“ส.ว.รสนา” โต้พวกเปรียบแหล่งพลังงานไทย “นมกระเปาะเล็ก” ชี้ถึงเล็กแต่ผลิตก๊าซ-น้ำมันติดอันดับโลก ควรนำมาสร้างความมั่งคั่งให้ประเทศ

“ส.ว.รสนา” เศร้าใจ นักวิชาการ-คนในตลาดหลักทรัพย์ เปรียบแหล่งพลังงานไทยเป็นลูกสาวขี้เหร่ นมเป็นกระเปาะเล็ก แต่เรียกสินสอดแพง ชี้ถึงกระเปาะเล็ก แต่ผลิตก๊าซ-ปิโตรเลียมได้ติดอันดับโลก ควรนำมาสร้างความมั่งคั่งให้ประเทศ แทนที่จะให้ทุนพลังงานสร้างความร่ำรวย

วันนี้ (22 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.15 น. น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก รสนา โตสิตระกูล หลังจากได้ฟังรายการ “สภาท่าพระอาทิตย์” ทางเอเอสทีวี ในประเด็นการปฏิรูปพลังงานในช่วงเช้า ว่า ได้ฟังนักวิชาการด้านพลังงานรวมถึงคนในตลาดหลักทรัพย์เปรียบเทียบแหล่งพลังงานของประเทศไทยว่า “เป็นลูกสาวขี้เหร่ นมเล็กเป็นกระเปาะ ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องแถมเริ่มชราภาพอีกด้วย จะไปเรียกสินสอดแพงๆ ได้ยังไง”

ฟังแล้วก็เศร้าสลดใจที่คนเหล่านี้มาหมิ่นศักดิ์ศรีของประเทศแหล่งปิโตรเลียมกระเปาะเล็ก ทั้งที่ควรให้ศักยภาพที่ผลิตปิโตรเลียมได้ไม่ขี้เหร่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นมาใช้ในการสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศไทย แทนที่จะไปเพียงสร้างความร่ำรวยให้กับกลุ่มทุนพลังงานทั้งภายใน และภายนอกประเทศเท่านั้น

เมื่อปีที่แล้วได้ไปที่เกาะซิซีลี ในอิตาลี ได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ The Roman Villa del Casale สันนิษฐานว่าในอดีตเมื่อ 3-4 B.C.เป็นคฤหาสน์ของขุนนาง หรือพ่อค้าที่ร่ำรวย คนทั่วไปเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์โมเสค ในคฤหาสน์แห่งนี้มีห้องๆหนึ่งชื่อ Room of the Ten Girls หรือมีคนเรียกว่าเป็นห้อง Bikini Room เพราะภายในห้องมีภาพโมเสคของนักกรีฑาหญิงโอลิมปิกนุ่งชุดบิกินี (เชื่อว่าเป็นภาพบิกินีที่เก่าแก่ที่สุดของโลก) เล่นกรีฑาชนิดต่างๆ

สาวพวกนี้เป็น “พวกกระเปาะเล็ก” แต่มีกล้ามเป็นมัดๆ แข็งแรงมาก สามารถขว้างจักรที่มีน้ำหนักมาก สาวกระเปาะเล็กพวกนี้คงเหมือนแหล่งปิโตเลียมของประเทศไทย แม้เป็นกระเปาะเล็ก แต่สามารถผลิตก๊าซได้ในอันดับ 24 ของโลก และน้ำมันในอันดับ 32 ของโลก ผิดกับประเทศที่นักวิชาการด้านพลังงานเรียกว่าเป็น “สาวสวยกระเปาะใหญ่เช่นพม่า” แต่กลับผลิตก๊าซในปริมาณที่ถูกจัดอันดับไว้ที่ 36 เท่านั้น น้อยกว่าไทยที่เป็นพวกกระเปาะเล็กเสียอีก

ยิ่งกว่านั้นเชฟรอนที่มีสัมปทานครึ่งหนึ่งในประเทศไทย ก็รายงานว่าแหล่งสัมปทานของเชฟรอนในไทยผลิตก๊าซได้ในอันดับ 2 รองจากที่ผลิตได้ในอเมริกาอีกด้วย

นี่ยังไม่ได้พูดถึงกลุ่มธุรกิจทุนขุดเจาะประเทศอื่นๆ ที่มามีสัมปทานในประเทศไทยกลับเรียกแหล่งปิโตรเลียมในอ่าวไทยแถวสุราษฎร์ นครศรีธรรมราช ว่าเป็นแหล่ง Big Oil ไม่เห็นมีใครเรียกว่าแหล่ง Small Oil กันเลย แถมยังบอกว่าเป็นเขตน้ำตื้น ต้นทุนต่ำอีกด้วย