“ประพันธ์” เสนอ กปปส.ไล่บดขยี้ “ปู” หาก ป.ป.ช.ชี้มูลโกงข้าวแล้วยังด้านอยู่

“ประพันธ์” ชี้ เม.ย.-พ.ค.เป็นช่วงที่คดีความต่างๆ ของรัฐบาลถูกตัดสิน ลั่นเมื่อกฎหมายนำหน้าให้แล้ว ต้องมีกระบวนการบังคับให้ลาออก แนะ กปปส.หาก ป.ป.ช.ชี้มูลคดีจำนำข้าวแล้ว “ปู” ยังดื้อด้าน ต้องไล่บดขยี้ให้ยอมจนได้ ระบุอาจต้องรุนแรงแต่เป็นความรุนแรงที่ชอบธรรม เพราะรัฐบาลหมดความชอบธรรมไปแล้ว

วันที่ 13 มี.ค.นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวในรายการ “เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม” ช่วงวิเคราะห์สถานการณ์ ทางเอเอสทีวี ตอนหนึ่งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องโดนหลายคดี ทั้งเรื่องการย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาฯ สมช.ไม่ชอบ เงินกู้ 2.2 ล้านล้าน เรื่องจำนำข้าว และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน คดีที่ค้างในศาลจะจบใน เม.ย.-พ.ค.ถือเป็นการตอกตะปูปิดฝาโลงทำให้รัฐบาลไม่สามารถกลับมาบริหารประเทศได้อีกต่อไป แต่รัฐบาลก็คงตะแบงอยู่ในตำแหน่งต่อไม่ยอมลาออก แต่มันจะสร้างความชอบธรรมให้กับกระบวนการบังคับให้รัฐบาลลาออก

สมมติรัฐบาลสิ้นสภาพ แล้วยังดึงดันอยู่ ก็ต้องมีกระบวนการมาทำให้จบปัญหาทางการเมือง กปปส.ควรใช้พลังประชาชนในการลุกไล่ระบอบทักษิณให้สิ้นซาก ต้องทำการปฏิวัติโดยประชาชน เพราะทหารไม่ทำ แต่ทหารอาจอยู่เบื้องหลังสนับสนุนให้ประชาชนทำก็ได้ ถึงเวลานั้นอยู่ที่ผู้นำการต่อสู้จะตัดสินใจอย่างไร

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า หากหลัง ป.ป.ช.ชี้มูลจำนำข้าว แล้ว กปปส.ยังไม่แตกหักกับรัฐบาลอีก มันก็ยากที่จะตอบคำถามว่ารออะไรอีก เพราะยิ่งยืดเยื้อเขายิ่งตีโต้กลับด้วยความรุนแรง

ตนเชื่อว่าระดมพลรอบใหม่มวลมหาประชาชนจะออกมาครั้งใหญ่ เพราะเขาต้องการให้จบ แต่ กปปส.ต้องคิดรูปแบบให้เป็นรูปธรรมและชัดเจน หลังเรื่องจำนำข้าวต้องลุยเลย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องไม่มีแผ่นดินอยู่ ถ้าดื้อด้านไม่ออกจากตำแหน่ง

ในเมื่อกฎหมายนำหน้าให้แล้ว สุดท้ายมันต้องมีสภาพบังคับโดยทหารกับประชาชน แต่ถ้าทหารไม่กล้าออก ประชาชนต้องออกหน้า แม้จะต้องรุนแรงแต่มันจำเป็น เพราะถือว่าเขาขัดขืนอำนาจประชาชน เพราะพวกนี้หมดความชอบธรรมแล้ว

ความรุนแรงขึ้นอยู่กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะยอมหรือไม่ ไม่ยอมก็ต้องรุนแรง แต่เป็นความรุนแรงที่ชอบธรรม เพื่อบดขยี้เอาความรุนแรงที่เป็นอธรรมออกไป