เกาะกระแส
00 ถ้าจะบอกว่าสถานการณ์การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายกำลังเดินมาถึงจุดสำคัญที่ชี้ถึงอนาคตกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายมวลมหาประชาชน ที่นำโดย กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ และฝ่าย "ทรราชแม้ว" ที่ชักใยสั่งการผ่านรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เนื่องจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ส่วนหนึ่ง ก็ต้องยอมรับความจริงว่าเป็นเพราะ "กำนัน" ไม่ใช้พลังมวลชนที่มีมากมายมหาศาลเร่งเผด็จศึก "ขับไล่ทรราช" และเครือข่ายออกไปตั้งแต่แรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ปีที่แล้ว ที่ตอนนั้นพลังและอารมณ์ของมวลชนฮึกเหิม ออกมามากมายมหาศาล มากมายขนาดที่ ยิ่งลักษณ์ ขวัญกระเจิง จนต้องยุบสภา และถอยจนสุดซอย แต่ตอนนั้นำนันก็ไม่บุกขยี้ และยังเกรงใจ "ทหารถั่งเช่า" ไม่กล้ายื่นคำขาดให้ออกมายืนอยู่กับประชาชน เพราะถ้าไม่ออกมา ก็ต้องไล่ไปให้พร้อมกัน แต่เมื่อไม่ทำให้เด็ดขาด ทุกอย่างมันก็ไปได้ไม่ไกล จนหยุดนิ่ง เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไป อีกฝ่ายคือ ฝ่ายทักษิณ ก็สามารถตั้งยันได้ แม้ว่าจะเสียเครดิต สังคม "ตาสว่าง" ถดถอยลงไปมาก แต่มาถึงเวลานี้ก็ต้องบอกว่าเป็นสถานการณ์ที่ตั้งยัน เผด็จศึกแบบเด็ดขาด ทำได้ยากแล้ว
00 พูดไปก็แค่นั้น เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว แค่รำลึกความหลังแบบเสียดายเท่านั้น อย่างไรก๋ดี หากมองกันในแง่ดี มาถึงวันนี้ก็ต้องบอกว่า "ระบอบทักษิณ" อยู่ในสภาพ "อ่อนปวกเปียก" ต้องอยู่ในสภาพดิ้นรนเอาตัวรอดให้นานที่สุดเท่านั้น ไม่สามารถ"หลอกต้ม" คนไทยได้แบบเดิมอีกแล้ว สังคมได้ตื่นรู้ตาสว่างกันมากมาย สาเหตุก็เป็นเพราะ"ความห่วย" ของพวกเขา ได้ประจานตัวตนออกมาให้เห็นเอง ถามว่าผ่านมาสองปีกว่า ตัว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกพี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร เชิดขึ้นมาเป็นนายกฯ มีผลงานน่าประทับใจอะไรบ้าง ลองนึกแล้วบอกออกมาให้ชื่นใจสักเรื่องสิ เรื่องเศรษฐกิจ ที่ห่วยแตกที่สุด ทั้งที่ในรอบสองปีมานี้ไทยไม่ได้รับผลกระทบทาง ศก. จากภายนอก ไม่มีวิกฤติ "แฮมเบอร์เกอร์" ให้วุ่นวายใจ ตัวบุคคลที่มาร่วมเป็น รมต. ทั้งข้าราชการก็ล้วนเป็น "ขี้ข้า" เป็นเด็กในบ้านคนกันเองทั้งนั้น แต่ทำไมเรื่อง "ค่าครองชีพ" ชาวบ้านถึงได้แพงหูฉี่เดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำทุกรายการ การส่งออกตกต่ำเป็นประวัติการณ์ เอาเป็นว่าไม่เคยมียุคไหนเลวร้ายเท่ากับ "ยุคทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ" ก็แล้วกัน ขนาด "บะหมี่สำเร็จรูปมาม่า" ยอดขายตกก็แล้วกันเคยมียุคไหนที่เป็นแบบนี้บ้างละ
00 ไม่ต้องพูดเรื่อง "จำนำข้าว" ที่ทำให้ชาวนาเสื้อแดง ต้องเดือดร้อนไร้ทางออกจนฆ่าตัวตายกันเป็นใบไม้ร่วงในตอนนี้ นี่ก็ผลงานของ ทักษิณ ที่เคยภูมิใจโม้กับสื่อต่างประเทศว่า เป็นความคิดของตัวเองทั้งหมด แต่นั่นพูดเมืองสองปีก่อน มาตอนนี้เงียบกริบ เพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้ชาวนา ความหวังสุดท้ายที่จะใช้เงินจากเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทมา"หมุนใช้หนี้ชาวนา" ก่อนก็โดนศาลรธน."ดับฝัน" ไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ก็คือใช้วิธี "โยนความผิด" ให้คนอื่น หาว่ามีม็อบขัดขวาง อำมาตย์แกล้ง อะไรบ้าง ซึ่งวิธีการแบบนี้มักนำมาใช้ตลอดเวลาเมื่อตัวเองล้มเหลวผิดพลาด สรุปก็คือ"ไม่เคยยอมรับความผิด" ของตัวเองนั่นแหละ
00 การเปลี่ยนตัว "หัวโจก" คนเสื้อแดงจาก "เมียเหวง" ธิดา ถาวรเศรษฐ มาเป็น จตุพร พรหมพันธุ์ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นเลขาฯ มีนัยสำคัญน่าจับตาเหมือนกัน เพราะนั่นหมายความว่า มีเจตนาในการเพิ่มประสิทธิภาพในการ "ปลุกระดม" ให้เข้มข้นขึ้น จากเดิมที่ ธิดา พูดจาปราศรัยไม่ค่อยมีพลัง พูดฟังไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปลี่ยนตัวเป็นคนใหม่ เป้าหมายก็มาทางนี้ชัดเจน นั่นคือ สถานการณ์นับจากนี้ไป ทักษิณ ชินวัตร จะใช้คนพวกนี้ปลุกระดมคนเสื้อแดงที่เหลืออยู่มา "ต่อรอง" เพื่อหวังว่าจะ"ไม่เสียทั้งหมด" ประคองรักษาอำนาจที่พอเหลืออยู่บ้างเอาไว้ต่อไป
00 ความหมายที่สื่อออกมาเข้าใจได้ไม่ยากว่า ทักษิณ ชินวัตร สั่งสู้ครั้งสุดท้าย ปลุกระดมครั้งสุดท้าย เหมือนกับว่า ระดมมวลชนเสื้อแดงเท่าที่มีอยู่ออกมาให้มากที่สุด เพื่อหวังต่อรองรักษาอำนาจ แต่หากพิจารณาตามความเป็นจริงจากบรรยากาศการชุมนุมที่อยุธยา เมื่อวันก่อน ก็ต้องบอกว่าเวลานี้ "ถดถอย" ลงไปมาก มีคนร่วมถือว่า "น้อยมาก" แม้ว่าจะพยายามสร้างภาพให้ดูยิ่งใหญ่อลังการ แบบนั่งช้าง ยกขบวนทั้งทางรถทางเรือ แต่ก็โหรงเหรงเต็มที ซึ่งมันก็ต้องมารูปนั้นอยู่แล้ว เพราะเงินค่าจำนำข้าวยังไม่จ่าย ชาวนาจะตายกันอยู่แล้ว คงไม่อยาก "กินประชาธิปไตย" เป็นอาหารหรอก !!