xs
xsm
sm
md
lg

“ปึ้ง” ลั่นปฏิรูปความยุติธรรม เซ่นคดี “อัลรูไวรี” - “ภราดร” รับบึ้มโยงการเมือง เมินอัยการศึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ(แฟ้มภาพ)
รมว.กต.เผยอุปทูตซาอุฯ ขอเข้าพบคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจ แย้มพร้อมแจงข้อเท็จจริง เสียใจศาลตัดสินไม่ตามที่ญาติหวัง ความสัมพันธสองชาติไม่กระเตื้อง ได้ทีห่วงกระบวนการยุติธรรมไทย หวั่นคาใจชาติมุสลิม กระทบลงทุน ต้องปฏิรูปให้เป็นสากล เริ่มจากเลือกตั้ง รีบปัดไม่ได้บอกตัดสินไม่เป็นธรรม แต่ชี้ขาดความน่าเชื่อถือ รับห่วงม็อบชนม็อบ อ้างสาวกชู ปชต.ปชช.ส่วนใหญ่หนุนเลขาฯ สมช. รับบึ้มมีนบุรีโยงการเมือง ยันไม่ถึงใช้กฎอัยการศึก

วันนี้ (1 เม.ย.) ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ศาลอาญายกฟ้อง พล.ต.อ.สมคิด บุญถนอม อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในคดีอุ้มฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวรี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ว่าอุปทูตซาอุดีอาระเบียได้ติดต่อขอเข้าพบตนเพื่อที่จะพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดการพบปะ โดยตนจะใช้โอกาสที่อุปทูตซาอุดีอาระเบียมาขอพบ ชี้แจงข้อเท็จจริงให้รับทราบ อย่างไรก็ตาม ตนขอแสดงความเสียใจต่อคำตัดสินของศาลที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ญาติของนายอัลรูไวรีคาดหวังไว้ อีกทั้งตนรู้สึกเสียดายในความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียที่กำลังจะฟื้นขึ้นมากลับต้องยังเป็นเหมือนเดิม และเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น รวมทั้งต้องใช้เวลาได้อีก แต่เชื่อว่าความสัมพันธ์ทางการทูตจะไม่ลดถอยลงกว่านี้ และไม่สงผลกระทบต่อการเดินทางหรือการติดต่อระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศนี้

นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า ตนเป็นห่วงในเรื่องกระบวนการยุติธรรมของไทยที่ออกมาไม่เป็นไปตามที่ญาติของนายอัลรูไวรีคาดไว้ ซึ่งถ้าทางซาอุดีอาระเบียนำเรื่องนี้ไปพูดต่อกับประเทศในกลุ่มมุสลิมและประเทศพันธมิตรอื่นๆ ว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยมีหลายอย่างที่น่าสงสัย ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนด้านต่างๆ ถ้าเรายังไม่ให้ความเป็นธรรมกับชาวต่างชาติเท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเทศมุสลิม ก็จะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือที่เคยมีต่อกัน จึงจะเห็นได้ว่าต้องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยต้องมีการเลือกตั้ง ส.ส.เสียก่อนแล้วมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา ก็จะนำไปสู่การปฏิรูปองค์กรต่างๆ เพื่อให้สร้างความยุติธรรมให้มากที่สุดและมีความเป็นสากล

เมื่อถามว่าการพูดเช่นนี้แสดงว่าศาลตัดสินไม่เป็นธรรมใช่หรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น เราเข้าใจกระบวนการยุติธรรมของเรา แต่เราไปห้ามเขาหวังในคำตัดสินของศาลคงไม่ได้ ซึ่งญาติของนายอัลรูไวรีติดตามการดำเนินคดีนี้มานานกว่า 24 ปี เขามีความไม่สบายใจกับคำตัดสินใจดังกล่าว แต่เราต้องอธิบายให้สังคมโลกเข้าใจต่อกระบวนการยุติธรรมของไทยเพื่อให้มีความชัดเจน และไม่มีความเข้าใจผิด ซึ่งถ้าเขาไม่เชื่อ ก็เป็นสิทธิของเขา ทั้งนี้ตนต้องขอไปรับฟังเหตุผลที่ศาลยกฟ้อง โดยตนจะอธิบายย้ำให้ฝ่ายซาอุดีอาระเบียมีความเข้าใจ

ต่อข้อถามว่าฝ่ายไทยต้องชี้แจงต่อกลุ่มประเทศมุสลิมในเรื่องนี้หรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า เราต้องหาโอกาสไปชี้แจงให้ประเทศเหล่านั้นเข้าใจว่ากระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นกับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดนี้เป็นกระบวนการยุติธรรมอีกแบบหนึ่ง ซึ่งสังคมโลกติดตามอยู่ ยิ่งมีการตอกย้ำออกมาในลักษณะนี้ ยิ่งแสดงว่ากระบวนการต่างๆขาดมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ อย่างไร

เมื่อถามว่าได้เคยขอดูพยานหลักฐานของฝ่ายญาติของนายอัลรูไวรีบ้างหรือไม่ว่าเป็นอย่างไร เพียงพอที่จะต่อสู้คดีนี้หรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ตนไม่เคยลงไปในรายละเอียด ตลอดเวลาในการติดตามการดำเนินคดีนี้ ตนกำชับให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและตรงไปตรงมา รวมถึงนำข้อมูลที่ได้จากที่ประชุมติดตามคดีดังกล่าวให้อุปทูตไทยประจำกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ไปบอกเล่าข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมของไทยในคดีนี้ให้ฝ่ายซาอุดีอาระเบียได้รับทราบเป็นระยะๆ โดยไม่ได้ให้ความหวังแต่อย่างใด

ต่อข้อถามว่าคำตัดสินของศาลระบุว่าเป็นเพราะหลักฐานไม่มีน้ำหนักเพียงพอและไม่ใช่หลักฐานใหม่ เหตุใดจึงคิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรณีที่ศาลให้ความเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม นายสุรพงษ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว แต่ผลที่ออกมาเป็นผลของกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องหลักฐานอ่อนนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เราจะทำอย่างไรให้เขาเชื่อมั่นต่อเหตุผลของศาลในการยกฟ้องครั้งนี้ว่าเป็นเพราะหลักฐานไม่มีน้ำหนักเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากวิจารณ์คำตัดสินของศาลเพราะศาลดำเนินตามกระบวนการยุติธรรม

นายสุรพงษ์ยังกล่าวถึงการประเมินสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 5 เม.ย.นี้ ที่กลุ่ม นปช.จะนัดชุมนุมใหญ่ ขณะที่กลุ่ม กปปส.จะนัดประชุมแกนนำทั้งหมดเพื่อเตรียมเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ว่าตนจะรายงานต่อที่ประชุม ครม.ในวันนี้ (1 เม.ย.) ให้รับทราบถึงการประเมินสถานการณ์ดังกล่าว และจำนวนผู้ชุมนุมของกลุ่ม นปช. เพื่อจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลผู้ชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกันที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรง โดยจะใช้มาตรฐานเดียวกับการดูแลกลุ่ม กปปส. ไม่ทำให้เป็นสองมาตรฐาน ทั้งนี้เรายังคงใช้เพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ไม่มีการเสริมกำลังทหาร และตนเชื่อมั่นว่าการใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม ตนเป็นห่วงว่าอาจมีการเผชิญหน้าของมวลชน 2 กลุ่มหลัก แต่ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) ได้พูดคุยกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะเลขาธิการกลุ่ม นปช.แล้วว่าขอให้การชุมนุมของกลุ่ม นปช.เป็นไปโดยสงบ ส่วนการที่เขาออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนอยู่แล้ว

ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยถึงเหตุระเบิดที่มีนบุรี เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ทางเจ้าหน้าที่กำลังขยายผลสืบสวน โดยยอมรับว่า เชื่อมโยงกับประเด็นทางการเมืองและการชุมชุม ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำลังพยายามเร่งรัดอย่างเต็มที่ ส่วนอุปกรณ์ประกอบระเบิดที่พบว่ามีจำนวนมากนั้นเป็นเพราะหาซื้อได้ง่ายขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่ากระแสข่าวการประกาศกฎอัยการศึก หากเกิดสถานการณ์วุ่นวายในบ้านเมืองจะมีแนวโน้มการประกาศใช้หรือไม่ พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่าไม่ไปถึงเช่นนั้น แม้วาเหตุการณ์ดูเหมือนจะรุนแรง แต่จะยังไม่ไปถึงขั้นนั้น ซึ่งพระราชบัญญัติความมั่นคงแห่งชาติยังควบคุมได้

เมื่อถามว่าขณะนี้ทางกองทัพไม่ได้ปฏิเสธที่จะประกาศกฎอัยการศึก พล.ท.ภราดรกล่าวว่า การประกาศกฎอัยการศึกจะเป็นไปได้หรือไม่กองทัพต้องหารือกับรัฐบาลก่อน ส่วนที่วิเคราะห์กันว่าอาจมีการสร้างสถานการณ์ให้ประกาศกฎอัยการศึกนั้น ก็มีข้อมูลข่าวสารบางประการที่จะทำให้มองได้ แต่ทหารได้ยืนยันว่าจะใช้กฎอัยการศึกต่อเมื่อเกิดจราจล แต่ถ้าสถานการณ์ยังคงอยู่เช่นนี้ยังไม่มีความจำเป็น

ผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์การชุมนุมของ นปช.และกปปส.ในวันที่ 5 เม.ย.นั้น พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ไม่ได้มีความกังวลใจ เพราะถ้าการชุมนุมไม่เกิดการเผชิญหน้าไม่เป็นไร และมั่นใจว่าจะไม่มีการเผชิญหน้า เนื่องจากว่า นปช.ได้ยืนยันแล้วว่าจะไม่เข้ามาชุมนุมหรือเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ และเราได้มีการประสานกับแกนนำตลอด แต่การชุมนุมยืดเยื้อไปถึงช่วงวันสงกรานต์ก็จะต้องดูแลต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น