xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจสุดถ่อย ด่าทอ โห่ไล่ ส.ว.ลงตรวจพื้นที่ปะทะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตำรวจห้าวหนัก โห่ไล่ พร้อมใช้คำหยาบคายใส่ ส.ว.ลงพื้นที่ตรวจสภาพเหตุการณ์ปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและมวลชน คปท.จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ผู้บังคับบัญชาสั่งห้ามยังไม่ฟัง เหิมไล่ต่อ “ไพบูลย์” เผย 6 ม.ค.57 เรียก ศอ.รส.แจง เหตุปะทะเดือด


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (27 ธ.ค.) ขณะที่กลุ่ม ส.ว.นำโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน พร้อมด้วย น.ส.รสนา โตสิตระกูล นายคำนูณ สิทธิสมาน นายสมชาย แสวงการ เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุม คปท.ที่ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ระหว่างที่ กกต. ดำเนินการจับสลากหมายเลขประจำพรรคการเมือง ในการรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมี พ.ต.อ.วัลลพ จำนงค์อาษา รองผู้บังคับการตำรวจอารักขาและควบคุมฝูงชน ได้นำตรวจความเสียหายของทั้งสถานที่ ทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ รวมถึงรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่บริเวณโดยรอบ

ซึ่งระหว่างการเดินตรวจสอบความเสียหายพื้นที่โดยรอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาประจำกันภายในศูนเยาวชนฯ ได้รุมตะโกนขับไล่และด่า กลุ่ม ส.ว.พร้อมทั้งมีการปาสิ่งของใส่กลุ่ม 40 ส.ว.และตะโกนไล่ตลอดเวลา จนทำให้ พ.ต.อ.วัลลพ ต้องเข้ามาห้ามปราม และสั่งการว่า หากมีการทำร้ายกลุ่ม 40 ส.ว.ที่มาตรวจพื้นที่นั้น ตนจะมีการลงโทษทางวินัย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังมีการตะโกนขับไล่อยู่ แต่ไม่ได้ปาสิ่งของ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการตรวจพื้นที่เสร็จเรียบร้อย นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวาน (26 ธ.ค.) ที่ผ่านมา ในฐานะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา และในวันนี้ ก็ได้มาตรวจความเสียหายหลังจากเกิดเหตุรุนแรงขึ้น พร้อมตรวจสอบรถเก็บอาวุธ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่า เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่ได้นำมาใช้ในเหตุการณ์ปะกันระหว่างผู้ชุมนุมเมื่อวานนี้ ทั้งนี้โดยรายละเอียดแล้ว ทาง กมธ.มีมติจะพิจารณาเหตุปะทะโดยรวม ตั้งแต่ฝ่ายนโยบายรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้บังคับบัญชาที่ควบคุมรถขนอาวุธที่ถูกยึด

อย่างไรก็ตาม เข้าใจการทำหน้าที่ของตำรวจโดยจะนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลเป็นข้อมูลในการทำงาน ของ กมธ.ต่อไป แต่สิ่งที่เห็นแล้วไม่สบายใจคือฝ่ายนโยบาย หรือ ผอ.ศอ.รส.ไม่ควรทำให้ตำรวจต้องพบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้คิดว่าขณะนี้เราตกอยุ่ภายใต้การกำหนดคำสั่งที่ทำให้สถานการณ์รุนแรง โดย กมธ.จะมุ่งตรวจสอบไปที่ผู้สั่งการ โดยจะมีการประชุมในวันที่ 6 มกราคม 2557 เวลา 10.00 น.

นายไพบูลย์ ยังกล่าวด้วยว่าจากการตรวจสอบเห็นกระสุนปืนลูกซอง 124 นัดที่เป็นกระสุนจริงอยู่ในรถเก็บอาวุธซึ่งทางตำรวจยืนยันว่าไม่ได้ใช้ในเหตุการณ์วานนี้ ซึ่งตนเองเห็นด้วยกับทางตำรวจเนื่องจากวานนี้ไม่พบการใช้ปืนลูกซอง ส่วนกระสุนชนิดอื่นที่ปรากฏนั้นตนเองไม่เห็นอาวุธแต่ก็จะมีการตรวจสอบต่อไป ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย






















กำลังโหลดความคิดเห็น