xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” สอดรับ “บิ๊กตู่” วอนทุกฝ่ายหยุดเสียโอกาส กลับสู่ระบบเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ภาพจากแฟ้ม)
“ยิ่งลักษณ์” โพสต์เฟซบุ๊กสอดรับหลัง “บิ๊กตู่” วอนคู่ขัดแย้งเสียสละไม่กี่ชั่วโมง ฉวยโอกาสช่วงที่ทูตอินเดียคนใหม่เข้าพบ บอกไทยเสียโอกาสเพราะเลือกตั้งไม่เสร็จ รัฐบาลไร้อำนาจ ทำความร่วมมือไม่ก้าวหน้า วอนหยุดความเสียโอกาส กลับสู่ระบบประชาธิปไตย

วันนี้ (26 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.11 น. เฟซบุ๊ก “Yingluck Shinawatra” ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ไทยและอินเดียมีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่นมาเป็นเวลาช้านานในหลายด้าน ทั้งศาสนา วัฒนธรรม ตลอดจนด้านเศรษฐกิจ และการค้าการลงทุน ซึ่งอินเดียเป็นตลาดที่สำคัญของประเทศไทย เนื่องจากมีประชากรประมาณ 1.2 พันล้านคน และในปัจจุบันเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าดีใจว่าความสัมพันธ์ระดับประชาชนระหว่างสองประเทศนั้นมีความก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ โดยประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวอินเดีย ซึ่งในปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมากกว่า 1 ล้านคน ในขณะที่คนไทยก็นิยมไปท่องเที่ยวในประเทศอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาที่ในช่วงหลังเพิ่มความนิยมขึ้นอย่างมาก

“ในวันนี้เป็นโอกาสดีที่ดิฉันได้พบกับ นายหรรษ วรรณ ศฤงคลา เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ที่ได้มาเยี่ยมคารวะเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ จึงได้มีโอกาสพูดคุย หารือกันในหลายประเด็น โดยเฉพาะการริเริ่มความร่วมมือ เช่น ในด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาโครงข่ายคมนาคม ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาได้มีการเยือนในระดับผู้นำระหว่างกันหลายครั้ง ทำให้ความร่วมมือในหลายด้าน มีความก้าวหน้าเป็นที่น่าพอใจ

ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ได้มีการหารือ ได้แก่ ความคืบหน้าในโครงการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางถนน ระหว่างไทย เมียนมา อินเดีย (Trilateral Highway) ซึ่งได้ริเริ่มขึ้นเพื่อส่งเสริมการการลงทุนระหว่างกันนั้น ได้มีความคืบหน้าอย่างมากโดยกำหนดเป้าหมายให้แล้วเสร็จภายในปี 2559 อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน มีการชะลอความก้าวหน้าเนื่องจากขาดการผลักดันในระดับนโยบายโดยเฉพาะในส่วนของประเทศไทยที่ยังไม่มีรัฐบาลอำนาจเต็ม จึงทำให้การประชุม หารือ หรือการตัดสินใจในระดับรัฐมนตรี มีความล่าช้า ซึ่งก็เป็นที่น่าเสียดายเพราะเส้นทางนี้ จะสามารถส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกันได้เป็นอย่างดีค่ะ

อีกประเด็นหนึ่งที่ได้มีการหารือ คือ โครงการท่าเรือนำลึกทวายที่ไทยให้การสนับสนุนตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทางรัฐบาลได้มีแผนการเชื่อมโยงทวายกับท่าเรือแหลมฉบัง ผ่านการลงทุนในถนน และรถไฟ ภายใต้แผนการลงทุน โครงการ 2 ล้านล้าน โดยหากโครงการนี้สำเร็จ ทวายจะกลายเป็นอีกหนึ่งประตูเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งใหม่ที่จะเชื่อมโยงการขนส่งทางน้ำผ่านมหาสมุทรอินเดีย สู่ประเทศอินเดีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และแอฟริกา ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาการค้าการลงทุน ส่งเสริมให้เศรษฐกิจภูมิภาคเติบโตในระยะยาว โดยเฉพาะในส่วนของการประหยัดต้นทุนและเวลาในการขนส่ง เพราะสามารถช่วยลดระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพไปทวายและเข้าเจนไน (Chennai) เหลือเพียงครึ่งเดียว เพราะไม่จำเป็นต้องเดินเรืออ้อมประเทศสิงคโปร์ ผ่านช่องแคบมะละกาซึ่งมีการจราจรที่คับคั่ง แต่ทว่า ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ อีกประเด็นหนึ่งที่ถือว่าเป็นค่าเสียโอกาสของทั้งไทย และอินเดียคือ ความคืบหน้าในการเจรจา FTA ไทย-อินเดีย ที่ได้ลงนามไปแล้วในปี 2546 โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องสินค้าที่ยังไม่ได้มีการปรับลดภาษี แม้ว่า สองฝ่ายมีนโยบายที่สอดคล้องกันว่าควรจะผลักดันให้ข้อตกลงได้ข้อสรุปโดยเร็ว แต่ปัจจุบันสามารถดำเนินการได้เพียงในระดับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากกระบวนการเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลของประเทศไทยยังไม่เรียบร้อย ก็จะไม่สามารถเข้ากระบวนการการอนุมัติลงนามได้ จึงทำให้ผลการเจรจาล่าช้าออกไปค่ะ

ดังนั้น เสถียรภาพทางการเมือง ความเป็นประชาธิปไตย และความต่อเนื่องในการบริหารราชการ มีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในมิติที่จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับต่างประเทศ โอกาสที่เสียไปแล้วจะนำกลับคืนมาได้ยาก ดังนั้น ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันคือหยุดความเสียโอกาสและความเสียหายไว้เพียงเท่านี้ โดยการกลับเข้าสู่ระบบ และกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด”

อนึ่ง ข้อความที่เฟซบุ๊ก น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้โพสต์ดังกล่าว มีความสอดรับกับที่ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่ง เรียกร้องให้คู่ขัดแย้งระหว่างรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเลขาธิการ ยอมเสียสละ เพื่อให้ได้ความสงบสุขคืนมา และให้ประเทศชาติเดินหน้า

อ่านประกอบ : “ประยุทธ์” วอนคู่ขัดแย้งเสียสละบ้าง ทุกอย่างจะจบ ต้องถอยฟัง กม. ปัดใช้กฎอัยการศึก

ฟังชัดๆ อีกครั้ง คลิปลับแฉสัมพันธ์ "ทักษิณ-แก๊งนายพลถั่งเช่า" เปลือยการเมืองไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น