ศอ.รส.รวมทุกคดีของ กปปส.เป็นคดีพิเศษ เรียกปลัดฯ หารือฟันบุกรุกสถานที่ราชการ

ศอ.รส.จัดหนัก รวมทุกคดี กปปส.เป็นคดีพิเศษ ขณะที่ “เฉลิม” เรียกปลัดกระทรวงต่างๆ ประชุมหารือแนวทางเพื่อดำเนินคดี กปปส.บุกรุกสถานที่ผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้อง

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงผลการประชุม ศอ.รส.ว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่าคดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งอันเกิดจากการกระทำของแกนนำ กปปส.กับพวก เมื่อครั้งการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีดังนี้

คดี กปปส.ขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 194 คดี แยกเป็นคดีที่เกิดใน กทม.จำนวน 51 คดี และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด จำนวน 143 คดี คดีเจ้าหน้าที่ กกต.จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น 178 คดี แยกเป็นคดีที่เกิดใน กทม.จำนวน 66 คดี และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด จำนวน 112 คดี รวมคดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งทั้งสิ้น 372 คดี โดยศาลได้ออกหมายจับให้ รวมทั้งสิ้น 201 คน ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว 205 คน ทั้งนี้ เฉพาะเจ้าหน้าที่ กกต.จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง 1,713 คน ทาง ศอ.รส.จะติดตามและกำชับการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปโดยเคร่งครัด และป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำอีกในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้

นายธาริตกล่าวว่า ศอ.รส.ได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนในคดีพิเศษ ซึ่งรับผิดชอบดำเนินคดี่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส. รวมทั้งสิ้น 58 คน ว่าจะได้นำเอาการกระทำความผิดฐานขัดขวางการเลือกตั้งเข้ามารวมกับความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ฐานร่วมกันยุยงให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย และฐานร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามที่ได้มีมติกำหนดไว้ เพราะถือว่าความผิดฐานขัดขวางการเลือกตั้งเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับคดีพิเศษดังกล่าว

นายธาริตกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 25 มี.ค. ศอ.รส.จะประชุมฝ่ายความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะว่าสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองจะวุ่นวายหรือไม่ รวมถึงวันเดียวกันเวลา 14.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการ ศอ.รส.จะเรียกปลัดทุกกระทรวงมาประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางร่วมกันในการดำเนินคดีต่อแกนนำ กปปส. ที่บุกรุกหรือทำให้เสียหายกับสถานที่ราชการ โดยเฉพาะพฤติกรรมการคุกคามให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ออกจากสถานที่ทำงาน รวมถึงความคืบหน้าในการฟ้องร้องดำเนินคดี 4 ฐานความผิด ได้แก่ ความผิดฐานบุกรุก ความผิดต่อเสรีภาพฐานข่มขืนใจผู้อื่น ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ และความผิดตามประกาศ ศอ.รส.ด้วย