12.5 รองลงมาคือ โป๊บ-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ร้อยละ 8.7 และพลอย-เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์ ร้อยละ 8.5
สุดท้ายเมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อมาตรการรณรงค์ 7 วันอันตรายของภาครัฐ จะช่วยลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตให้น้อยกว่าปีที่ผ่านมาได้หรือไม่ ร้อยละ 60.5 ไม่เชื่อมั่นว่าจะทำได้ ขณะที่ร้อยละ 39.5 เชื่อมั่นว่าจะทำได้
