คปท.เดินสายนำมวลชนเคลื่อน บก.ทร.ขอ ผู้บัญชาการทหารเรือ ทบทวนโยก “วินัย” พ้น ผบ.ซีล จวกยอมให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซง สอดคล้องคลิปถั่งเช่าชัด ขอช่วยแฉใครชงเด้ง เตือนถ้านิ่งจะถูกชาวบ้านสงสัยยังอยู่ข้างประชาชนหรือไม่ แย้มเจอฟ้องแน่ พร้อมขนม็อบมาอีกรอบ ขู่ขวางคนทำงานเพื่อนักการเมือง เตรียมนำความชั่วรัฐยื่นเสริม ด้านเลขาฯ ทร.รับหนังสือ บอก “ณรงค์” อ่านแล้ว แต่ไร้ความเห็น
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พระราชวังเดิม เมื่อเวลา 09.20 น.นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูป ประเทศไทย (คปท.) และนายอุทัย ผู้ประสานงาน คปท.ได้นำมวลชนเคลื่อนขบวนเดินทางมายื่นหนังสือขอให้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ทบทวนการปรับย้าย พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.) หรือ ผบ.หน่วยซีล พร้อมทั้งให้กำลังใจทหารเรือ โดยมี พล.ร.ต.กาญจน์ ดีอุบล เลขานุการกองทัพเรือ เป็นตัวแทน ผบ.ทร.รับหนังสือ
โดย นายนิติธร กล่าวบนรถปราศรัยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทหารเรือไม่เคยมีความความด่างพร้อยในการทำหน้าที่ วันนี้จึงมาตอกย้ำสิ่งที่ทหารเรือเคยทำไว้กับประเทศชาติ และกองทัพเรือนั้น มีเพียงหน่วยเดียวที่ใช้คำว่าสงครามพิเศษ นั่นคือหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) แต่การปรับย้าย พล.ร.ต.วินัย นั้น ตนมองว่าเป็นการยอมให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซง แต่ประชาชนนั้นจะไม่ยอม ซึ่งก่อนหน้านี้มีความพยายามปรับย้าย พล.ร.ต.วินัย มาครั้งหนึ่งแล้ว จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลิปเสียงสนทนาที่คล้ายกับเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ถึงการเตรียมปรับโยกย้ายตำแหน่งนายทหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาล แต่ ผบ.ทร.มีจุดยืนที่ไม่ทำตามในขณะนั้น ตนขอชื่นชม ผบ.ทร.
แต่ในวันนี้หาก ผบ.ทร.ต้านแรงเสียดทานของฝ่ายการเมืองไม่ไหว ขอให้ ผบ.ทร.ออกมาบอกกับประชาชนว่าในที่ประชุมสภากลาโหม ใครเป็นคนเสนอชื่อย้ายโยกย้าย พล.ร.ต.วินัย
“ผมมองว่า พล.ร.ต.ยุจ พิจิตรชุมพล หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ ผบ.กองเรือยุทธการ ที่จะให้มาเป็น ผบ.นสร.แทนนั้น ไม่ได้ผ่านการฝึกหลักสูตรรบพิเศษของกองทัพเรือ แต่แค่จะขึ้นมาเพื่อขัดตาทัพ รอให้ถึงเดือน ต.ค.จึงจะมีการปรับอีกครั้งเท่านั้น ดังนั้นขอให้ผบ.ทร.ทบทวนการปรับย้ายตำแหน่งในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผบ.ทร.จะทำทุกอย่างเพื่อให้การโยกย้ายครั้งนี้เป็นธรรม และจะร่วมกันปกป้องไม่ให้นักการเมืองเข้ามาแทรกแซงได้ หาก ผบ.ทร.ยังคงนิ่งเฉยและดำเนินการดังกล่าวในการปรับย้าย ก็จะถูกประชาชนสงสัยถึงจุดยืนได้ว่ายังยืนหยัด และยืนเคียงข้างประชาชนหรือไม่ และอาจจะถูกฟ้องต่อไปได้ ผมก็จะนำมวลชนมาพบกับ ผบ.ทร.อีกครั้ง อย่างไรก็ตามขอให้ ผบ.ทร.นำเรื่องดังกล่าวนี้เสนอที่ประชุมสภากลาโหม เพื่อทบทวนโดยเร็วที่สุด” นายนิติธร กล่าว
นายนิติธร กล่าวต่อว่า การเลือกนายทหารหรือบุคคลใดมาดำรงตำแหน่งใดๆ นั้น จะต้องเป็นการดำรงตำแหน่งเพื่อชาติและประชาชน ส่วนผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเพื่อทำงานให้กับนักการเมือง ตนขอเตือนว่า คปท.จะเดินหน้าขัดขวางในทุกที่ และหลังจากนี้ คปท.จะเดินหน้าปฏิวัติประชาชน และจะรวบรวมหลักฐานการกระทำที่ทุจริตคอร์รัปชัน และการกระทำที่ไม่ดีของระบอบทักษิณ และรัฐบาลรักษาการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มามอบให้ ผบ.ทร.ด้วย และจะสอบถามอีกครั้งว่าจะร่วมกับประชาชนหรือไม่
ต่อมา นายอุทัย ได้อ่านคำแถลงการณ์หนังสือถึงเหตุผลที่มาขอให้ ผบ.ทร.ทบทวนการปรับตำแหน่งโยกย้าย พล.ร.ต.วินัย ว่า คปท.มองว่าเป็นการปรับตำแหน่งโยกย้ายในครั้งนี้เป็นเหมือนการลงโทษภายหลังจากที่ พล.ร.ต.วินัย แสดงจุดยืนถึงการแสดงออกต่อสาธารณชนอย่างกล้าหาญชัดเจน ถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชน จึงต้องทำการขอให้ทบทวนการปรับย้ายที่ไม่ได้เป็นไปด้วยความถูกต้อง
จากนั้นในเวลา 10.15 น. พล.ร.ต.กาญจน์ เป็นตัวแทนมารับหนังสือดังกล่าว และนายอุทัย ยังได้ฝากหนังสือไปถึง พล.อ.นิพันธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม อีก 1 ฉบับด้วย
ด้าน พล.ร.ต.กาญจน์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ได้นำหนังสือร้องเรียนของ คปท.ไปส่งให้กับ ผบ.ทร.เรียบร้อยแล้ว และ ผบ.ทร.ได้อ่านแล้ว แต่ยังไม่มีความเห็นใดๆ ซึ่งการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารในส่วนของกองทัพเรือ เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะพิจารณา และคงต้องรอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯออกมาก่อน ตนไม่สามารถให้ความเห็นหรือพูดเรื่องรายละเอียดได้
จากนั้นเวลา 11.00 น.ก็ได้เดินทางมาต่อมาที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถนนพระอาทิตย์ โดยเดินทางมาเป็นครั้งที่ 4 เพื่อเรียกร้องให้ข้าราชการหยุดทำงาน โดยยังพบว่ามีข้าราชการทำงานอยู่ เมื่อทราบว่า กลุ่ม คปท.เดินทางมาถึงจึงได้ทยอยเดินทางกลับ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงนำแท่งแบริเออร์วางขวางประตูทางเข้าออกทั้ง 2 จุด เพื่อไม่ให้ข้าราชการเดินทางมาทำงาน
ก่อนที่จะนำขบวนมาขอบคุณพนักงานสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ในเวลาต่อมา
