ผู้สมัคร ส.ส.พท.หงุดหงิด จี้ กกต.รับผิดชอบเรียกค่าเสียหายจากการหาเสียง หลังศาล รธน.วินิจฉัยเลือกตั้งโมฆะ ด้านโฆษก พท.อ้าง กกต.ต้องรับผิดชอบทั้งแพ่ง อาญา ฐานจัดการเลือกตั้งไม่สำเร็จ โมฆะ เฉ่ง “อภิสิทธิ์” ไร้วุฒิภาวะ ตั้งเงื่อนไขให้ “ยิ่งลักษณ์” ไปคุย “สุเทพ” ก่อนตัดสินใจลงเลือกตั้งหรือไม่
ที่พรรคเพื่อไทย วันนี้ (22 มี.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแต่งชุดดำแถลงข่าวไว้อาลัยกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็น
นายจิรายุ กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยัง กกต.ให้รับผิดชอบเรื่องการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดย กกต.ต้องออกมาชี้แจงว่าเงินของผู้สมัครที่ใช้หาเสียงไปแล้ว กกต.จะชำระหนี้คืนให้ตนอย่างไร ในเมื่อตนลงสมัครอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากสัปดาห์หน้ายังไม่ได้คำตอบ ตนจะใช้กระบวนการเดียวกันกับที่ กกต.กระทำกับผู้ที่ถูกใบเหลือง ใบแดง โดยการฟ้องเรียกค่าเสียหาย
นายจิรายุ กล่าวว่า ขอถามไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่าวิญญาณของความเป็นประชาธิปไตยของพรรคการเมืองเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่าง หรือยังที่บอกว่าต้องรอการประชุมพรรคในวันที่ 25 มี.ค.ก่อนถึงจะทราบว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่นั้นเชื่อว่าคงต้องถามคนชื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ดีกว่า เพราะขณะนี้สังคมตอบได้แล้วว่าระหว่างหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับเลขาธิการ กปปส.นั้นใครใหญ่กว่ากัน ดังนั้นคงไม่ต้องรอผลการประชุมกรรมการริหารพรรค เพราะน่าจะมีธงอยู่แล้ว ทั้งนี้ถ้าเป็นไปได้สัปดาห์หน้าตนจะชวนเพื่อนสมาชิกไปกราบเท้านายอภิสิทธิ์ เพื่อขอให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้ง เชื่อว่า กปปส.จะไม่ไปขวางการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
ด้าน ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ขณะนี้มีคำถามเกิดขึ้นมากมายในสังคม และอยากถามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่อาจจะสมรู้หรือร่วมคิด โดยอยากถามพรรคประชาธิปัตย์ว่าหาก กกต.พร้อมจัดการเลือกตั้ง รัฐบาลพร้อมสนับสนุน พรรคประชาธิปัตย์จะลงสมัครหรือบอยคอตการเลือกตั้ง เพราะประชาชนเริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรม และแผนประทุษกรรม เริ่มตั้งแต่มีการชุมนุมของ กปปส.สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ลาออกจากการเป็น ส.ส.มีการขวางการเลือกตั้ง มีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อยู่ร่วมในทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงเลือกตั้ง ขอให้บอกมาเลยว่าจะบอยคอตแบบไหน เช่น ปี 2549 ที่อยู่เฉยๆ รอองค์กรอิสระจัดการ และในครั้งนี้ที่ให้เครือข่ายออกมาขัดขวาง ดังนั้นบอกมาให้ชัดว่าสังคมจะต้องเจอกับอะไรอีก
อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องสปิริตของนายอภิสิทธิ์อย่าดีแต่วาทกรรม ที่ระบุว่ารัฐบาลควรใช้คำวินิจฉัยของศาลเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสของบ้านเมือง โดยให้นายกฯ ไปพูดคุยกับนายสุเทพนั้น หากมีจิตสำนึกนายอภิสิทธิ์กล้าที่จะพูดกับนายสุเทพ กล้าขัดคำสั่งนายสุเทพหรือไม่
ส่วน น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า ขอถามย้ำไปยังนายอภิสิทธิ์ว่า จะกล้าพอที่จะลงแข่งกับผู้นำสตรีอย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ประกาศจะยอมตายบนเส้นทางประชาธิปไตย หรือท่านเป็นตุ๊ดหรืออีแอบไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ จะรอให้ใครเอาพานมาใส่ตำแหน่งมาให้ ขอให้ทบทวนว่าดีกรีนักเรียนนอกจะสร้างภาวะผู้นำได้มากน้อยเพียงใด ที่ผ่านมาประเทศไทยรอประชาธิปไตยจากพรรคประชาธิปัตย์มามากพอแล้ว วันนี้หากไม่มีพรรคประชาธิปัตย์คงไม่เป็นไร แต่ความเป็นประชาธิปไตยต้องคงอยู่กับประเทศไทยต่อไป ดังนั้นขอเรียกร้องประชาชนไม่ต้องไปสนใจพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมกันสร้างประชาธิปไตยให้เต็มใบ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.บริหารกิจการเลือกตั้ง ระบุว่า เมื่อการเลือกตั้งเป็นโมฆะ รัฐบาลต้องรับผิดชอบงบประมาณที่สูญไป 3 พันกว่าล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ปราศรัยบนเวทีให้รัฐบาลรับผิดชอบว่า เป็นคำพูดของคนที่ไม่รับผิดชอบทั้งคู่หรือไม่ เพราะ กกต.โดยเฉพาะนายสมชัย มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบการเลือกตั้งในการจัดการเลือกตั้งเพียงผู้เดียว รัฐบาลเป็นเพียงสนับสนุนงบประมาณ เครื่องมือ และบุคลากร ดังนั้นสิ่งที่นายสมชัยเรียกร้องรัฐบาลนั้นเป็นการโยนบาปให้รัฐบาลแบบไม่มีความรับผิดชอบหรือไม่ ทั้งที่ผู้สมัครทั้ง 53 พรรคการเมืองได้ทำหน้าที่แล้วมีเพียง กกต.ที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง จึงเกิดปัญหา ขณะที่นายสุเทพ และพวกดำเนินการขัดขวางการเลือกตั้งอย่างชัดเจน แต่ กกต.ก็ไม่แจ้งความเอาผิดกระทั่งมีการร้องทำให้เลือกตั้งเป็นโมฆะ สะท้อนการทำหน้าที่ของ กกต.ว่า กระทำขัดกฎหมายเลือกตั้งไม่มีประสิทธิภาพจัดการเลือกตั้งหรือไม่
ดังนั้น กกต.ต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและอาญาในความเสียหายของงบประมาณจัดการเลือกตั้ง 3 พันกว่าล้านบาท รวมทั้งค่าใช้จ่ายของพรรคการเมืองและผู้สมัครทั้งหมด และขอให้ กกต.แสดงสปิริตโดยการลาออกอยู่ไปก็อายเปล่าๆ ขณะที่ นายสุเทพ และพวกรวมทั้งสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่ร่วมขัดขวางการเลือกตั้งต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและอาญาด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ที่นายสุเทพระบุว่าให้ประชาชนร่วมกันฟ้องร้องนายกฯทั้งที่ปัญหาเกิดจากการกระทำของนายสุเทพเอง ถือเป็นการเรียกร้องอย่างหน้าด้านๆ ไร้ยางอายหรือไม่ นายสุเทพ อย่าปัดสวะให้รัฐบาล เมื่อเป็นลูกผู้ชาย เป็นผู้นำกล้าทำต้องกล้ารับ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ ว่า จะลงเลือกตั้งหรือไม่นั้น ขอให้นายกฯ ไปเจรจากับนายสุเทพก่อนว่า แปลกใจที่คนเป็นถึงหัวหน้าพรรค มีวุฒิภาวะ แต่กลับให้สัมภาษณ์แบบไร้วุฒิภาวะความเป็นผู้นำ ให้ไปเจรจากับผู้ที่ถูกศาลอาญาออกหมายจับข้อหากบฏ ซึ่งอาจถูกร้องเรียนได้ว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
ทั้งนี้ อยากถามนายอภิสิทธิ์ว่าเป็นหัวหน้าพรรค หรือเป็นลูกน้องนายสุเทพกันแน่ ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่ไปคุยกับนายสุเทพ และแกนนำ กปปส.ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่กลับโยนภาระมาให้นายกฯ และรัฐบาลอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ นายอภิสิทธิ์กำลังสร้างเงื่อนไขการบอยคอตเลือกตั้งอีกหรือไม่ โดยอ้างว่าเป็นเพราะนายกฯ ไม่พูดคุยกับนายสุเทพก่อนการเลือกตั้งก็อาจจะไม่สงบเลยจะไม่ลงเลือกตั้งอีก ตนมองว่าเงื่อนไขดังกล่าวมีนัยยะและเป็นเกมของนายอภิสิทธิ์ที่จะไม่ลงเลือกตั้งหรือไม่ หากนายอภิสิทธิ์อยากปฏิรูปประเทศ สอดคล้องกับความต้องการของ กปปส.ขอให้ประกาศออกมาเป็นนโยบายพรรคแล้วนำมาหาเสียง เพื่อให้ประชาชนลงคะแนนให้ยังจะเป็นรูปธรรมมากกว่าการบอยคอตการเลือกตั้งซ้ำซาก