xs
xsm
sm
md
lg

“ลูกบิ๊กจ๊อด” รับตำแหน่ง ผบ.พล.1 รอ. ไม่หนักใจชุมนุมใหญ่ ชี้พวกล้มเจ้าคนไทยหรือเปล่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอง มทภ.1 ส่งมอบตำแหน่ง ผบ.พล.1 รอ.คนใหม่ ย้ำทหารอาชีพต้องคิดกรอบเดียวกัน ยินดี “อภิรัชต์” กับตำแหน่งใหม่ ขอให้ก้าวหน้า เจ้าตัวยก ผบ.พล.1 รอ.คนเก่าปฏิบัติหน้าที่เยี่ยม ลั่นพร้อมนำ พล.1 รอ. สู่ความสำเร็จ แจงปรับกำลังรับชุมนุม 5 เม.ย.ขอให้สงบ ยันไม่หนักใจ รอฟังแนวทาง ศอ.รส. ร่วมมือ ตร.ลดความเสี่ยง รับทหารไม่อยากติดอาวุธ ไร้ความเห็นกฎอัยการศึก ถามพวกหมิ่นสถาบัน คนไทยหรือเปล่า ไม่หนักใจเป็นเป้าแดง



วันนี้ (3 เม.ย.) ที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะอดีตผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) ได้ทำพิธีส่งมอบตำแหน่งให้แก่ พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล.1 รอ.คนใหม่ โดย พล.ต.วราห์กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมากำลังพลใน พล.1 รอ.เป็นส่วนสำคัญที่สนับสนุนให้ตนปฏิบัติงานได้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ ขอขอบคุณที่มีความรัก ความสามัคคีร่วมมือปฏิบัติหน้าที่เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน และในฐานะที่เป็นทหารรักษาพระองค์ เรามีหน้าที่ในการดูแลชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์

“กำลังพลคิดอย่างอื่นไม่ได้ เราต้องคิดในกรอบเดียวกัน ปฏิบัติหน้าที่เหมือนกัน นี่คือสิ่งสำคัญในการเป็นทหารอาชีพ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและกองทัพเป็นอย่างมาก หวังว่าทุกคนจะร่วมกันสนับสนุนการปฏิบัติงานของ ผบ.พล.1 รอ.คนใหม่ เหมือนที่เคยให้การสนับสนุนผม อย่างไรก็ตาม ขอแสดงความยินดีกับ พล.ต.อภิรัชต์ ที่ได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งสำคัญนี้ และมีความมั่นใจว่าด้วยความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการรับราชการดีเด่นที่ผ่านมาของ พล.ต.อภิรัชต์ จะนำ พล.1 รอ.ไปสู่ความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป แม้ผมจะพ้นหน้าที่ ผบ.พล.1 รอ.ไปแล้ว แต่จะติดตามการปฏิบัติงานของทุกคนและยินดีที่จะช่วยแก้ปัญหาตามที่จะสามารถทำได้” พล.ต.วราห์กล่าว

ด้าน พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า ตนและกำลังพลใน พล.ร 1.รอ. รู้สึกยินดีที่ พล.ต.วราห์ได้รับตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 1 แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกอาลัย พวกเราทราบดีว่า พล.ต.วราห์ได้ปฏิบัติหน้าที่ของชายชาติทหาร เพื่อพิทักษ์รักษาซึ่งสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สมกับเป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทหารรักษาพระองค์ พร้อมทั้งมีความมุ่งมั่นในการทำงานจนทำให้ พล.1 รอ.ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาและส่วนราชการมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติงานในตำแหน่งดังกล่าวนี้ ตนตระหนักดีว่ามีความสำคัญต่อกองทัพ และขอให้ความมั่นใจว่าจะนำ พล.1 รอ.ไปสู่ความสำเร็จ พร้อมจะสานต่อนโยบายการทำงาน

พล.ต.อภิรัชต์ยังให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลสถานการณ์การชุมนุมในช่วงนี้ว่า ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังทหารที่รับผิดชอบ 58 กองร้อย คงจะต้องมีการปรับกำลังให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะมาในวันที่ 5 เม.ย.นี้ ยืนยันว่าทหารให้ความเป็นธรรมและดูแลประชาชนทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นคนไทยด้วยกันไม่อยากให้เกิดเหตุรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้ชุมนุมกันด้วยความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ไม่รู้สึกหนักใจต่อสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะตนรับราชการอยู่ใน พล.1 รอ.มานาน และกำลังพลทุกคนตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว ตนและ พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นอดีต ผบ.พล.1 รอ. รับราชการอยู่ด้วยกันมาร่วม 20 ปี มีความรักใครสนิทสนมกัน รวมทั้งได้ติดตามการทำงานของ พล.ต.วราห์มาตลอด ซึ่งตนจะสานงานต่อไป

เมื่อถามว่าได้วางแผนรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมหากเกิดสถานการณ์รุนแรงขึ้นหรือไม่ พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า ทหารต้องทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) จัดตั้งวอร์รูมอยู่ ซึ่งกำลังรอฟังทาง ศอ.รส.ว่าจะมีแนวทางในการปฏิบัติและรับมืออย่างไร ส่วนทางทหารพร้อมปฏิบัติ ทั้งการตั้งจุดตรวจร่วมและการช่วยเหลือประชาชน โดยทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุต่างๆ ได้มากขึ้นในลักษณะของการป้องปราม เพิ่มการลาดตระเวนให้มากขึ้น รวมถึงทำความเข้าใจกับประชาชนมากขึ้น เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับผู้ชุมนุม โดยเฉพาะกลุ่มต่างๆ ที่ไปตรวจพบอาวุธสงคราม ซึ่งต้องเร่งดำเนินการและสืบให้ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก สำหรับแนวทางที่ให้กำลังพลที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่มีความปลอดภัยมากขึ้นนั้น ในฐานะทหารไม่อยากถืออาวุธในการออกไปดูแลประชาชน และไม่อยากให้ทุกฝ่ายมองว่าทหารใช้อาวุธ ตนคิดว่าคงไม่มีใครคิดจะทำอะไรทหาร เพราะทหารรักประชาชนทุกคนทุกฝ่าย พร้อมช่วยเหลือดูแล ส่วนแนวโน้มในการประกาศกฎอัยการศึกนั้น ตนไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ แต่ยืนยันว่าตนมีความเป็นทหารอาชีพ และพร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง ผบ.ทบ.และผู้บังคับบัญชา

เมื่อถามถึงนโยบายในการปกป้องสถาบันหลังจากที่มีผู้ถูกกกล่าวหาในกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมากขึ้น พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก ซึ่งคงห้ามคนเหล่านั้นไม่ได้ แต่การละเมิดสถาบันที่เป็นที่รักยิ่งของคนไทย ตนอยากถามว่าคนที่พูดและคนที่ดูหมิ่นฯ เป็นคนไทยหรือเปล่า เราไม่อยากให้พระองค์ท่านกระทบกระเทือน และไม่อยากดึงพระองค์ท่านลงมา ตนไม่อยากพูดเรื่องนี้มาก เพราะคิดว่าการรักสถาบันพระมหากษัตริย์ควรอยู่ในสายเลือดของคนไทยทุกคน

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ที่ตกเป็นเป้าของคนเสื้อแดง พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะทำงานตามภารกิจไม่เคยทำงานนอกเหนือคำสั่งผู้บังคับบัญชา




























กำลังโหลดความคิดเห็น