ปธ.อนุ กมธ.สอบระบายข้าวรัฐ เผยลงพื้นที่พบข้าวเขมรหมื่นตัน ส่อส่งไปที่อื่น ห่วงเวียนเทียนกองทัพมด ทำเสียหาย นำข้าวสวมใบประทวนเข้าโครงการจำนำข้าว เล็งเชิญอธิบดีกรมการค้า-กรมศุลฯ แจง หนุนประมูลข้าว นำเงินช่วยชาวนา แต่ให้สอบ บ.ใหญ่ เข้าคัดข้าวดีไปก่อนและเรียกค่าหัวคิว 2 หมื่นล้าน ถึงชาวนาแต่อาจช้า
วันนี้ (11 มี.ค.) พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการติดตามตรวจสอบเรื่องการระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลจากโครงการรับจำนำข้าว ปี 2554/2555 เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ของคณะอนุกรรมาธิการฯ ที่จังหวัดสระแก้ว และจันทบุรีเพื่อตรวจสอบการนำเข้าข้าวจากกัมพูชา 2 บริษัท จำนวน 1 หมื่นตัน เพื่อส่งไปยังโรงสีเมฆเกรียงไกร จังหวัดพิจิตร เป็นที่น่าสังเกตว่า บางบริษัทไม่ได้ค้าข้าวโดยตรง แต่ทำในลักษณะชิปปิ้งนำเข้าข้าวอย่างเดียว และโรงสีดังกล่าวไม่สามารถจะรองรับข้าวได้ถึงหมื่นตัน ดังนั้นอาจจะมีการส่งข้าวไปที่อื่นด้วย นอกจากนี้ มีความเป็นห่วงว่าจะมีการเวียนเทียนขนส่งข้าวตามจุดผ่อนปรน หรือกองทัพมดจุดอื่นๆ อีก ซึ่งจะทำให้ข้าวไทยเกิดความเสียหาย เพราะจะมีการนำข้าวราคาถูกมาสวมใบประทวนเพื่อเข้าโครงการจำนำข้าวเพื่อให้ได้ราคาสูงกว่า ดังนั้นจะมีการเชิญอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และกรมศุลกากร มาชี้แจงว่ามีการอนุญาตขนส่งข้าวไปที่ใดบ้าง
นอกจากกรรมาธิการเห็นด้วยกับการประมูลข้าว โดยล่าสุดได้มีการสั่งให้มีการประมูลข้าวในภาคเหนือ 18 จังหวัดเพื่อระบายข้าวและนำเงินมาจ่ายให้ชาวนา ซึ่งจากการลงพื้นที่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ชาวนาที่ภาคใต้ก็อยากให้มีการเปิดประมูลข้าวด้วย แต่อยากเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบว่าที่ผ่านมาการประมูลจะมีบริษัทยักษ์ใหญ่จะเข้าคัดข้าวคุณภาพดีไปก่อน ทำให้บริษัทรายเล็กเสียเปรียบ และเกิดความคลางแคลงใจ รวมทั้งมีการเรียกค่าหัวคิว โดยอ้างว่าจะนำไปให้ผู้ใหญ่ ดังนั้นจึงอยากให้ตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการประมูลข้าวต่อไป
“อยากให้รัฐบาลเร่งระบายข้าวเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือชาวนา แต่ก็ขัดแย้งกันถ้าหากรีบราคาก็จะราคาต่ำ แต่ถ้ารอก็จะได้ราคาสูง ส่วนเงินที่อนุมัติ 2 หมื่นล้านบาทเชื่อว่าถึงมือชาวนาแน่ แต่อาจล่าช้าบ้างเพราะมีขั้นตอนในการเบิกจ่ายของทางราชการ” พล.ต.ท.ยุทธนากล่าว