“จิตตนาถ” เผยมีหลายคนที่เกี่ยวข้องกับแกนนำ กปปส.พยายามล็อบบี้มาตลอดห้ามแตะ “สุเทพ-ประยุทธ์” แต่เอเอสทีวีรักษาจุดยืนเดิม ผิดก็ว่าไปตามผิด ตั้งข้อสงสัย “สุเทพ” ประกาศจัดการพวกทำลายภาพลักษณ์ กปปส. เกี่ยวโยงไอเอ็นเอ็นเต้าข้าวใส่ร้าย “สนธิ” หรือไม่
วันนี้ (31 มี.ค.) นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) สื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ กล่าวในรายการ “เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม” ช่วงวิเคราะห์สถานการณ์ทางเอเอสทีวี ว่าการที่ กปปส.ไม่ขวางเลือกตั้ง ส.ว.โดยหวังจะใช้ยุทธวิธีให้ ส.ว.สนับสนุนผู้ชุมนุมได้รับเลือกเข้าไปบวกกับ ส.ว.กลุ่ม 40 แล้วน่าจะได้เสียงพอในการยื่นทูลเกล้าฯ นายกฯ มาตรา 7 สิ่งนี้ขัดกับที่นายสุเทพบอกไว้เองว่าไม่เอานายกฯ คนกลาง แต่เอานายกฯ ที่มาจากประชาชน แต่ยุทธวิธีที่ให้มีการเลือกตั้ง ส.ว.มันเป็นความต้องการนายกฯ คนกลาง โดยใช้วุฒิสภาเป็นคนทำ แล้วผลออกมาฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้มาเพียบ แล้วยังมีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะดันให้นายศรีเมือง เจริญศิริ เป็นประธานวุฒิสภา ฉะนั้นเมื่อวันที่ 29 มี.ค. กปปส.ชุมนุมใหญ่ ควรรณรงค์ขัดขวางการเลือกตั้งวุฒิสภา ไหนๆ ประชาชนต้องการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ก็ประกาศเลยว่าไม่เลือกวุฒิสภาด้วย แต่ก็ไม่ทำ
นายจิตตนาถกล่าวอีกว่า ถึงตนจะวิจารณ์ กปปส. แต่พอถึงเวลาที่ต้องแสดงพลังจัดการกับระบอบทักษิณ ตนบอกเลยว่าวอนให้ทุกคนออกมาร่วมชุมนุมกับ กปปส. ออกมาวัดใจที่ว่าคราวนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะกล้าเอาจริงกับ พล.อ.ประยุทธ์หรือเปล่า แล้วผลก็คือออกมาแค่เดินไปแล้วก็เดินกลับเท่านั้นเอง
แล้ววันที่ 1 เมษายน นายสุเทพจะพามวลชนไปยังสถานที่ราชการต่างๆ เพื่อเรียกร้องให้ข้าราชการหยุดรับใช้ระบอบทักษิณ แต่สถานที่ไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับกองทัพบก นายสุเทพควรพามวลชนไปกองทัพบก แล้วก็เรียกร้องให้ทหารเลิกรับใช้หรือว่าเลิกรับรองสถานะของรัฐบาลนี้เสียที พรุ่งนี้คือวันข้าราชการ ทหารก็คือข้าราชการ นายสุเทพควรพูด ถ้าไม่พูดก็จะสายไปแล้ว
นายจิตตนาถกล่าวต่อว่า มีการโจมตีเอเอสทีวีอยู่ 2-3 วาทกรรม คือการที่นายสุเทพพูดว่า “คนที่ไม่สู้ก็ให้อยู่เฉยๆ” คำถามคือใครไม่สู้ เอเอสทีวีถ่ายทอดให้กับ คปท.เอาเทปหลวงปู่พุทธะอิสระเทศน์ทุกวันมาออกอากาศ ตนไม่เคยไม่ให้เกียรตินายสุเทพ แต่เมื่อติดขัดในเรื่องพลังงาน หรือเรื่องต่างๆ ตนเลยเสนอให้หลวงปู่นำ แต่ไม่ได้ให้นายสุเทพยุติบทบาท แต่เป็นการหลอมรวมกันเพื่อจะได้ใหญ่ขึ้น แต่กลายเป็นว่ามาโกรธตนในเรื่องนี้ ส่วนอีกวาทกรรมคือ “อยากเตะหมา” “ใครที่ทำลายภาพลักษณ์ กปปส.จะโดนจัดการ” ตนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำลายภาพลักษณ์ กปปส.อาจเป็นพวกคุณเอง หรือแม้แต่นายสุเทพที่ไปเผลอทำลายภาพลักษณ์ตัวเองใช่ไหม ซึ่งวันนี้ตนเสียใจที่ได้ยินคำแบบนี้ ถึงแม้ไม่พูดเจาะจงมาก็ตาม แต่คนเราพูดอะไรมันรู้อยู่แก่ใจ
เอาเป็นว่าวันนี้นอกจากเรื่องนี้แล้ว มันมีความพยายามจากคนบางกลุ่มที่พยายามจะดิสเครดิตเอเอสทีวี โดยเต้าข้าวมาใส่ร้ายนายสนธิ ลิ้มทองกุล โดยการเสนอข่าวของไอเอ็นเอ็น อ้างว่านายสนธิให้สัมภาษณ์โจมตี กปปส.ซึ่งเป็นข่าวเท็จอย่างแท้จริง และข่าวนี้หรือเปล่าที่นายสุเทพประกาศว่าใครไม่สู้ให้อยู่เฉยๆ หรืออยากที่จะเตะหมา โดยหาว่าเราเป็นหมาลอบกัด ข่าวมันออกมาค่ำวันที่ 28 มีนาคม ก่อนการเคลื่อนไหววันที่ 29 มีนาคม
ความจริงคือ นายสนธิไม่เคยที่จะพูดเรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียว นับแต่นายภิญโญจากไทยพีบีเอสมาสัมภาษณ์ตอนนั้น นายสนธิก็ไม่เคยให้สัมภาษณ์พิเศษกับใครเลย ที่เหลือน่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์เวลาที่ไปศาลเท่านั้นเอง แต่จุดตรงนี้กลับโดนเอาไปสร้างความเข้าใจผิด แล้วเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดความเกลียดชังเอเอสทีวี ในขณะเดียวกันก็มีพวกโลกไซเบอร์พยายามจะบอกว่านายสนธิไม่ได้พูด แต่นายจิตตนาถพูด ตนก็จะบอกเลยว่าตนไม่เคยพูดเนื้อหาลักษณะแบบนี้
“มีหลายคนที่มีความสัมพันธ์กับแกนนำ กปปส.พยายามมาตลอดให้ตนอย่าวิพากษ์วิจารณ์ หรือพูดในเชิงที่ไม่ให้เกียรติกับ กปปส. ซึ่งที่แท้จริงก็คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เขาบอกว่าถ้าผมยังทำแบบนี้มันจะเป็นผลลบกับเอเอสทีวี ซึ่งผมก็ได้เรียนกลับผู้ใหญ่หลายคนด้วยความเคารพว่า ผมน้อมรับนะครับ แต่ว่าผมมีจุดยืนของผม เอเอสทีวีมีจุดยืนของเอเอสทีวี คือว่าผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก และเราก็จะไม่ให้ใครมาหมกเม็ด หรือมาสวมตอกับการต่อสู้ของภาคประชาชน” นายจิตตนาถกล่าว
นายจิตตนาถยังกล่าวด้วยว่า หลายคนบอกว่าสิ่งที่นายสนธิทำมา นายจิตตนาถทำพังหมดเลย ซึ่งตนได้ถามนายสนธิแล้วว่าสิ่งที่ทำผิดไหม นายสนธิบอกว่าสิ่งที่ตนทำ คือเจตนารมณ์ที่ตั้งเอเอสทีวีขึ้นมา และก็ขอให้เรายืนหยัดในการทำหน้าที่ตรงนี้ต่อไป แต่ให้ระวังคนที่โดนเราวิพากษ์วิจารณ์ บางคนเขาอาจจะไม่ได้มองว่าเป็นการติเพื่อก่อ หรือว่าเป็นการกระตุ้นให้ทำหน้าที่ บางคนอาจจะมีความเจ้าคิดเจ้าแค้น และมันก็อาจจะกลายเป็นบูมเมอแรงที่มันทำให้เกิดความพยายามที่จะดิสเครดิตเอเอสทีวีแบบนี้ขึ้นมา
กลายเป็นว่าตอนนี้เอเอสทีวีไปเตะตัดขา กปปส.ทั้งๆ ที่ตัวเองไปเตะตัดขาประชาชนเสียเอง ฉะนั้นเอเอสทีวีเป็นหมาเฝ้าบ้าน แต่คนที่กำลังใช้พลังของประชาชนอยู่ ตนถือว่าคนพวกนี้เป็นหมาจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ อ้างเอาการต่อสู้กับระบอบทักษิณเป็นตัวประกัน ว่าใครจะมาแฉ วิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ เพราะเท่ากับว่ารับงานทักษิณมา นี่บ้าหรือเปล่า
คำต่อคำ : เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม ช่วงวิเคราะห์สถานการณ์ 31 มีนาคม 2557
กมลพร - สวัสดีค่ะ กลับเข้าสู่ช่วงวิเคราะห์สถานการณ์ในการชุมนุมกันนะคะ ท่าทีการเคลื่อนไหว ยุทธศาสตร์ของ กปปส.ตั้งแต่วันที่ 29 ที่ผ่านมา ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันมาอย่างต่อเนื่อง ว่าจะไปในทิศทางไหน พรุ่งนี้ 1 เมษายน วันข้าราชการพลเรือน ก็จะไปตามสถานที่ราชการ เพื่อให้ข้าราชการนั้นหยุดรับใช้รัฐบาลหุ่นเชิดเสียที จะได้ผลมั้ย จะยังคงเดินหน้าต่อไปหรือไม่ เดี๋ยวเรามาว่ากัน รวมไปถึงบทวิเคราะห์อื่นๆ ซึ่งวันนี้แขกรับเชิญของเรา คุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล อยู่กับเราค่ะ สวัสดีค่ะคุณจิตตนาถ
จิตตนาถ - สวัสดีครับคุณเก๋
กมลพร - เมื่อกี้ก็ยังนั่งดูทางด้านท่าทีของ กปปส. โดยเฉพาะเวที คปท.อยู่เรื่องไปสถานที่ราชการ ก็ยังไปกันอยู่ใช่มั้ยคะ
จิตตนาถ - ครับ ก็ยังไปกันอยู่ครับ
กมลพร - งั้นมาเริ่มกันเรื่องของสถานการณ์ การเลือกตั้ง ส.ว.ล่าสุดกันก่อนนะคะ ก่อนที่จะไปเกาะติดการชุมนุมกันต่อนะคะ มาพูดถึงทัศนะของคุณจิตตนาถ รวมถึงท่านอื่นๆ ที่มองเรื่องของการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา บางท่านให้ความหวังกับการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ว่าจะนำไปสู่จุดเปลี่ยนของประเทศไทย บางท่าน บางคน บางกลุ่มนักวิเคราะห์ก็มองว่า เอ๊ะ การเลือกตั้ง และเราไปดูรายชื่อของบรรดาว่าที่ ส.ว.ทั้งหลาย เราเห็นเส้นสายทางการเมืองอีกเยอะแยะเลยค่ะ คุณจิตตนาถ
จิตตนาถ - ความเชื่อที่มีการพูดถึงกันในเวที กปปส. ที่ทำให้ไม่มีการขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ว.ครั้งนี้ มันคืออะไรที่คุณเก๋บอกมา
กมลพร - ข่าวลือ เสียงลือเสียงเล่าอ้างมา เขาพูดกันอย่างนี้ว่า ท่าทีของ กปปส.ที่ไม่ชัดเจนต่อการขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ว.คราวนี้ เพราะลึกๆ แล้วจะใช้ยุทธวิธีในการที่จะให้ได้ตัวของ ส.ว.ในฝั่งที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของการชุมนุม หรือมวลมหาประชาชนกลุ่มไหนก็แล้วแต่ เอาเฉพาะจำนวนภาคใต้ บวกกับภาคกลางบางส่วน บวกกับกรุงเทพมหานคร ไปบวกกับกลุ่ม ส.ว.น้ำดีประมาณ 40 คน ที่อยู่ในสมาชิกวุฒิสภา รวมๆ กันแล้วน่าจะได้เสียงที่สามารถมีผลตามรัฐธรรมนูญ ในการที่จะไปยื่นเรื่องขอนายกฯ พระราชทาน นายกฯ ม.7 แบบที่เขาว่ากัน เขาว่ายุทธวิธีนี้อย่างไรก็เป็นทางออกของบ้านเมืองก่อนหน้านี้ คุณปั๊บมองเรื่องนี้อย่างไรคะ
จิตตนาถ - นี่มันก็เป็นจุดหนึ่งที่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ แก้ตัวไม่ขึ้นที่บอกว่า ตอนนี้เราไม่หวังนายกฯ คนกลาง แต่ว่าเราหวังนายกฯ ที่มาจากประชาชน เห็นไหมครับ นายกฯ ต้องประชาชนเป็นผู้ตั้งเท่านั้น แต่ยุทธวิธีของ กปปส.ที่บอกให้มีการเลือกตั้ง ส.ว. คุณเองนั่นแหล่ะเป็นคนที่ต้องการนายกฯคนกลางโดยใช้วุฒิสภาเป็นคนที่ทำ มันขัดกับสิ่งที่คุณสุเทพ เพิ่งจะพูดมาล่าสุดเมื่อวันที่ 29 นี้เอง เห็นไหมครับ
กมลพร - แล้วถ้าเราดูจากรายชื่อมันบอกแล้วก็เป็นฝ่ายการเมืองกันทั้งนั้นนะคะ
จิตตนาถ - คือมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เอาแค่เรื่องตรรกะก่อนในตอนแรก เราบอกว่าเราจะปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ฉะนั้นจะเลือกตั้ง ส.ส. หรือ ส.ว.มันเกี่ยวข้องกันหมด ส.ส. ส.ว. เขาเรียกว่าสภาผัวเมีย สภาพี่น้อง สภาครอบครัว คุณไม่ให้มีสภาล่าง แต่คุณจะให้มีสภาบน มันไม่เข้ากันคุณเก๋ คือถ้าจะไม่มีก็ต้องไม่มีไปเลย คือผมถึงเสียดายยุทธศาสตร์ตรงนี้ว่า คือดันไปเชื่อโมเดลแบบนี้ คือมันไม่ใช่ไปดันเชื่อหรอก คิดโมเดลไปว่าเป็นรัฐบาลกลางแบบนี้ ก็ถึงผลักดันให้เป็นแบบนี้ พอผลมันออกมาเป็นแบบนี้สัดส่วนของ ส.ว.ฝั่งทักษิณ กับ ส.ว.ฝั่งไม่ทักษิณ
กมลพร - ค่ะ
จิตตนาถ - ของครั้งนี้กับของที่เคยมีอยู่แทบจะเหมือนกันเลย แทบจะไม่ต่างกันเลย เห็นไหมครับ
กมลพร - เพราะฉะนั้นคุณปั๊บมองก็คือการที่จะไปใช้วิธีการได้มาซึ่งรัฐบาลกลาง มีนายกฯ คนกลาง จากการตั้งขอมวลมหาประชาชนจากวิธีแบบนี้ไม่น่าจะได้ผล ไม่น่าจะเป็นทิศทางที่ถูกด้วยซ้ำไป
จิตตนาถ - ไม่ถูกด้วยซ้ำไป เพราะว่าคือถ้าไม่มโนจนเกินไปนะ ตอนนี้คำว่ามโนฮิต คุณก็รู็อยู่แล้วว่ามันเป็นสภาฯ ผัวเมีย สภาฯ พี่น้อง มันเป็นเครือข่ายของเขา คุณไปนับเสียงทางเหนือ นับเสียงทางอีสาน นับเสียงทางภาคกลาง ที่เป็นคนที่พร้อมจะต่อสายกับผลประโยชน์ของฝั่งการเมือง มันก็ชัดอยู่แล้ว ก็เท่ากับว่าคุณจะยัดเยียดเอาสภาฯ สูง ไปให้เขาใหม่ ตอนแรกคุณคำนูณเชื่อว่า ผลการเลือกตั้งน่าจะดันให้คุณหญิงจารุวรรณ ขึ้นมาเป็นประธานสภาฯ ได้ แต่หนังสือพิมพ์เอื้อกับ กปปส.เอง อย่างหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์เห็นผลออกมาแล้วยังพาดหัวเลยแม้วยึดสภาฯ สูง เตรียมดันศรีเมืองนั่งประธานสภาฯ นี้คือความเป็นจริงกับมโนไม่เหมือนกันไงครับ เห็นไหมครับ
กมลพร - เมื่อสภาพความเป็นจริงออกมาแบบนี้ จะกลับลำก็ไม่ทันแล้ว ซึ่งไม่มีการเลือกตั้งตอนนั้นจากสิ่งที่เราพูดน่าจะชัดเจน
จิตตนาถ - ใช่ อันนั้นจุดของ คปท.ที่เขารณรงค์ ผมเชื่อว่าเขารณรงค์ที่ตรงจุด ใช่ไหมครับ อันนี้ก็ถือว่าเป็นความผิดพลาดอีกครั้งของ กปปส. และเป็นใบเสร็จจับเท็จอีกครั้งหนึ่ง ที่จับเท็จว่า คุณสุเทพไม่ได้หวังที่จะใช้สภาฯ การที่ประชาชนเป็นคนตั้งรัฐบาล หวังใช้แทคติกในการเลือกคนกลางขึ้นมาแทนเท่านั้นเอง
กมลพร - พอมาถึงตรงนี้แล้วเราเป็นห่วงกับเรื่องที่มันจะต้องเกิดขึ้นต่อจากนี้ ต้องยอมรับว่า บรรดาสมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นชุดใหม่ ว่าที่ทั้งหลายจะเข้าไปมีผลต่อทั้งการถอดถอน และการแต่งตั้งองค์กรอิสระซึ่งกำลังจะหมดอายุลง
จิตตนาถ - ใช่ เห็นไหมครับ ชอบไปมองในเรื่องของแทคติก นี่คือนิสัยเลยของคนที่มาจากภาคการเมือง แต่ไม่ได้มองในเรื่องหลักการ ถ้าคุณยึดหลักการแล้ว หลักการอย่างไรก็ต้องมาก่อน ใช่ไหมครับ เขาเรียกว่าเสียน้อยเสียมาก เสียยากเสียง่าย มันก็เป็นแบบนี้เท่านั้นเอง
ฉะนั้นเมื่อเราย้อนกลับไปในสถานการณ์วันที่ 29 การรณรงค์ชุมนุมใหญ่ของ กปปส.วันที่ 29 ควรจะเป็นการรณรงค์ขัดขวางการเลือกตั้งวุฒิสภา หรือไม่ให้มีการเลือกตั้งมากกว่า เพราะว่าเรียกร้องว่าต้องปฏิรูป ไหนๆ คุณออกมา เดินออกมาสักการะพระบรมรูปแล้วว่า ประชาชนต้องการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง คุณก็ประกาศว่า ถ้าอย่างนั้นเริ่มจากวุฒิสภาไปเลย และคุณก็ไม่ทำ
กมลพร - วันนั้นใช้เขาเรียกสโลแกนว่า เผด็จศึกคุณยิ่งลักษณ์ใช่ไหมคะ
จิตตนาถ - ใช่ ก่อนหน้านั้นการที่เขาเรียกแขก เขาสร้างโฆษณาชวนเชื่อว่า ให้เชิญชวนกันออกมาชุมนุมใหญ่ครั้งนี้เพื่อเผด็จศึกรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แล้วก็จะปิดเกมให้เร็วที่สุด ในที่สุดผลลัพธ์ออกมาก็คืออะไร วันที่ 29 มันก็จะมีเพลงมาร์ชออกมา เพลงมาร์ชนั้นก็จะบอกว่า "เดิน เดิน เดิน รอมะม่วงหล่น เดิน เดิน เดิน เดิน รอมะม่วงหล่น เดิน เดิน เดิน เดินกลับสวนลุมฯ กลับสวนลุมฯ รอมะม่วงหล่น" นี่ก็คือเนื้อหาเป็นแบบนี้เอง แทนที่จะใช้ 29 บอกเลยว่า อย่าไปเลือก ส.ว.เลย หรือว่าเดี๋ยวเราไปปิกนิกกันใหม่
กมลพร - ตามจุดต่างๆ เหมือนครั้งที่มีการเลือกตั้ง ส.ส.
จิตตนาถ - ใช่ ก็คือเอาจุดที่ปลอดภัยก็ได้ ไหนๆ คุณจะมาฟอร์มนี้แล้ว นี่ก็คือเนื้อหาของ 29 ไง แล้วซ้ำร้ายคืออะไร ซ้ำร้ายบอกว่า ที่บอกว่าจะเร่งปิดเกมเร็ว ก็มาประกาศบอกว่า เดี๋ยวจะชุมนุมอีก 2 ครั้ง ต้องชุมนุมใหญ่อีก 2 ครั้ง คนก็บอก เฮ้ย อะไรกัน สรุปก็คือ นี่ล่ะ เดิน เดิน เดิน รอมะม่วงหล่น ชุมนุมใหญ่ รอมะม่วงหล่น แทนที่ 29 ที่ผ่านมา จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าเสียเปล่าเสียทีเดียว เพราะว่ามันก็มีการเคลื่อนไหวที่เป็นคุณอยู่ ก็คือของทางหลวงปู่พุทธะอิสระ
กมลพร - ใช่ค่ะ ดูจะเป็นน้ำเป็นเนื้อที่สุดในการเคลื่อนไหวของวันที่ 29 ที่ผ่านมา คือเวที กปปส.แจ้งวัฒนะ และเวที คปท.ที่มีกิจกรรม คปท.เขาก็ ... วันนี้ก็เป็นเรื่องเป็นราวต่อเนื่อง ก็คือเอาพระไปไว้ที่พระพรหม เปลี่ยนธงชาติ ก็ว่ากันไป ในส่วนของหลวงปู่พุทธะอิสระ จริงๆ แล้วตอนแรกท่านก็ได้ประกาศเอาไว้ ผ่านทางเอเอสทีวี และหลายช่องว่า อยากเสียว อยากมัน อยากฮา มานะ มาที่เวทีแจ้งวัฒนะ แล้วหลวงปู่พุทธะอิสระนี่ล่ะ เป็นคนชัดที่สุดในคำพูด คือเราจะไปแสดงสัญลักษณ์ร่วมกันกับเขา และเที่ยงเรากลับนะ เพราะเราต้องมาบวชเณรต่อ ปรากฏว่าระหว่างที่หลวงปู่พุทธะอิสระ และบรรดาเครือข่ายชาวนาไป ก็มีรถอีเเต๋นเคลื่อนขบวนจากศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะไปที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่สนามบินน้ำ หนึ่งในกิจกรรมวันนั้น เพื่อจะนำข้าวของชาวนามาขายให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลบรรเทาความเดือดร้อน ผู้ชุมนุมต้องเคลื่อนขบวนผ่านหน้าถนนสนามบินน้ำ และต้องผ่านเวทีของ กวป.ค่ะ ซึ่งมีนายศรรักษ์ มาลัยทอง และนายชาญ ไชยะ หรือหนุ่มโคราช แกนนำปักหลักตั้งเวที ในเมื่อปักหลักอยู่ตรงนั้น มวลชน กปปส.แจ้งวัฒนะก็เยอะนะคะ หลวงปู่ก็เลยให้พาบรรดาทัพหน้า คือ บรรดารถอีเเต๋น รถไถ ไถเกลี่ยโต๊ะกับเก้าอี้ที่ขวางทางอยู่ออกไปก่อน
จากนั้นกลุ่มมวลชน กปปส.ก็เข้ารื้อ และขยับเวทีของ กวป.ออกไปจากบริเวณนั้น แม้ว่าขณะที่กำลังดำเนินการจะมีเสียงคล้ายกับปืนดังขึ้น 2 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยป้องกันที่ไปด้วยก็ไปดู ไม่ได้พบอันตรายจากใครแต่อย่างใด
จิตตนาถ - สรุปว่าหลวงปู่ก็ไปเคลียร์หน้า ป.ป.ช.ให้ ไม่ต้องให้ทหาร ไม่ต้องให้ตำรวจไปเคลียร์ หลวงปู่ทำอย่างชัดเจนเลย นี่คือ สิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในวันที่ 29 ที่ผ่านมา เห็นไหมครับ แล้วอย่างนี้นิดหนึ่ง จริงๆ แล้ว 29 ทางฝั่ง กปปส.เองผมเข้าใจว่า เขาน่าจะมีการคุยกับทางทหารอีกรอบหนึ่ง ในการที่วันที่ 29 ออกมาแสดงพลัง ประมาณว่า ประชาชนยังยืดหยัดในเรื่องนี้อยู่นะ เรื่องที่จะมีการปฏิรูปทางด้านการเมืองอยู่ และต้องการให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ออกไปอยู่
เพราะฉะนั้นถ้า ป.ป.ช.ชี้มูลออกมา ประชาชนยังจะเป็นแบ็กให้อยู่ พล.อ.ประยุทธ์ควรที่จะ ถึงเวลานั้นถ้าเกิดว่า มะม่วงมันหล่นแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ควรที่จะกระซิบรัฐบาลได้แล้ว ผมคิดว่านี่คือเนื้อหาของวันที่ 29 ที่มีการคุยกันโชว์มากกว่า อันนี้คืออันที่หนึ่งนะครับ แต่ปรากฏว่าอะไรมันจะมีคำถามต่อมาอีกว่า แล้วถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ทำแล้วทำอย่างไรต่อ หรือแล้วถ้ายิ่งลักษณ์เล่นแง่ถอย แล้วให้ พงศ์เทพรักษาการต่อ คุณจะทำอย่างไรต่อ คนบางคนบอกว่า ถ้ายิ่งลักษณ์ออกก็มีผลกับทั้งคณะ เขาบอกอย่างนั้นไม่ได้ต้องให้ศาลตีความก็ยืดออกไปอีกก็ได้
กมลพร - หน้าด้านเหมือนที่เขาอยู่ในทุกวันนี้
จิตตนาถ - ใช่ หรือถ้าเกิดว่ายิ่งลักษณ์ยอมถอย แล้วมีรัฐบาลรักษาการ คนกลางขึ้นมาตามข้อแม้มันก็ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากประชาชนอีกไม่ใช่หรือ ถ้าเป็นวิธีแบบนี้ใช่ไหมครับ นี่ไงถึงบอกว่า มันเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ในขณะที่วันที่ 28 ผมเองถึงผมจะวิจารณ์ กปปส.ในบางเรื่องที่ทำไม่เข้าท่าเข้าทาง แต่พอถึงเวลาที่จะต้องจัดการกับระบอบทักษิณในการชุมนุมแสดงพลัง แล้วต้องการให้มวลชนเคลื่อนไหวตีให้มันตรงจุด ผมบอกเลยว่า ผมวอนให้ทุกคนออกมาร่วมชุมนุมกับ กปปส.กันอีกสักครั้ง ใครที่เบื่อออกมาเถอะ ออกมาวัดใจที่ว่าคราวนี้ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ จะกล้าเอาจริงกับคุณประยุทธ์ อีกหรือเปล่า จะกล้าพูด เอาประชาชนไปพูดเรื่องนี้กับคุณประยุทธ์อีกหรือเปล่า แล้วผลก็บอกมาว่าเปล่า คืออกมาแค่เดินไป แล้วก็เดินกลับ เท่านั้นเอง คราวนี้มันก็มาดูวันพรุ่งนี้
กมลพร - วันที่ 1 เมษายน วันข้าราชการพลเรือน
จิตตนาถ - คุณสุเทพ จะไปไหนนะครับ
กมลพร - ไปตามสถานที่ราชการ แบ่งยุทธศาสตร์กันไป ไปเพื่อที่จะไปรณรงค์เรียกร้องให้ข้าราชการเลิกรับใช้รัฐบาลหุ่นเชิดนี่สักที
จิตตนาถ - สถานที่ราชการไหนที่ไปก็ไม่สำคัญเท่ากับกองทัพบก กองทัพบกต่างหากคือที่ที่คุณสุเทพ ควรจะนำมวลชนไป แล้วก็เรียกร้องให้ทหารเลิกรับใช้หรือว่า เลิกรับรองสถานะของรัฐบาลนี้เสียที จริงๆ รัฐบาลนี้มันหมดสภาพไปตั้งแต่การขัดต่อรัฐธรรมนูญแล้ว ที่มีการตัดสินออกมาทั้งหลายๆ เรื่อง แต่รัฐบาลนี้ยังอยู่ได้ไม่ใช่เพราะตำรวจ ยังอยู่ได้เพราะว่าทหารยังรับรองรัฐบาลนี้อยู่ ถึงเขาไม่ได้พูดว่าเขารับรอง แต่เขาก็ยังรับคำสั่งจากรัฐบาลนี้อยู่นั่นเอง
นี่ต่างหาก พรุ่งนี้ก็ดู ถ้าหากไปรณรงค์ให้กับข้าราชการ หน่วยงานต่างๆ แล้วไม่ไปตีตรงจุดก็คือ ไม่ไปรณรงค์ให้ทหารเลิกรับใช้คุณยิ่งลักษณ์ ไม่ไปพูดให้คุณประยุทธ์ในวันข้าราชการ เป็นวันที่ควรจะพูดมากที่สุด เอาล่ะ 29 คุณจะทำก็ตามแต่ แต่วันที่ 1 คือวันข้าราชการ ทหารก็คือข้าราชการ วันนี้คุณต้องพูด ถ้าคุณไม่พูดวันนี้ก็สายไปแล้ว
กมลพร - ไปรออีกสักยกหนึ่ง หลังจากประชุมแกนนำวันที่ 5 เมษาฯ ได้มั้ยคะ
จิตตนาถ - อืม เอาเป็นว่าวันที่ 5 เมษาฯ เป็นการเลี้ยงมวลชนเพื่อที่จะให้มันมี story หรือว่ามี drama เกิดขึ้นแค่นั้นเอง เพราะว่าวันที่ 5 เมษาฯ มันจะเป็นวันที่ นปช.เองเขาก็ประกาศที่จะชุมนุม และวันที่ 5 เมษาฯ มันสำคัญกับ นปช.มาก เพราะถ้า นปช.รวมคนไม่ได้เยอะ หรือว่ามาน้อย พลังต่อรองของฝั่งของคุณทักษิณอาจจะน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาแพ้ เขาอาจจะน้อยลง เท่านั้นเอง ก็อาจจะประมาณว่า การตั้งรัฐบาลคนกลาง หรือที่เป็นคำกล่าวอ้างว่ารัฐบาลจากประชาชน ถ้าเกิดว่ามีการสอยมะม่วงกันแล้ว และประเทศมันเดินต่อไปไม่ได้ มันต้องมีรัฐบาลขึ้นมาสักอย่าง ก็อาจจะเข้าทางคุณสุเทพได้มากขึ้น เท่านั้นเอง มันก็เป็นการเบ่งพลังกันแค่นั้นเอง
จิตตนาถ - เท่านั้นเอง มันก็เป็นการเบ่งพลังกันเท่านั้นเอง
กมลพร - โชว์พลังของทั้งสองฝ่ายว่าใครเหนือกว่ากัน
จิตตนาถ - ใช่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ตลกไง มันเหมือนมานั่งเบ่งกล้ามแข่งกัน มันไม่ได้เอาเนื้อหาว่า จริงๆ แล้วมันสมควรจะไปถึงขั้นไหนแล้ว ซึ่งจริงๆ เราต้องมาพูดถึงเรื่องของรัฐบาลที่มาจากประชาชนที่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ พยายามปรับแนวว่าให้มาจากแบบนี้ จากเดิมที่หวังเรื่อง ส.ว.จะเอาคนกลางมา นู่นนี่ เอาคนกลางมา ก็กลายเป็นว่า คำถามก็คือว่า รัฐบาลที่มาจากประชาชนจะตั้งได้ต้องทำยังไง คุณเก๋ มันต้องมาจากการปฏิวัติโดยประชาชน ใช่มั้ย ไม่ใช่มาจากสุญญากาศ
แล้วคุณไปเสนอใคร แล้วใครเขาจะเลือกคุณ คือประชาชนต้องมีอำนาจอธิปไตยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เหมือนที่คุณสุเทพพยายามที่จะพูดนี่ล่ะ คำถามก็คือว่า ทำยังไง มวลชนเรือนล้านมันไม่มี question อยู่แล้วล่ะ ว่าเขาสนับสนุน แต่ทำยังไงก็คือว่า ต้องให้ข้าราชการ ก็คือวันที่ 1 ที่เขาจะไปน่ะ รับรอง แต่ข้าราชการรับรอง สาธารณสุขรับรองไปแล้วไงล่ะ ก็แค่นั้นเอง องค์กรอิสระเขาก็ทำตามหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว ศาลก็ทำตามหน้าที่อยู่แล้ว ว่าต้องให้ทหารรับรอง
กมลพร - ถ้าทหารแสดงท่าทีอย่างชัดเจน โดยเฉพาะคุณประยุทธ์ ข้าราชการอาจจะยอมหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ได้
จิตตนาถ - ใช่ เพราะทหารก็มาบอกเลยว่า ทหารขอเรียกร้องให้เป็นแบบนี้ ขอให้ข้าราชการมาร่วมกับ ประชาชน ร่วมกับทหารกันแบบนี้ อย่างนี้มันก็ยังพอที่จะมีหวัง ทีนี้คำถามก็คือว่า แล้วถ้าเกิดว่า ทหารบางคนมันถังเช่าอยู่ คุณสุเทพจะทำอย่างไรต่อ คุณจะยังแบ๊ะๆ ต่อหรือเปล่า เห็นไหมครับ หรือถ้าเกิดว่าไม่ใช่รัฐบาล ไม่ได้ชนะด้วยการปฏิวัติประชาชน แต่ชนะด้วยการล็อบบี้กัน ต่างกันนะครับประชาชนได้รับชัยชนะออกมาเป็นเรือนล้าน แล้วทหารประกาศตามข้างประชาชน ข้าราชการออกมาประกาศตามข้างประชาชน แบบนี้เราอาจจะได้รัฐบาลที่เป็นของประชาชนจริงๆ
แต่ถ้าเกิดว่าเป็นการล็อบบี้กันให้คุยกันในค่ายทหาร เหมือนเมื่อครั้งสลับขั้ว และทางคุณสุเทพเป็นต่อ ใช่ไหมครับ กลายเป็นว่าคนที่ตั้งรัฐบาลมันก็คือ คุณสุเทพกับพวกคุณประวิตร คุณประยุทธ์ จันทร์โอชานั้นเอง มันก็ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากประชาชนจริงๆ เราอาจที่จะเห็นรัฐมนตรีกลาโหมเป็นคุณอนุพงษ์ เผ่าจินดาก็ได้ ใช่ไหมครับ หรือว่าคุณประวิตร วงษ์สุวรรณ อาจจะเป็นรองนายกฯ ความมั่นคงก็ได้ โดยเฉพาะอะไร โดยเฉพาะเรื่องของพลังงานเราอาจจะเห็นคุณปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ก็ได้
กมลพร - โอ้โหแต่ละชื่อ คุณปั๊บ
จิตตนาถ - มาเป็นรัฐมนตรีพลังงานก็ได้เห็นไหมครับ เพราะฉะนั้นมันมีอยู่แค่นี้ ทีนี้เราก็มาดูว่า ถ้าอย่างนั้นวันที่ 29 ออกมาในที่สุดมันไม่ได้มีเนื้อหาอะไรที่มันชัดเจนจาก กปปส.เลยแม้แต่น้อย แต่ทำไมเขาถึงที่จะต้องทำให้มันเกิดวันที่ 29 ขึ้นมา ใช่ไหมครับ ผมก็สรุปได้ 2-3 ข้อ อันที่ 1.คือว่าพูดไปแล้ว เขาหวังให้ทหารร่วมมือเมื่อมะม่วงหล่นว่า มวลชนแบ็กอยู่ 2.คือว่าเขาต้องการโชว์กับเฉลิม โชว์กับเสื้อแดงแค่นั้นเอง เบ่งกล้ามแข่งกันก็พูดไปแล้วอีก
เพราะฉะนั้นข้อ 1 ข้อ 2 ที่ผ่านมา มันไม่จำเป็นต้องทำอยู่แล้ว เพราะว่าชุมนุมใหญ่อย่างไรที่ผ่านมา คนมันก็เยอะถ้าการชุมนุมใหญ่ทุกครั้ง จะต้องมีความแหลมคมขึ้นทุกครั้ง ไม่ใช่เป็นการชุมนุมใหญ่ที่ไม่มีเนื้อหาอะไรเลย และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ไม่มีเนื้อหาที่สุด
กมลพร - ค่ะ เพราะเดินมาทำพิธี ท้ายขบวนยังมาไม่มีถึงเลย กลับแล้ว และมีการพูดกันว่า เอาล่ะ จำนวนคนอาจจะเยอะก็จริง แต่กระแส หรือคนบางกลุ่มก็ลดน้อยลง ใช่มั้ยคะ
จิตตนาถ - ครับ มันก็เลยมาเหตุผลที่ 3 ว่าทำไมจะต้องทำ เพราะว่าก่อนชุมนุม วันที่ 29 ภาพลักษณ์ของคุณ กับของ กปปส.มันมีภาพลักษณ์บางอย่างที่คนเขารู้สึกว่าเขาไม่แฮปปี้ขึ้นมา ซึ่งผมก็เคยวิจารณ์ไปแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของพลังงาน โดยเฉพาะการที่จะเอาคุณปิยสวัสดิ์ไปหลังเวทีบ่อยๆ การรวบหัวรวบหาง เอาคนของตัวเองปฏิรูปพลังงาน แล้วเนื้อหาออกมาส่วนใหญ่เป็นการแก้ต่างให้กับ ปตท.ทั้งนั้นเลย คือคนที่เขาไปร่วมกับ กปปส.น่ะ อย่าไปหลงกันว่าเป็นคนที่ออกไปเพราะว่าคุณสุเทพ เป็นคนที่เขาต้องการที่จะปฏิรูปประเทศ ขับไล่ระบอบทักษิณจริงๆ ในเมื่อเนื้อหาของ กปปส. คือ กปปส.นี่ตลกอย่าง พอคุณสุเทพรวมกับ คปท. รวมกับหลวงปู่ ทางแจ้งวัฒนะ รวมกับกองทัพธรรม ก็ประกาศเป็น กปปส. พอประกาศเป็น กปปส. เวลาเคลื่อนไหว เคลื่อนไหวรบร่วมกัน ดาวกระจายกันในนาม กปปส. แต่เนื้อหาเวลาการปฏิรูป ไม่เอาเนื้อหาเรื่องพลังงาน และเรื่องของชาวนา ที่เวทีอื่นๆ เขาช่วยอย่างชัดเจน เอามาอยู่ในเวทีใหญ่ของ กปปส. ตัวเองบอกเองว่า เอาแค่นี้ เอาเฉพาะที่ผมทำอย่างนี้ พอแล้ว
กมลพร - ทำกันไปก่อน เดี๋ยวค่อยมาแก้กันทีหลัง
จิตตนาถ - แล้วก็ไปทำเรื่องที่ ทำให้เป็นเรื่องที่มันจับต้องไม่ได้ เพราะฉะนั้นภาพลักษณ์ตรงนี้ทำให้คนมีคำถาม แล้วก็เบื่อ เบื่อเยอะมาก คนมันก็เลยค่อยๆ น้อยลงๆ อีกอย่างเนื้อหาของ กปปส.ก็ไม่มีอะไรใหม่ คนก็รู้อยู่แล้วว่าคุณสุเทพก็รอมะม่วงหล่น ถ้ารอมะม่วงหล่นก็ให้คุณสุเทพรอมะม่วงหล่นไป
กมลพร - ก็ไม่ต้องใช้คนจำนวนเยอะก็ได้ ถ้าจะรอมะม่วงหล่น
จิตตนาถ - กับสาวกของคุณสุเทพ มันก็เลยทำให้ภาพของ กปปส.มันค่อยๆ น้อยลงๆๆ ต่อมาก็คือ ทำไมภาพของ กปปส.มันถึง คนมันถึงเบื่ออีก ก็คือเรื่องของทหาร อย่างที่ผมบอก เพราะว่าพอมันมีข่าวเรื่องของการแบ่งแยกดินแดน ก็แค่ไปแจ้งความตำรวจ ข่าวของนายตั้ง อาชีวะ โพสต์โชว์เลย ไปเที่ยวภูเก็ต ไปเที่ยวเชียงใหม่ ด่าในหลวง ทหารก็เฉยๆ หรือว่าเรื่องของกองกำลังติดอาวุธต่างๆ นานาที่จับได้ ก็เงียบ เรื่องของการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์
ทั้งนักศึกษารามฯ ทั้งระเบิดที่บิ๊กซี ทุกอย่างก็เงียบ ผบ.หน่วยซีล โดนย้าย กปปส.ก็เงียบ ป๋าเปรมออกมาตำหนิประยุทธ์ ให้อ่านรูปปั้นของ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ว่าทหารเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน กปปส.ก็เงียบ คือกลายเป็นว่าเอาพลังของประชาชน เอาการต่อสู้ของประชาชนไปอยู่ใต้อุ้งตีนถั่งเช่า ขณะที่แกพยายามที่จะเหยียบเรื่องนี้เอาไว้ แต่ปรากฏว่าคนที่ชุมนุมหลายๆ คนที่ไม่ใช่สาวกของแก หรือพรรคประชาธิปัตย์ มา ไม่มีใครพอใจเลย ไปดูคอมเมนต์เรื่องของทหารในเอเอสทีวีต่างๆ นานา จะไม่มีใครพอใจเรื่องพวกนี้เลย
อีกข้อต่อมาที่ผมวิเคราะห์มาแล้ว ก็คือว่า การแก้ปัญหาให้กับชาวนา ก็ไม่ได้เหมือนที่หลวงปู่แก้ หลวงปู่ท่านก็ทำพิมพเขียวให้ ทำโมเดลของโรงสีประชาชนให้ ให้ชาวนาเอาไปจัดการ ให้มีการจัดตั้งกันในแต่ละที่ ซึ่งน่าเสียดาย ถ้าเกิดว่า กปปส.ที่มีมวลชนเยอะ จัดทำโรงสี กปปส.ที่สวนลุมฯ ร่วมกับแจ้งวัฒนะ ให้คนมาซื้อข้าวจากชาวนาได้โดยตรงเลย
กมลพร - กำลังซื้อเขาเยอะ
จิตตนาถ - กำลังซื้อเขาเยอะอยู่ ชาวนานะ เงินจากจำนำข้าวเลิกฝันไปได้เลย เพราะรออีกนาน แต่ข้าวล็อตใหม่เขาใหม่ แทนที่เขาจะต้องไปเข้าโรงสีรัฐบาล เขามาโรงสีนี้เขาได้ตังค์เลย เป็นการปลดแอกเขาได้ทันที ก็ไม่ได้ทำ มันก็เลยทำให้คนเสื้อแดง หรือคนที่เขาเคยหลงคุณทักษิณ แล้วเขาเริ่มตาสว่างไม่ชอบคุณทักษิณ ก็บอกว่าไม่เห็นมีอะไรเนื้อหาใหม่เลย หรือคนที่เขาเก็ตเรื่องการเมือง เขาก็บอกว่า เหมือนเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา หรือรอที่จะสวมตอมากกว่า ฉะนั้นพอภาพลักษณ์มันลง บวกกับเรื่องของ จำได้ไหมครับ มีเรื่องของน้องตั๊นใส่เสื้อ 001 เสียภาษีให้กับพรรคประชาธิปัตย์ แล้วตัวเองก็โพสต์เรื่องนี้ มีคุณเอกนัฏ ที่เป็นโฆษก กปปส.คือถ้าคุณทำส่วนตัว เรื่องของคุณ แต่ตอนนี้คุณเป็นคนของประชาชน คุณบอกแล้วว่าคุณออกมาจากพรรคการเมืองประชาธิปัตย์ คุณอย่ามาทำอะไรแบบนี้ไง พอคนเขาเห็นแบบนี้
กมลพร - เขาก็ต้องตั้งคำถาม
จิตตนาถ - ก็ไม่ได้ออกมาเพื่อพรรคประชาธิปัตย์ไง อย่างนี้นอกจากคนที่เฉยๆกับพรรคประชาธิปัตย์จะมีปัญหาแล้ว มันยังทำให้คนฝั่งตรงข้ามบอกว่านี่ไง คุณบอกว่าไม่ใช่ม็อบการเมือง มันก็ไม่ใช่ไง ภาพของ กปปส.มันก็ถึงค่อยๆ ดูแย่ๆ ซึ่งมันก็ไม่ได้มาจากใคร ไม่ได้มาจากเอเอสทีวีไปว่า แต่มันมาจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
สิ่งที่ผมพูดผมพยายามจะตักเตือนและให้เขาปรับปรุงเรื่องพวกนี้ แต่พอภาพลักษณ์มันเกิดอย่างนี้ มันก็ต้องมีการสร้างภาพลักษณ์กันใหญ่ ก็เลยต้องจัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 29 โดยมีวาทกรรมที่ล้างตัวเอง แล้วโจมตีเราอยู่ 2-3 วาทกรรม วาทกรรมแรกคือ คนที่ไม่สู้ก็ให้อยู่เฉยๆ คำถามคือ ว่ามีใครไม่สู้ เอเอสทีวีถ่ายทอดให้กับ คปท. ผมถามว่า คปท.ก็เป็นหน่วยหนึ่งของ กปปส.ไม่ใช่หรือ หรือหลวงปู่ ตั้งนานไม่มีใครถ่ายทอดให้ท่าน เราก็เอาหลวงปู่เทศน์ทุกวันมาออกให้ หลวงปู่ยิ่งกว่า คปท.อีก เพราะหลวงปู่เป็นเซ็ทที่แตกย่อยมาจากคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ โดยตรงเลย มาคุมส่วนราชการโดยตรง แล้วเราก็เคยบอกแล้วว่า เน็ตเวิร์กเอเอสทีวีตอนนี้ เนื่องจากเราไม่มีเงิน ช่องอื่นๆ เราเจ๊งหมดแล้ว เรามีแค่เอเอสทีวีอยู่ช่องเดียว เราถ่าย คปท. เราช่วยให้เน็ตเวิร์กของคุณมาถ่ายหลวงปู่หน่อยเถอะ คุณมีทั้งทีนิวส์ มีทั้งอะไรเยอะแยะเลย แบ่งมาช่องหนึ่งได้ไหม ก็ไม่เอาอีก มาว่าเราอีก มันก็เลยเป็นอย่างนี้
กมลพร - มันก็เลยเกิดการคู่ขนานกันหรือเปล่าคะคุณปั๊บ ที่มีกรณีเซ็ทภาพลักษณ์ตัวเองใหม่ และมีความพยายามในการที่จะดิสเครดิตเอเอสทีวีอย่างต่อเนื่อง
จิตตนาถ - ถูกต้อง คือมาหาว่าเราไม่สู้ไง แต่ว่าในที่สุด คปท. คือ คปท.เราก็ถ่ายให้ หลวงปู่เราก็เอาเทปมาออก และเราประกาศสลายพันธมิตรฯ พันธมิตรฯ จะได้ไปร่วมประชุมกับคุณ ตอนนี้พันธมิตรฯ ไปเยอะที่ คปท. และแจ้งวัฒนะ โดยการสนับสนุนของเรา แล้วใครบอกว่าเราไม่สู้ ใครไม่สู้ก็อยู่เฉยๆ ผมว่าคนที่ไม่สู้จริงๆ แกล้งสู้เดินวนไปวนมา
นี่แหละควรจะอยู่เฉยๆ และควรที่จะทำให้คนที่เขาสู้ด้วยเนื้อหา สู้ด้วยความแหลมคมนำ เพราะรู้สึกว่าแกน่าจะโกรธมากในสิ่งที่ผมบอกว่า ผมยกตัวอย่าง คุณสุเทพเป็นคนรุ่นพ่อผมนะ ผมไม่เคยที่จะไม่ให้เกียรติคุณสุเทพ ผมนี่เคยยกตัวอย่างคุณสนธิมา ผมบอกว่า คุณสนธิรู้ตัวว่า 1.ติดเรื่องคดีความ โดนคำสั่งศาล 2.คุณสนธิรู้เลยว่า คุณสนธิไปขัดผลประโยชน์คนเยอะ พรรคประชาธิปัตย์ อันโน้นอันนี้ ทำให้คนตั้งแง่คุณสนธิ คุณสนธิโอเคถ้าผมเป็นจุดที่ทำให้คนติดขัด อย่างนั้นผมให้คุณสุเทพนำเลย และผมก็บอกว่า พันธมิตรฯ สลายแล้วนะ คุณไม่ต้องมายึดติดกับผม คุณไปช่วยเขาเลย นี่คือคุณสนธิใจนักเลง สลาย
คุณสุเทพเป็นคนรุ่นพ่อผม รุ่นเดียวกับคุณสนธิ ผมก็บอกว่า ถ้าคุณสุเทพมีคนที่ติดขัดคุณสุเทพอยู่ในเรื่องของ พลังงาน ในเรื่องของต่างๆ นาๆ นี่ผมยกตัวอย่างมา ทำไมคุณสุเทพไม่หนุนให้หลวงปู่นำ ผมไม่ได้บอกว่า ให้คุณสุเทพ retire ตัวเอง ไม่ใช่ ผมบอกว่าให้คุณสุเทพให้หลวงปู่นำ และให้คุณสุเทพอยู่กับหลวงปู่ ออกจากสวนลุมฯ แล้วไปที่แจ้งวัฒนะ ที่ศูนย์ราชการทำให้ม็อบหลวงปู่ และคุณสุเทพหลอมรวมกันแล้วก็ใหญ่ขึ้น ก็กลายเป็นว่ามาโกรธผมเรื่องนี้ อันนี้ก็เป็นวาทกรรมที่ 1.ที่บอกว่าไม่สู้ก็อยู่เฉยๆ กับวาทกรรมอันที่ 2. คือ บอกว่าประกาศจะมีการเตะหมา
กมลพร - ได้ยิน ใครด่า กปปส.
จิตตนาถ - หรือทำลายภาพลักษณ์ กปปส.ระวังจะเจออะไร
กมลพร - ระวังจะเจอบางอย่างจะโดนจัดการ
จิตตนาถ - และระวังที่จะไม่มีแผ่นดินอยู่ อันนี้ภาพลักษณ์ กปปส.ที่มันเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำลายภาพลักษณ์ กปปส.ไม่รู้คุณปิยสวัสดิ์หรือเปล่า หรือว่าน้องตั๊นไปเผลอทำลาย หรือว่าคุณเอกนัฏไปเผลอทำลาย โดยที่ไม่มีความตั้งใจหรือเปล่า หรือแม้แต่คุณสุเทพเองที่ไปเผลอทำลายภาพลักษณ์ตัวเอง ใช่ไหมครับ ซึ่งวันนี้ผมเสียใจที่ผมได้ยินคำอะไรแบบนี้มาถึงเขาจะไม่พูดก็ตามแต่เจาะจงมาก็ตามแต่ แต่ผมก็คิดว่าคนเราพูดอะไรมันรู้อยู่แก่ใจ เอาเป็นว่าวันนี้นอกจากเรื่องนี้แล้วมันมีความพยายามจากคนบางกลุ่มที่พยายามจะดิสเครดิต เอเอสทีวี โดยเต้าข้าวมาใส่ร้ายคุณสนธิ
กมลพร - ค่ะ อันนี้ถือว่าเท็จอย่างแท้จริง
จิตตนาถ - เป็นข่าวเท็จอย่างแท้จริง และเป็นข่าวนี้หรือเปล่าที่คุณสุเทพถึงประกาศว่า ใครไม่สู้ให้อยู่เฉยๆ หรืออยากที่จะเตะหมา โดยหาว่าเราเป็นหมาลอบกัด
กมลพร - ค่ะ มันออกมารค่ำคืนวันที่ 28 มีนาคม ก่อนการเคลื่อนไหววันที่ 29 มีนาคม
จิตตนาถ - ใช่
กมลพร - ศุกร์ที่ 28 มีนาคม 21.26 น. เว็บไซต์ไอเอ็นเอ็นโพสต์ข่าวพาดหัวว่าสนธิมอง กปปส.เคลื่อนฉากสุดท้ายพร้อมรบนะคะ เนื้อหาใจความข่าวสรุปได้ว่านายสธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มองการชุมนุมเดินขบวนในวันที่ 29 มีนาคม ของ กปปส.เป็นฉากสุดท้ายทั้งของทั้งสองฝ่าย รัฐบาล และ กปปส.เองด้วย กปปส.ได้เกณฑ์คนภาคใต้ขึ้นมาช่วยคนกรุงเทพฯ คัดค้านการเลือกตั้ง เพื่อล้มรัฐบาลนั้น เป็นแค่ละครหนังที่แท้จริง ก็ใช้องค์กรอิสระตระเตรียมการไว้ รับลูกช่วงกันไว้ล่วงหน้าแล้ว คือ ปฏิวัติโดยสารและคงจะนำความน่าเกลียดมาเหมือนเดิม
จิตตนาถ - ใครไปพูดแบบนี้
กมลพร - ไม่มีทางเลยนะคะ เพื่อให้รัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์ ปิดฉากกลับบ้าน เกมของ กปปส.ก็ยังเดินเกมเส้นทางเดิมคือ จะให้ปฏิรูปการเมืองเป็นแค่วาทกรรมลวงเฉยๆ เพื่อดึงเวลาขอให้ได้หาโอกาสปฏิวัติโดยใช้กำลังทหาร และฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ออกคำสั่งคณะปฏิวัติยกเลิก และให้อภัยโทษกับพวกตน คือคนประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ทำผิดคดีทางการเมือง ซึ่งข้อความในลักษณะนี้ ตามที่ อ.ปานเทพ ชี้แจงนะคะ คุณสนธิ ไม่เคยให้สัมภาษณ์เลย
จิตตนาถ - ไม่เคยเลย แล้วยังบอกต่อนะว่า ผลพลอยได้ของผู้สนับสนุน นายทุนก็จะได้โครงการพัฒนาต่างๆ และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเกมนี้ได้บล็อกไว้โดย นายสุเทพได้จัดแบ่งไว้ให้กลุ่มทุนเหล่านี้ไว้หมดแล้ว นายสนธิ กล่าวว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะลงเลือกตั้งตอนนี้เป็นไปไม่เลย และตนนี่แหล่ะจะเป็นคนบอกเองกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า ภายใน 20 ปีนี้พรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีทางชนะพรรคเพื่อไทยได้เลย จะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ไร้ผลชนะ เพราะมีแต่รอให้ตัวช่วย ช่วยมาหักดิบพรรคอื่น แล้วมาเป็นรัฐบาลทางลัด ประชาชนจะไม่ยอมพรรคประชาธิปัตย์ตลอดไป
กมลพร - นี่ยังกับเสียงแกนนำเสื้อแดง นปช.บนเวที
จิตตนาถ - แล้วความจริงคืออะไรครับ ความจริงคือคุณสนธิ ไม่เคยที่จะพูดเรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียว นับแต่ไทยพีบีเอส คือคุณภิญโญมาสัมภาษณ์คุณสนธิตอนนั้น คุณสนธิก็ไม่เคย Exclusive สัมภาษณ์กับใครเลย ที่เหลือน่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์เวลาที่ไปศาลเท่านั้นเอง ไม่เคยมีเรื่องอะไรเหล่านี้เลย แต่จุดตรงนี้กลับโดนเอาไปสร้างความเข้าใจผิด แล้วเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดความเกลียดชังเอเอสทีวี ในขณะเดียวกันก็มีพวกโลกไซเบอร์พยายามจะบอกว่า สนธิไม่พูด แต่จิตตนาถพูดประจำแนวแบบนี้
กมลพร - เสียงเดียวกัน
จิตตนาถ - เสียงเดียวกันจิตตนาถพูดเนื้อหาแบบนี้ ผมก็จะบอกเลยนะครับว่า ผมไม่เคยพูดเนื้อหาลักษณะแบบนี้ สิ่งที่ผมพูดคืออะไร ถ้าผมจะพูดเรื่องของการปฏิวัติ ผมจะพูดเสมอว่า ผมเชื่อในการปฏิวัติโดยประชาชน โดยที่ทหารเข้าร่วมกับประชาชนในการปฏิรูปประเทศ ใช่ไหมครับ แค่บอกว่าเห็นด้วยกับประชาชนก็เท่ากับการปฏิวัติประชาชนแล้ว และให้มีการถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณ ใช่ไหมครับ
แต่ถ้าเกิดว่า ทหารจะปฏิวัติให้ดูที่เหตุผลที่ทหารจะปฏิวัติ ถ้าทหารจะปฏิวัติคือ ตอนนี้จุดของผมที่พูดมาตลอดคือว่า มันเลยจุดที่ทหารจะมาปฏิวัติ เพื่อเข้าร่วมกับประชาชน แต่เป็นจุดที่ทหารจะต้องปฏิวัติเพื่อถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณ เพราะมีแนวคิดในการแบ่งแยกประเทศ มันชัดเจน แนวคิดในการจาบจ้วงในหลวง ชัดเจน ประชาชนผู้บริสุทธิ์โดนเข่นฆ่าชัดเจน ความผิดคอร์รัปชันเบ็ดเสร็จทหารต้องออกมาปฏิวัติ เพื่อถอนรากถอนโคนในลักษณะนี้ต่างหาก นี่คือความเห็นของผม แต่ถ้าเป็นการปฏิวัติ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยที่จะเกิดมวลชนปะทะกันระหว่าง กปปส.กับแดง อันนั้นเท่ากับเป็นการล้างไพ่ให้แม้ว ใช่ไหมครับ นี่ต่างหากคือสิ่งที่ผมพูด
กมลพร - มีคนเคยพยายามจะล็อบบี้ให้คุณจิตตนาถ ไม่พูดเรื่องพวกนี้
จิตตนาถ - ใช่ครับ มีอีกอันหนึ่งที่ผมกำลังจะบอกว่า มีมาตลอดคือว่า จากคนที่รู้จักอย่างโน้นอย่างนี้ ฉะนั้นจะขอกันมาเลยบอกว่า ซึ่งหลายคนมีความสัมพันธ์กับแกนนำ กปปส. มีอะไรคือ เขาใช้ทุกทางนั่นแหละเขาบอกว่า อย่าวิพากษ์วิจารณ์ หรือพูดในเชิงที่ไม่ให้เกียรติกับ กปปส. ซึ่งที่แท้จริงก็คือ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ไหม เขาบอกว่าเรื่องพวกนี้ถ้าผมยังทำแบบนี้ มันจะเป็นผลลบกับเอเอสทีวี ใช่ไหมครับ ซึ่งผมก็ได้เรียนกลับผู้ใหญ่หลายคนด้วยความเคารพว่า ผมน้อมรับนะครับ แต่ว่าผมมีจุดยืนของผม เอเอสทีวีมีจุดยืนของเอเอสทีวีคือว่า ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก และเราก็จะไม่ให้ใครมาหมกเม็ด หรือมาสวมตอกับการต่อสู้ของภาคประชาชน ไอ้เรื่องพวกนี้ หลายคนบอกว่า เนี่ย สิ่งที่สนธิทำมา จิตตนาถทำพังหมดเลย
แต่สิ่งที่ผมทำ ผมทำจากเจตนารมณ์ของเอเอสทีวี ผมก็จึง เพื่อความกระจ่างแจ้ง ตัวผมเองก็ได้คุยกับคุณสนธิ ผมถามว่า สิ่งที่ผมทำ ผิดมั้ย ผมถามคุณสนธิโดยตรง คุณสนธิบอกว่า สิ่งที่ผมทำ นี่คือเจตนารมณ์ที่เราตั้งเอเอสทีวีขึ้นมา และก็ขอให้เรายืนหยัดในการทำหน้าที่ตรงนี้ต่อไป แต่ให้ระวัง ให้คนที่โดนเราวิพากษ์วิจารณ์ถึง บางคนเขาอาจจะไม่ได้มองว่าเป็นการติเพื่อก่อ หรือว่าเป็นการกระตุ้นให้ทำหน้าที่ บางคนอาจจะมีความเจ้าคิดเจ้าแค้น และมันก็อาจจะกลายเป็นบูมเมอแรงที่มันทำให้เกิดความพยายามที่จะดิสเครดิตเอเอสทีวีแบบนี้ขึ้นมา
ฉะนั้นในแฟนของคุณสุเทพ เวลาผมพูดถึงคุณสุเทพ ผมบอกแล้ว ว่าคุณสุเทพเป็นคนรุ่นพ่อ ผมเทียบเรื่องคุณสนธิว่า คุณสนธิเว้นวรรค เพราะคุณสุเทพทำแบบคุณสนธิได้ ช่วย ไม่ต้องเว้นวรรค แต่มาช่วยกัน ให้ความสำคัญหลวงปู่ ให้หลวงปู่นำให้แหลมคม นี่คือผมให้เกียรติคุณสุเทพ หรือ กปปส.มีจุดอ่อนเรื่องอะไรบ้าง ที่ผมพูด มีจุดอ่อนเรื่องปฏิรูปพลังงาน มีจุดอ่อนเรื่องชาวนา จะดึงฝั่งตรงข้ามมาได้ยังไง หรือว่าภาพไม่เหมาะ ภาพบางคนยังไปเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองยังไง ผมบอกว่า ให้คุณสุเทพปฏิรูปตรงนี้ และต้องปฏิรูปจากตัวคุณสุเทพก่อน ผมพูด ผมพูดในฐานะกัลยาณมิตร ผมพูดด้วยใจ กลายเป็นว่า ... หรือ อ.ปานเทพ พูดเรื่องพลังงาน หลายคนพูดเรื่องพลังงาน กลายเป็นว่าเอเอสทีวีเป็นหมา เป็นหมาลอบกัด ทีนี้ เอเอสทีวีถ้าจะเป็นหมา เรายอมเป็นหมานะ แต่เราคือหมาเฝ้าบ้าน บ้านของเราคืออะไร บ้านของเราก็คือผลประโยชน์ของประชาชน
ฉะนั้นขโมยหรือว่าโจรห้าร้อยจะมาจากนอกบ้าน เราก็กัด หรือว่ายามที่เฝ้าบ้านมันสมรู้ร่วมคิดกับขโมย มันเปิดทางให้ขโมย หรือมันทำไม่รู้ไม่เห็น ก็กัดยามด้วย ยามสีเขียวๆ น่ะ หรือว่ามีคนใหม่เข้ามาอาศัยในภาคประชาชน ตอนนี้กำลังป๊อปปูล่าอยู่ ไม่ว่าเจ้าของบ้านจะชอบแค่ไหน แต่ถ้าคิดจะมุบมิบผลประโยชน์ของเจ้าของบ้าน ก็คือประชาชน เราก็ต้องกัด และเราก็ต้องเห่าให้กับสังคมรู้ เพราะจริงๆ แล้วเอเอสทีวีเราเริ่มอยู่กับสังคมไทยมาตั้งแต่ทักษิณยังไม่เรืองอำนาจ บลูสกายมาตั้งตอนพรรคประชาธิปัตย์ เอเอสทีวีเริ่มมาตั้งแต่เรายังหัวเดียวกระเทียมลีบ จากเมืองไทยรายสัปดาห์ เจอคุกคามทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และสวัสดิภาพ ไม่เห็นที่จะเห็นแก่ตัว แนวคิดเอเอสทีวี และตกผลึกมาจากพันธมิตรฯ เป็นกระบอกเสียงให้กับพันธมิตรฯ เอเอสทีวีไม่เคยที่จะหวงก้างอะไรเลย ในเรื่องของการปฏิรูป
เอเอสทีวีพูดมาตลอด ทั้งพันธมิตรฯ และจากนักวิชาการ สุเทพ เทือกสุบรรณ อยากจะเอาไป กปปส.อยากจะเอาไปขยายผลแล้วได้ประโยชน์ คุณเอาไปเลย คุณเอาไป คุณยังไม่เคยให้เครดิตเราเลยแม้แต่นิดเดียว เราก็ไม่สนใจ ไม่ได้ทวงบุญคุณ ไม่ได้อะไรด้วย แต่เราขออย่างเดียว เอาไปแล้วอย่าไปหมกเม็ด ก็กลายเป็นว่าตอนนี้เอเอสทีวีกลายเป็นไปเตะตัดขา ทั้งๆ ที่ตัวเองไปเตะตัดขาประชาชนเสียเอง ฉะนั้นเอเอสทีวีเป็นหมาเฝ้าบ้าน แต่คนที่กำลังใช้พลังของประชาชนอยู่ ผมถือว่าคนพวกนี้เป็นหมาจิ้งจอก หมาจิ้งจอกมันเจ้าเล่ห์ และผมว่าคนบางประเภทใช้ไม่ได้ ก็คือว่า อ้างว่าเอาการต่อสู้กับระบอบทักษิณเป็นตัวประกัน ว่าใครจะมาแฉ จะวิพากษ์วิจารณ์ตน ไม่ได้ อย่างนั้น เท่ากับว่ารับงานทักษิณมา นี่บ้าหรือเปล่า
กมลพร - ผลักให้อยู่ฝ่ายตรงข้ามเลย พวกทักษิณ
จิตตนาถ - ทีอย่างนี้คุณมาผลักให้เขาอยู่ฝั่งตรงข้าม เราก็จะเห็นว่า พวกหมาจิ้งจอก นอกจากจะชอบแอบขโมยแล้ว ยังลอบกัดเจ้าของบ้านและหมาเฝ้าบ้านอยู่บ่อยๆ ฉะนั้นมันจึงมีขบวนการเรียกภาพลักษณ์ตัวเองกลับมาคือว่าจะต้องดิสเครดิตเอเอสทีวี โดยใช้วันที่ 29 ขึ้นมาให้เห็นว่า ฉันนี่ไงเป็นคนที่สู้ให้กับประเทศ แล้วคนอื่นเขาไม่สู้ให้กับประเทศหรือไง ผมก็อยากจะพูดนิดหนึ่งว่าสันดานนักการเมือง จำได้ไหมครับ เวลาก่อนเลือกตั้ง คุณเก๋ก็จะเห็น ยกมือไหว้หมด
กมลพร - หมาแมวมันไหว้หมด
จิตตนาถ - เวลาที่มันใหญ่โต จะอวดดีไม่เห็นหัวคนอื่นหรอก เล่นการเมืองก็จะหมกเม็ดและทำลายคนที่ตรวจสอบอยู่ ไอ้สันดานนักการเมืองมันจะแก้ยาก แล้วมันจะติดตัวมา ถึงแม้จะไม่ได้เป็นนักการเมืองแล้ว มันก็ไม่หาย เวลาสู้ขอให้ทุกคนร่วมสู้ แต่เวลาหมกเม็ดก็จะบอกว่าเอาแต่เฉพาะของผมแบบนี้แหล่ะ ถ้ามิตรร่วมรบคุณยังไม่เห็นหัว คำสัญญามันจะไปหวังผลได้ยังไง จำได้ไหมครับ สมัยก่อน ตอนที่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ตั้งเวทีที่สามเสน คุณสุเทพ น่ารักมากเลย เราก็ถ่ายทอดให้ คุณสุเทพ บอกว่าขออภัยนะ ผมเป็นมือใหม่ มีความอะไรที่ไม่ถูกไม่ต้องผมน้อมรับฟังเพื่อที่จะปรับปรุง แล้วตอนนี้เป็นอย่างไร คนที่ไม่สู้ ก็ขอให้อยู่เฉยๆ หรือว่าอยากที่จะเตะหมา หรือรับงานทักษิณมาทำแบบนี้ หรือเอเอสทีวีที่มองแล้วว่าเนื้อหาของการเอาชนะทักษิณ คุณต้องทำ 2 เรื่อง คือเรื่องพลังงาน และก็เรื่องทหารที่รับรองอยู่ ก็คือพวกถังเช่า ฉะนั้นพวกพลังงาน พวกคนที่ตัวเองจะเอาไว้สวมตอมันโดนโปงขึ้นมา ส่วนเรื่องของทหารก็ไปขอบคุณพวกถังเช่าเอาพฤติกรรมที่เอามือปิดแผ่นฟ้าไว้ เวลาที่ป๋าเปรมพูดไม่เห็นใครมาพูดต่อเลย ใช่ไหมครับ เงียบกันเป็นแถว แต่ผมเองก็เข้าใจอารมณ์คนนะ คืออารมณ์คนตอนนี้มันเหมือนคนจมน้ำ เวลาเจอขอนไม้มันต้องคว้าไว้ก่อน จมน้ำคืออะไร น้ำคือระบอบทักษิณ มันหายใจไม่ออกแล้ว ฉันเจอขอนไม้ขอคว้าไว้ก่อน อันนี้เป็นขอนไม้ที่ใหญ่ที่แข็งแรงที่บรรจุคนได้เยอะ ขอนไม้มันใหญ่มาก เอาเป็นแค่ไม่ผมพอใจแค่นี้แล้ว ใช่ไหมครับ อย่างน้อยไม่จมอยู่ในระบอบทักษิณผมโอเคแล้ว
กมลพร - แม้มันจะโผล่มาแค่นี้ก็ตามที
จิตตนาถ - มันโผล่มาแค่นี้แต่มันใหญ่ บรรจุคนได้เยอะมันมั่นคง แต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พอขอนไม้มันใหญ่มันบังฝั่งเอาไว้ประชาชนก็เกาะขอนไม้ไปแล้วแต่ว่าขอนไม้มันจะพัดพาไปไหนๆ
กมลพร - แม้ว่าฝั่งจะอยู่แค่นี้
จิตตนาถ - ขอแค่ไม่จมพอแล้ว แต่ว่ามันมองไม่เห็นฝั่งมันบังไง เอเอสทีวีมีหน้าที่คือทำให้คนเห็นว่าฝั่งมันอยู่แค่นี้เอง ถ้าขอนไม้ที่คุณเกาะคุณช่วยกันกระทุ่มน้ำผลักดันขอนไม้ไปเหมือนสมัยที่เคลื่อนไหวเรื่องนิรโทษฯ นิรโทษฯ จบหายไปแล้วพอหรือยัง ยังเราต้องการปฏิรูปการเมืองต่อเราไม่จบแค่นี้เราต้องไล่รัฐบาลออกไป นั้นคือการกระทุ่มน้ำเข้าไปใกล้ฝั่ง แต่ตอนนี้พอกระทุ่มน้ำเข้าไปขอนไม้มันใหญ่แล้วก็ไม่กระทุ่มน้ำต่อ อารมณ์ของคนมันก็เป็นแบบนี้เอง ใช่ไหมครับ คราวนี้เอาเป็นว่าวันที่ 29 ที่ผ่านมา และการขึ้นเว็บต่อๆ ไป ใครอยากที่จะออกก็โอเค เป็นการแสดงพลังดี แต่ตัวผมมีคำตอบอยู่ในใจแล้วว่า การที่ผมเรียกร้องให้วัดใจใครเรื่องอะไร ใช่ไหมครับ ใครจะไปก็เป็นสิทธิของทุกคน ใช่ไหมครับ และอีกอย่างหนึ่งการเปรียบเทียบกันในเรื่องของการต่อสู้ หรือว่าการไม่สนใจในเรื่องของชื่อเสียงต่างๆ นาๆ นะครับ รู้ไหมครับว่า อย่างคุณสุเทพ คุณเจ๊ปองของพวกเราที่เคยรู้จักกัน ขึ้นหนังสือลิปส์อะไรกันสนุกสนานกันใหญ่เลย
กมลพร - ขึ้นแม็กกาซีนกัน
จิตตนาถ - โอเค สมัยก่อนเคยมีคนมาติดต่อให้ผมกับคุณสนธิ ขึ้นปกหนังสือด้วยกัน เป็นหนังสือที่โอเคเลยแหละ เล่มหนึ่งเลยแหละ ผมก็ถามคุณสนธิว่า ดีไหมมันจะได้ทำแนวคิดของเราให้มันแมซออกไป ประชาชนทุกภาคส่วนที่เขาไม่เคยเข้าใจเรา เขาไม่เคยเห็นสิ่งที่เราต่อสู้เขาจะได้อ่าน คุณสนธิบอกว่า อย่าขึ้นเลย เราไม่ควรขึ้นปก จะไปเป็นหนังสือไฮโซ หนังสือแฟชั่นที่ไหนให้คนดูผลงานการต่อสู้ของเราดีกว่า อย่าให้ฝั่งตรงข้ามเขาหมั่นไส้เราเลย การที่ขึ้นหนังสือลิปส์ ในแง่ดีมันก็ดีเป็นความภาคภูมิใจ มันก็เป็นสิทธิที่ใครจะขึ้นได้ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นผลลบให้คนที่เขารู้สึกว่า เขาอยู่คนละฝั่งของคุณ เขาก็มองว่า
กมลพร - นี่หรือคือการต่อสู้
จิตตนาถ - นี่หรือคือการต่อสู้ หรือมันแบ่งแยกคลาสไง นี่คือพวกคุณเป็นแบบนี้กัน นี่แหละคือสิ่งที่คุณสนธิสอนผมนะครับ เพราะฉะนั้นฝากไว้ในเรื่องนี้แหละว่า มันมีขบวนการที่จะดิสเครดิตเอเอสทีวีอยู่ และมีการล็อบบี้อย่างนี้ และวันนี้ผมก็มาชี้แจงจุดยืนของเอเอสทีวี คำตอบจากคุณสนธิเรื่องของการให้สัมภาษณ์ ผมมาตอกย้ำอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ให้สบายใจได้ว่า สิ่งที่เราสู้อยู่ เป็นอุดมการณ์ คุณสนธิมีอุดมการณ์อยู่ ผมก็มีอุดมการณ์ คุณเก๋ก็มีอุดมการณ์ พนักงานเอเอสทีวีทุกคนมีอุดมการณ์ และก็ยังยืนอยู่จุดเดิมอยู่ วันนี้การโฟกัสอาจจะอยู่ที่อื่น แต่เราก็ยังพูดอยู่เรื่องเดิม อยู่ที่จุดเดิม
ฉะนั้นใครอยากเตะหมา อยากเตะก็เตะไป เอาเป็นว่า เราเป็นหมาเฝ้าบ้าน เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน และเราก็จะเป็นหมาที่เฝ้าบ้าน เป็น watch dog เป็นหน้าที่ของสื่อมวลชนต่อไป แล้วก็ผมคิดว่า ในขณะเดียวกัน นอกจากเป็นหมา เราเป็นควาญช้างด้วยนะคุณเก๋ เพราะอะไร ช้างมันใหญ่ มัน massive มาก มันเดินตุ้มๆๆ ช้างมันเดินไปไหน โอ้โห แหลกราญไปหมด พลังมันใหญ่ แต่ถ้าเกิดว่าในหัวสมองช้าง คนนำข้างมันเริ่มเกเร มันเริ่มไปกินกล้วยชาวบ้าน เรานี่ล่ะคือควาญช้างที่สับช้าง
กมลพร - เอาขอจิกลงไปบ้าง
จิตตนาถ - จิกลงไปให้มันเดินไป มันก็คงจะไม่พอใจ มันก็ร้องแปร๋นๆ เป็นการด่าเรานี่ล่ะ ก็ประมาณนี้
กมลพร - เห็นภาพนะคะ และก็ค่อนข้างจะชัดเจนในทุกประเด็น โดยเฉพาะกรณีของเอเอสทีวี และจุดยืนของคุณจิตตนาถ เอเอสทีวี และคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ส่วนช้างจะมาร้องแปร๋นๆ ต่อวันไหน เดี๋ยวค่อยมาชี้แจงกันอีกที วันนี้ขอบคุณคุณจิตตนาถมากค่ะ สวัสดีค่ะ นี่คือบทวิเคราะห์สถานการณ์การชุมนุมในช่วงนี้ วันนี้ เราจะไปติดตามเกาะติดสถานการณ์การชุมนุมกันต่อค่ะ
