xs
xsm
sm
md
lg

ล้างตาชิงผู้ว่าฯ กทม. วัดใจส่ง “จูดี้” สู้อีกที?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ
สะเก็ดไฟ

กิดคำถามอื้ออึงกันขรมเมือง หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติควักใบเหลืองแจกให้ “ชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ร้อนฉ่าจะเข่นฆ่ากันไม่รู้วันไหน

หลายฝ่ายตีความเป็นเพราะ 5 เสือ กกต.ต้องการกลบกระแสเอียงกระเท่เร่ไปฟากฝั่งม็อบ กปปส.ของ “กำนันเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่คนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยโจมตีอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

เลยหันมาสอยฝั่งเดียวกันแบบถนอมใจเพื่อรักษาไว้ซึ่งภาพลักษณ์เรื่องน้ำหนักของตราชั่ง เพราะถ้าถึงคราวรัฐบาลทรราชโดนบ้าง กกต.จะอ้างได้ว่าตัดสินเท่าเทียม ฟันได้หมดไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น ว่ากันไปนั่น!!!

บางคนในรัฐบาลถึงกับผวา รีบตีความว่า เป็นเพราะ กกต.ต้องการขุดบ่อล่อปลาเพื่อรอเชือดสมันตัวใหญ่อย่างรัฐบาล

จะเทน้ำหนักประเด็นนี้อย่างเดียวแบบลืมปมอื่นที่สำคัญเลยเสียมิได้ โดยเฉพาะมติ 3 ต่อ 2 ของ 5 เสือ กกต.ที่น่าล้วงแคะแกะเกาจนทำให้รูปการณ์อาจพลิกผันได้ในช่วงปลายตามกระแสข่าววงในว่า 2 เสือ กกต.ที่โหวตให้ “ชายหมู” มีมลทินในครั้งนี้เป็นสองอดีตตุลาการ

ย่อมอาจส่งผลต่อรูปคดีในชั้นศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้ไม่น้อย

สาเหตุเพราะตุลาการมักจะมีหลักการพิจารณาและไต่สวนคดีในลักษณะที่เหมือนกันการที่อดีตตุลาการเคาะโต๊ะเห็นด้วยที่จะแจกใบเหลืองถึง 2 คน นั่นย่อมแสดงถึงความมั่นใจว่า “ชายหมู” กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจริงๆ จึงเป็นไปได้ไม่น้อยที่ผู้พิพากษาจะเห็นไปในแนวเดียวกัน

“ชายหมู” จึงได้เสียวในชั้นศาลแน่ อาจได้หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกันใหม่อีกสักรอบ

เหลือบมาดูม้าแข่งของแต่ละพรรค หากต้องเปิดฉากซัดกันในศึกชิงเมืองอีกครั้งโดยเฉพาะตัวเก็งสองพรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย น่าจะไม่มีอะไรหวือหวา

แม้ตามกระแสก่อนหน้าที่จะเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหนที่แล้วพรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างจะระส่ำระส่ายไม่น้อยกว่าจะเลือกม้าศึกได้เพราะมีหลายก๊กประเคนชื่อแคนดิเดตไปมากกว่าหนึ่ง เพราะไม่เห็นด้วยกับการส่ง “ชายหมู” ซึ่งเป็นของขึ้นราค้างตู้เย็นไปอุ่นใหม่ แต่ฝั่ง “ชายหมู” เองก็ขึงขังดื้อแพ่งจะลง แม้พรรคจะไม่ส่งก็ตามก่อนที่ค่ายสีฟ้าจะกลั้นใจเข็นลงไปอีกรอบ เพราะหวั่นจะต้องไปตัดคะแนนกันเองจนเสียท่าพลาดให้กับคู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทย

ทว่า สถานการณ์การเมืองตอนนี้อยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานกำลังเล่นศึกชิงเมืองอยู่กับศัตรูการที่ค่ายสีฟ้าจะมาเปลี่ยนม้ากลางศึกเพื่อเพิ่มปัญหาให้ตัวเองจนเกิดแรงกระเพื่อมในพรรคอย่างครั้งที่แล้วไม่น่าจะสมเหตุสมผล จึงเป็นไปได้สูงที่จะส่ง “ชายหมู” ลงไปกรำศึกหนสองอีกคำรบ ตามปฏิกิริยาที่ “ชายหมู” ออกมาอ้อนแม่ยกหลังทราบผล กกต. จับสัญญาณได้อย่างไรก็อยากลงอีก และต้นสังกัดก็คงไม่กล้าขัดอีกตามเคย

ฟากพรรคเพื่อไทยวันนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรชัดเจนเรื่องการเปลี่ยนตัวจาก “จูดี้” พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ไปเป็นคนอื่นหากต้องลงซ่อมศึกชิงพ่อเมืองกรุง

แต่ก็มีแววเป็นไปได้ที่จะเข็นของเดิมลงไปแก้ตัวอีกสักครั้งเพราะมองตัวเลือกในพรรคไม่มีใครมีศักยภาพเพียงพอจะไปสู้กับม้าแข่งจากพรรคประชาธิปัตย์แบบสูสีได้เท่า “จูดี้” อีกแล้วเนื่องจากครั้งที่แล้วแพ้กันไม่เท่าไหร่

ส่วน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการ รมว.คมนาคม ที่มีการพูดถึงกันมากตั้งแต่ครั้งที่แล้วถึงความเป็นรัฐมนตรีน้ำดี ยิ่งในระยะนี้มาฟีเวอร์กันอยู่ในโลกโซเชียลมีเดียด้วยความเป็นรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ครองใจวัยโจ๋กับภาพลักษณ์ติดดินกินเดิน เที่ยวแบบสมถะ ก็มีการเก็งเหมือนกันว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจซึ่งอาจดึงคะแนนจากคนรุ่นใหม่ได้ไม่น้อย

แต่ถ้าเอาลงแล้วจะถึงฝั่งฝันหรือไม่ยังมีการคลางแคลงใจข้อนี้กันอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะข้อกังขาว่าสุดท้ายอาจเป็นแค่รัฐมนตรีที่ชอบสร้างภาพ เน้นหนักไปทางการตลาดเสียส่วนใหญ่ วันๆ เอาแต่โพสต์เฟซบุ๊กโชว์กล้าม ไปตรวจงานนั้นงานนี้แต่เอาเข้าจริงจะมีน้ำยามากน้อยแค่ไหน

เพราะว่ากันด้วยผลงานที่เป็นรูปธรรมระดับบิ๊กโปรเจกต์ที่เห็นว่าแก้ไขปัญหากันได้จะจะ ยังไม่มีสักอัน ทั้งปัญหารถไฟเสื่อมโทรม ปัญหารถติดปัญหาบริการรถเมล์ห่วยแตก ย่ำอยู่กับที่เหมือนเดิมไม่มีอะไรขยับเขยื้อนนอกจากมีภาพรัฐมนตรีไปโผล่ในพื้นที่ให้คนติดตาม

ที่สำคัญจะมาเอากระแสในโซเชียลมีเดียมาเป็นตัวชี้วัดคะแนนความนิยมกับชีวิตจริงมันคนละเรื่องเห็นกันมาแล้วโจ่งแจ้งว่า กรณี “จูดี้” ก็อีหรอบนี้ ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน ถึงวันกาคะแนนที่คนต้องเลือกมันออกกันมาคนละม้วนกับตอนหาเสียงเลย

ยิ่งนิสัยคน กทม. “ชอบ” กับ “เลือก” นั้นแตกต่างกัน ไม่ได้ใช้กระแสมาเป็นตรรกะในการตัดสินใจจับลงสุ่มสี่สุ่มห้า หน้าแตกกับมาหมอไม่รับเย็บ

ในส่วนของ “จูดี้” เอง หากโดนทาบให้ลงไปซ้ำแก้ตัวก็คงต้องรีบเอาหากหวังจะรอบุญพาวาสนาส่งในเก้าอี้ ผบ.ตร.ต่อจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ก็ริบหรี่เหมือนกัน ด้วยเพราะมีแคนดิเดตตัวฉกาจอย่าง “บิ๊กย้อย” พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พร้อมท้าชิง

หนำซ้ำในช่วงสถานการณ์การเมืองไม่นิ่งโอกาสเกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยจนพลิกขั้วมีสูงหากจะหวังเป็นสามล้อถูกหวยในเก้าอี้ ผบ.ตร. อาจจะต้องตอกฝาโลงไปเลย เพราะภาพเชลียร์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิ่งเทียมนายกฯ มันโจ๋งครึ่มจนคนเกลียด

แต่ต่อจะให้เป็น “จูดี้” ที่แพ้ไม่ขาดคราวที่แล้วมาลงแก้ตัวใหม่โอกาสจะสู้ได้แบบสูสีเหมือนเดิมไม่มีอีกแล้วยิ่งอารมณ์คนกรุงช่วงนี้เทไปที่ม็อบ กปปส. ตามสภาวะแขยงรัฐบาลทรราชแบบเข้าไส้ดีไม่ดีอาจแพ้แบบขาดกระจุยไม่เห็นฝุ่น

ถึงคราวนั้นรัฐบาลทรราชจะปิดเทอมยาว ต้องเก็บกระเป๋าออกจาก กทม. เพราะคนกรุงไม่ต้อนรับ จะทำงานยังไง!!!
กำลังโหลดความคิดเห็น