ศอ.รส.ได้ทียกการจับสมุน กวป.พร้อมอาวุธสงคราม หลังยิงเอ็ม 79 ถล่ม ป.ป.ช. พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่เลือกปฏิบัติ ใช้ตำรวจเท่าที่จำเป็นรับมือการชุมนุมใหญ่ 29 มี.ค.
พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล คณะทำงาน ศอ.รส. แถลงผลการประชุม ศอ.รส.ว่า ศอ.รส.ร่วมกับส่วนราชการในการดำเนินการตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญาอย่างจริงจังกับกลุ่มต่างๆ ที่ได้นำมวลชนไปปิดล้อมสถานที่ราชการหรือหน่วยงานของรัฐต่างๆ ขอเรียนว่าขณะนี้การดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก โดยมีการดำเนินคดีต่อแกนนำกลุ่มต่างๆ ที่นำมวลชนไปปิดล้อม ปิดกั้น และคุกคามการทำงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 35 คดี โดยแยกเป็นคดีของ กปปส. จำนวน 32 คดี เป็นคดีของกลุ่ม กวป.ที่ได้ไปปิดล้อมบริเวณสำนักงาน ป.ป.ช.จำนวน 3 คดี ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่าจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในความผิดฐานบุกรุกปิดล้อมสถานที่ราชการและหน่วยงานของรัฐต่างๆ โดยไม่มีการละเว้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม กปปส.กลุ่ม นปช. หรือกลุ่มอื่นใด
พ.ต.ท.หญิง อัญชุลีกล่าวว่า ศอ.รส.มิใช่คู่ขัดแย้งของกลุ่มกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด และโดยเฉพาะเมื่อแกนนำหรือการ์ดของกลุ่มใดกระทำผิด ศอ.รส.จะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และพลเรือนเข้าดำเนินการระงับยับยั้งเหตุร้ายแรงและจับกุมหรือดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยไม่มีการละเว้นหรือเลือกข้าง ดังเหตุการณ์คนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าไปที่สำนักงาน ป.ป.ช.เมื่อคืนวันที่ 27 มี.ค. และการเข้าจับกุมบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุร้าย จำนวน 3 คน พร้อมของกลาง ซึ่ง ศอ.รส.ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาดังกล่าวอย่างรัดกุม รวดเร็ว และเป็นธรรมอย่างที่สุด
พ.ต.ท.หญิง อัญชุลีกล่าวด้วยว่า ได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถึงการดำเนินคดีพิเศษต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส.รวม 58 คนที่ถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันเป็นกบฏ ร่วมกันยุยงให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ขัดขวางการเลือกตั้ง และความผิดฐานอื่นๆ แล้ว คณะพนักงานสอบสวนอัน ประกอบด้วย พนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษของดีเอสไอ และพนักงานอัยการของสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องนำการกระทำความผิดฐานอื่น เช่น การบุกรุกสถานที่ราชการหรือที่เป็นการกระทำความผิดหลายเรื่องต่อเนื่องหรือเกี่ยวพันกันกับการกระทำความผิดเดิมที่เป็นคดีพิเศษแล้วเพื่อดำเนินคดีเป็นคดีพิเศษเพิ่มอีกด้วย
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ คณะทำงาน ศอ.รส.กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม กปปส.ในวันที่ 29 มี.ค.นี้ว่า ที่ประชุม ศอ.รส.ได้ประเมินสถานการณ์การชุมนุมดังกล่าว จึงสั่งการให้มีการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ผู้ชุมนุม และผู้ที่ไม่ได้ร่วมชุมนุม เนื่องจากเกรงว่าจะมีมือที่ 3 เข้ามาสร้างความวุ่นวาย
ขณะเดียวกัน ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร เพราะวันที่ 29 มี.ค.มีความสุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะกันกับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ส่วนการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการประเมินสถานการณ์การชุมนุม และจำนวนผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่องว่ามีมากน้อยอย่างไร ซึ่ง สตช.มอบหมายให้ตำรวจแต่ละพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจะเพิ่มกำลังเท่าที่จำเป็นเท่านั้น