xs
xsm
sm
md
lg

เจอทั้งชาวนาตามฉีกอก-ศาลกับ ป.ป.ช.กำลังชี้ขาดแล้ว “ปู” จะรอด!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

ไม่ว่าจะพยายามเบี่ยงเบนบิดเบือนกันอย่างไรก็ตาม แต่ความจริงก็ต้องเป็นความจริงวันยังค่ำ หนีไม่ออกหรอก และทุกเรื่องก็กำลังงวดเข้ามาทุกทีแล้ว... แม้ว่าจะพยายามยื้อซื้อเวลาออกไปกันสุดความสามารถ แต่ถึงอย่างไรมันก็ย่อมมีกรอบเวลา ต้องมีข้อสรุปจนได้แหละ

ตัวอย่างที่เห็นภาพการเคลื่อนไหวในเวลานี้ก็คือ กรณีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังเรียก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) มาชี้แจงข้อหาทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยเธอพยายามยื้อเวลาบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา อย่างที่เห็นก็คือส่งทนายความมาขอยื่นเรื่องให้ขยายเวลาในการส่งเอกสารแก้ต่างอีก 45 วัน จากเดิมที่ยื้อให้ขยายเวลาจากเดิมวันที่ 12 มีนาคม ก็ขอยืดมาเป็นวันที่ 14 มีนาคม จนล่าสุดจะยื้อเป็นขยายเวลาอีก 45 วัน ก็รอลุ้นกันว่า ป.ป.ช.จะยอมตามนั้นอีกหรือเปล่า

อย่างไรก็ดี แม้ว่าไม่อยากพูดไปก่อนล่วงหน้า แต่ก็ต้องฟันธงไว้ล่วงหน้า “ไม่น่ารอด” เพราะรับรู้กันอยู่แล้วว่า “โกงกันสะบัด” โกงกันทุกเมล็ด จนเจ๊งกันอย่างที่เห็น ไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ชาวนาในตอนนี้ไงล่ะ

ขณะเดียวกัน เพื่อให้ครบวงจรก็ต้องกล่าวถึง “โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล” ไปในคราวเดียวกันเสียเลยว่า “สถานการณ์อ่วม” กันทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และฝ่ายชาวนา โดยเริ่มจากฝ่าย ยิ่งลักษณ์ ก่อนที่จนถึงบัดนี้แม้ว่าจะพยายามยืมเงินจาก “งบกลาง” จำนวน 2 หมื่นล้านบาท มาสร้างภาพทดรองจ่ายให้ชาวนาพอประทังชีวิตไปได้บ้าง แม้ว่าจะเป็นจำนวนน้อยนิดเมื่อเทียบกับจำนวนหนี้สินทั้งหมดกว่า 1 แสน 3 หมื่นล้านบาท และแม้ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะยอมอนุมัติเงินก้อนดังกล่าวมาให้ แต่รู้ทันว่าต้องใช้คืนภายในวันที่ 31 พฤษภาคม ให้เวลา 3 เดือน เพราะที่ผ่านมารัฐบาลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ไปโม้เอาไว้ว่าสามารถระบายขายข้าวในสต๊อกได้เดือนละไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัน

แต่เอาเข้าจริงมันก็แค่ราคาคุย พูดแบบขอไปที และที่สำคัญเงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาทดังกล่าวที่จะนำมาจ่ายให้กับชาวนานั้นกลายเป็นว่า ปลัดกระทรวงการคลัง “ไม่ยอมลงนามเบิกจ่าย” เงิน เพราะกลัวความผิดในภายหลัง เพราะเป็นการ “จ่ายเงินผิดประเภท” อ้างว่าเป็นจำนวนเงินเกิน 500 ล้านบาท ตัวเองไม่มีอำนาจ หากจะเซ็นก็ต้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนามรับรองเสียก่อน

เรียกว่างานนี้ไม่หมู ข้าราชการไม่ยอม “ตายเดี่ยว” อีกแล้ว

เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้ทุกอย่างค้างเติ่ง ชาวนาก็ยังไม่ได้เงินสักบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นิวัฒน์ธำรง รวมไปถึง ยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปากดีพูดว่าภายในสัปดาห์นี้จะจ่ายเงินได้ เพียงรอขั้นตอนการเบิกจ่ายเท่านั้น แต่ความจริงก็คือ ยังเบิกเงินมาไม่ได้

ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้จะได้ชาวนาเริ่มขยับเคลื่อนไหวชุมนุมทวงหนี้กันอีกรอบ และที่น่าสังเกตก็คือเป็นชาวนากลุ่มใหม่ที่เคยเป็นคนกันเอง ทั้งใน “ภาคอีสานล้านนา” ที่คิดจะตั้งเป็น สปป.ใหม่นั่นแหละ เพราะล่าสุดวันก่อนชาวนาจากจังหวัดบุรีรัมย์ยกขบวนมาประท้วงทวงหนี้กันถึงหน้าบ้านของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กันเลยทีเดียว

น่าเจ็บปวดก็คือ ระหว่างที่มีการเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนของเครือข่ายทักษิณ-คนเสื้อแดงอยู่นั้น ปัญหาเงินจำนำข้าวกลับไม่มีการขยับกันเลยแม้แต่น้อย ขณะที่ปัญหาค่าใช้จ่าย หนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบกำลังรุมเร้าทุกวัน นี่ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องการลงทุนทำนารอบใหม่ การเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง ที่ปีนี้น่าจะสาหัสกว่าทุกครั้ง และลองนึกดูก็แล้วกันว่าคนกำลังหน้ามืดเรื่องหนี้สิน ไม่มีเงินใช้ในแต่ละวันมันจะหงุดหงิดขนาดไหน แม้ว่าที่ผ่านมาจะพยายามโบ้ยไปให้คนอื่น แต่ในที่สุดแล้วชาวนาก็ต้องหันกลับมาทวงที่ลูกหนี้นั่นคือ “รัฐบาล” วันยังค่ำ ถึงอย่างไรก็เลี่ยงไม่ออก และยิ่งเดือดร้อนมันก็จะยิ่งระเบิด ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องปากท้องย่อมมาก่อน คงไม่มีใคร “ยอมตายคาประชาธิปไตย” ตามที่ ยิ่งลักษณ์ อ้างหรอก

ส่วนอีกเรื่องที่กำลังไล่จี้ตามมาติดๆ แถมเป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตายอนาคตของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เสียด้วย เพราะนั่นยังหมายถึง “คุก” เสียด้วยซี ที่ต้องเสี่ยงมากที่สุดก็คงเป็นที่ ป.ป.ช.ที่ต้องชี้มูลในคดีทุจริตโครงการจำนำข้าวนั่นแหละ ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะรู้ชะตากรรมดี เห็นได้จากอาการป่วน ป.ป.ช.ทุกรูปแบบ

แต่เชื่อเถอะนาทีนี้สังคมเข้าใจแล้วว่าคนที่ป่วนคนที่ยิงถล่ม ป.ป.ช.-ถล่มศาลล้วนแล้วมาจาก “เครือข่ายทักษิณ” ทั้งสิ้น ที่ปากบอกให้คนอื่นเคารพกติกา แต่ต้องเป็นกติกาที่ตัวเองต้องไม่ผิดและได้เปรียบเท่านั้น

และอีกเรื่องที่กำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่ทำลายความชอบธรรมทางการเมืองของเธอลงไปอีก จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาชี้ขาด “โครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท” ที่คนในรัฐบาลตั้งท่าไม่ยอมรับคำตัดสิน ขณะที่ตัวเธอเองก็ข่มขู่ศาลฯ ว่าหากชี้ว่ามิชอบจะทำให้ประเทศเสียโอกาสในการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐาน ไม่มีรถไฟความเร็วสูง ซึ่งบิดเบือน เพราะสิ่งที่กำลังถูกคัดค้านและร้องศาลก็เพราะเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย เจตนาเลี่ยงการตรวจสอบ ทั้งที่ต้องเป็นภาระผูกพันหนี้สินกับประชาชนไปอีกไม่น้อยกว่า 50 ปีนั่นต่างหาก อีกทั้งการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานสามารถจัดทำด้วยวิธีตามพระราชบัญญัติงบประมาณตามปกติได้

แต่เป็นเพราะต้องการ “กู้มาโกง” ต่างหากที่เป็นปัญหา

และล่าสุดก็เป็นไปตามคาดนั่นคือ ศาลรัฐธรรมนูญมี “มติเอกฉันท์” ว่าพระราชบัญญัติฉบับนี้ขัดรัฐธรรมนูญ แต่เชื่อเถอะคนพวกก็หน้าด้านไม่สนใจ อ้างว่าศาลไม่ยุติธรรม หาว่าอำมาตย์อยู่เบื้องหลัง ทั้งที่ความผิดเห็นกันโต้งๆ ดังนั้นหากจะกำจัดคนชั่วมันก็ต้องใช้เวลา ให้สังคมได้เห็นเอง บางทีปล่อยมันไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละเอาให้ตายแบบทรมาณ

แต่เอาเป็นว่าในเวลานี้แทบทุกเรื่องกำลังประดังเข้ามารัดคอ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนแน่นดิ้นไม่ออกเข้าไปทุกทีแล้ว และถึงตอนนั้นเธอจะรู้สึกตัวก็สายไปแล้ว เมื่อเดินเข้าคุกไปแล้ว!!

กำลังโหลดความคิดเห็น