หน.ปชป.แสดงความเสียใจต่อครอบครัว คปท.เหยื่อถูกลอบยิง จี้ จนท.เร่งดำเนินคดี ชี้คนเสื้อแดงใช้โซเชียลเหมือนรู้ล่วงหน้า ห่วงแก๊งใต้ดินป่วน 5 เม.ย. ทำการเมืองจบยาก อัด “โล้นปึ้ง” ไร้วุฒิภาวะ หลังโจมตีศาลไทยตัดสินขัดใจซาอุฯ ชี้ต้องหาทางช่วยไม่ใช่โยงการเมืองเพื่อตัวเอง
วันนี้ (2 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความเสียใจครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุรุนแรงที่การ์ด คปท.ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 เม.ย. และต้องประณามการกระทำแบบนี้ เพราะเป็นการลอบยิงผู้ไปใช้สิทธิแสดงออกทางการเมือง จึงขอเรียกร้องเจ้าหน้าที่ต้องเป็นหลักให้บ้านเมือง ถ้าไม่ทำอนาคตจะอันตรายมาก หากบ้านเมืองไม่มีกฎหมาย ไม่มีขื่อไม่มีแปจะอยู่กันอย่างไร
หลายวันที่ผ่านมามีปัญหาการใช้ความรุนแรงและใช้อาวุธสงคราม เช่น การพบระเบิดที่เขตมีนบุรี กทม. การเคลื่อนไหวลักษณะนี้มีอยู่และเป็นเรื่องท้าทายมากว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.จะทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่าขยายผล สกัดกั้นกขบวนการนี้ได้มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะการที่คนเสื้อแดงใช้โซเชียลมีเดียโพสต์ข้อความเหมือนเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า สถานที่ เวลา ถ้าไม่ขยายผลไปสอบสวนคนที่ขึ้นข้อความก็คงหวังได้ยากในการสกัดกั้นการใช้ความรุนแรง
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า วันที่ 5 เม.ย.ที่มีการระดมพลของฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อเคลื่อนไหวคู่ขนานก็น่าเป็นห่วงมาก โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวใต้ดิน ช่วงนี้จึงเป็นจุดพิสูจน์ว่าเจ้าหน้าที่จะทำอย่างไร และต้องเตือนว่าวันนี้อาจจะอยู่ในความกลัว ผู้บังคับบัญชาถึงแม้จะรักษาการ แต่สุดท้ายเสียการทำหน้าที่หรือไม่ทำหน้าที่ ต้องรับผิดชอบเต็มๆ ในหน้าที่ตรงนั้น ต่อให้เขาอยู่ในอำนาจต่อไป เมื่อถึงเวลาเขาไม่มาคุ้มครอง ดังนั้นขอให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องและแก้ปัญหาให้บ้านเมือง และอยากเรียกร้องเจ้าหน้าที่ว่าเป็นผู้ที่ต้องดูแลรักษาความปลอดภัย และชีวิตประชาชน ขอให้ทำหน้าที่นี้ด้วย
ส่วนกองกำลังไม่ทราบฝ่ายขณะนี้ก็มีผลงานให้เห็นเป็นระยะอยู่แล้ว ตนไม่เคยเห็นการหยุดใช้ความรุนแรงและวันที่มีอำนาจมากๆ ก็เอามวลชนปะทะความรุนแรงมาถล่มไล่ฝ่ายค้าน ฝ่ายที่เห็นตรงกันข้าม แต่สิ่งที่อยากจะย้ำคือ เงื่อนไขต่างๆ สอดรับกันมากขึ้นในแง่การเคลื่อนตัวเป็นกระบวนของฝ่ายรัฐบาลที่ใช้ตอบโต้ ซึ่งในเดือน เม.ย.นี้จึงตอบได้ยากว่าจะจบหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ ที่กล่าวโจมตีศาลหลังตัดสินขัดใจประเทศซาอุดีอาระเบียนั้น เป็นความไร้วุฒิภาวะ ซึ่งตนเห็นใจทุกฝ่ายต่อคดีนี้ ซึ่งรัฐบาลสมัยพรรคประชาธิปัตย์ได้หยิบยกประเด็นเรื่องปัญหาที่เกี่ยวข้องกับซาอุดีอาระเบียมาทั้งหมด และพยายามดูว่ามีตรงไหนที่สามารถทำให้เกิดความมั่นใจ และทำให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายได้ แต่การทำนั้นต้องอยู่ภายใต้กฎ กติกา และความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งขณะนั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษก็อ้างว่าได้หลักฐานใหม่ แต่หนักแน่นแค่ไหนนั้นก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงกัน
“หน้าที่ของนายสุรพงษ์ไม่ใช่เอาเรื่องนี้ไปบอกว่ากระบวนการยุติธรรมใช้ไม่ได้ แต่ต้องไปอธิบายว่าศาลมีคำวินิจฉัยอย่างไร หนทางในการต่อสู้ของญาติ ถ้าอยากจะต่อสู้ต่อนั้นต้องทำอะไรบ้าง ถ้านายสุรพงษ์บอกจะต้องหาทางให้เขาไม่ผิดหวัง ก็ต้องไปประสานงานกับฝ่ายบริหารเองว่า มีอะไรอีกที่สามารถทำได้ สามารถรื้อฟื้นคดีขึ้นมาแล้วให้ความเป็นธรรมกับผู้สูญเสีย ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของนายสุรพงษ์ ไม่ใช่ฉวยโอกาสมาโจมตีศาล แล้วผลักดันวาระทางการเมืองของคุณเอง” นายอภิสิทธิ์กล่าว