เกาะกระแส
00 ตอนแรกก็ฟังแบบไม่ใส่ใจกับคำพูดของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่พ่นน้ำลายออกมาว่า "จะบีบไม่ให้มีที่ยืนกันเลยหรือ" เพราะรู้ว่านี่คือ "มารยาสาไถ"ออดอ้อนฉอเลาะเป็นเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองในยามที่กำลังจะเข้าตาจน เพื่อเรียกร้องความเห็นใจ ต้องการทำลายบั่นทอนฝ่ายประชาชนที่ขับไล่ตัวเองทำนองว่าอำมหิตไล่ให้พวกเธอและครอบครัวของเธอจนไม่มีที่จะยืน เข้าใจความหมายที่ต้องการสื่อออกไป แต่มาวันนี้ไม่ว่าจะมีเจตนาอย่างไรก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอ ยิ่งลักษณ์ กำลังเดินไปสุดทางจนใกล้จะไม่มีที่ยืนแล้วจริงๆ
00 ความหมายของคำว่าไม่มีที่ยืนนั้น หมายถึง"ไม่มีที่ยืนนอกคุก" แต่มีที่ยืนในคุกค่อนข้างแน่นอน และเส้นทางกำลังเดินไปอย่างนั้นจริงๆ ไม่เช่นนั้นเราคงไม่ได้เห็นการเคลื่อนไหวของเครือข่าย ทักษิณ ชินวัตรที่กำลังระดมสรรพกำลังเท่าที่เหลืออยู่ข่มขู่คุกคามฝ่ายตรงข้าม องค์กรอิสระ และองค์กรศาลทำกันทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้มวลชนคนเสื้อแดงมาข่มขู่คุกคาม ใช้กองกำลังติดอาวุธใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเป็นรายวัน เพราะรู้ว่าตัวเองกำลังมีชะตากรรมในบั้นปลายจะเป็นแบบไหน กำลังเดินถอยหลังเข้าคุกอยู่รอมร่อแล้ว
00 ที่แน่ๆจ่อคุกเข้ามาทุกขณะแล้วก็คือคดีทุจริตจำนำข้าวที่ ปปช.กำลังจะชี้มูลความผิด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ภายในเดือนเมษายนนี้ ราวๆต้นเดือนก็น่าจะรู้ผลแล้ว และตอนนี้เธอก็คงรู้ตัวล่วงหน้าแล้ว ถึงได้สร้างความปั่นป่วนกันขนาดนี้ เพราะตัวเองย่อมรู้ดีว่าทำผิดสร้างความเสียหายเอาไว้อย่างไรบ้าง ถ้าไม่ผิดนี่สิแปลก นี่ว่ากันแค่คดีเดียวที่ใกล้ตัวก่อน ยังมีอีกหลายคดีที่กำลังทยอยตามเข้ามาเป็นหางว่าวจนขี้เกียจกล่าวถึงซ้ำซาก
00 เมื่อพูดแนวโน้มที่ ยิ่งลักษณ์ กำลังจะโดนชี้มูลความผิด ต้องตกเก้าอี้ในเร็วๆนี้ อีกด้านมันก็มีแนวโน้มสูงเช่นเดียวกันที่เราอาจจะมี "ปึ้งศักดิ์" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล มารักษาการนายกฯคนต่อไป จนหัวร่อไม่ออกร่ำให้ไม่ได้ อย่าทำเป็นเล่นไป ขนาดเคยเป็นรองนายกฯควบรมว.ต่างประเทศ เป็น ผอ.ศอ.รส.สั่งการตำรวจใหญ่คับเมืองมาแล้ว เรื่องทำไมจะเป็นไปไม่ได้วะ ถ้าแม้ว มันอยากทำลายความรู้สึกคนไทย มันก็ทำไดัทั้งนั้นแหละ
00 ถ้าพูดถึงคนที่ "ปากกล้าขาสั่น"ความหมายเดียวกับ "ขี้ขลาดตาขาว"รับรองว่าต้องไม่มีใครเกิน "จตุพร พรหมพันธุ์" คนๆนี้ปากดีบนเวทีเสื้อแดงอยู่เสมอ แต่พอถึงคราววิกฤติตัวเองก็หนีเอาตัวรอดก่อนทุกทีไม่เคยเผชิญหน้าร่วมเป็นร่วมตายกับใคร หากยังจำเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษาฯปี 52 ตอนที่ถูกทหารสลายการชุมนุมเสื้อแดงข้างทำเนียบฯ ตอนนั้นยังเป็นสส.เห็นท่าไม่ดีก็อ้างว่า"จะไปตรวจแนว"ด้านนอก แล้วก็หนีหายไปเลย ทิ้งมวลชนเอาไว้ข้างหลัง จนปี 53 ก็ไม่ได้แตกต่างกันเข้ามอบตัวพร้อมกับ"หัวโจกขี้ข้า"รายอื่นเข้าไปในพื้นที่ปลอดภายใต้คอกของตำรวจมะเขือเทศ ปล่อยให้มวลชนเคว้งคว้าง เผชิญชะตากรรมกันเอง แต่คนแบบนี้แหละที่บอกว่า "สู้แล้วรวย" ใช้โวหารหาประโยชน์เข้าตัวกันแบบรายวัน
00 อย่างไรก็ดีรู้สึกรำคาญ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่หน่อมแหน้มไร้สาระไปตอบโต้กับพวกไร้ราคา จนมีฐานะเทียบเท่ากันจนได้ จนเรียกได้ว่าทำลายศักดิ์ศรีกองทัพจนป่นปี้ไปแล้ว เพราะถ้าคนระดับ ผบ.ทบ.ไปพูดถึงคนประเภทนี้ แม้ปากบอกว่าไม่ให้ราคา แต่ในมุมกลับนั่นแหละคือการให้ราคา ให้ความสำคัญกับมันไปแล้ว เพราะถ้าเอาจริงต้อง"ตบปาก"ตั้งแต่ต้นอย่าให้สามหาวจนถึงบัดนี้ได้เลย คนพวกนี้ต้องเอาจริง ที่มันเหิมเกริม เพราะมันอ่านขาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ "ไร้น้ำยา" ไม่กล้าทำอะไรกับมัน อย่างมากก็แค่ฮึ่มจนคอแห้งเท่านั้น ไม่มีอะไรในกอไผ่ เพราะขนาด"ความหมายศักดิ์ศรีของกองทัพ"ที่ "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษชี้ให้ดูวาทะเตือนสติทหารใต้ฐานรูปปั้น พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา อดีตผู้นำกองทัพผู้ยิ่งยงคนหนึ่ง เขาก็ยังแกล้งไม่เข้าใจ ทำหูทวนลม บางทีมันก็สมควรอยู่เหมือนกันที่โดนพวก"กระจอก"มันหยามเกียรติอยู่ตลอดเวลา
