xs
xsm
sm
md
lg

ฟางเส้นสุดท้าย เปลือยธาตุแท้ “ทักษิณ” ตรงแยกประเทศนั่นแหละ!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ชื่อหรือไม่ ถ้าไม่ปล่อยให้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร - พรรคเพื่อไทย ที่มีมวลชนคนเสื้อแดงคอยสนับสนุนอยู่ได้มีโอกาสบริหารประเทศอย่างเสรีมานานกว่าสองปีจนถึงบัดนี้ เราคงจะไม่ได้เห็นธาตุแท้ ได้เห็นฝีมือของคนพวกนี้ว่า “มีอยู่แค่ไหน” เราคงไม่รู้ว่าแท้ที่จริงสมองของยิ่งลักษณ์นั้น “กลวง” อย่าว่าแต่จะคิดทำอะไรเลย แค่พูดจาเกินสิบคำก็ฟังไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะบางครั้งการจะสังเกตระดับสติปัญญาของใครสักคนก็ให้สังเกตจากคำพูดนี่แหละ

เราคงไม่ได้พิสูจน์ฝีมือการบริหารภายใต้ “ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ” ว่าที่แท้มันล้มเหลวห่วยแตกทุดด้าน เป็นทั้งแนวความคิดและนโยบาย “มักง่าย” มุ่งแต่จะให้ตัวเองและครอบครัวตัวเองได้กำไร ผูกขาดอำนาจเอาไว้อย่างเบ็ดเสร็จเท่านั้น ไม่สนใจว่าระบบงบประมาณ การจัดเก็บรายได้ของประเทศจะพังพินาศอย่างไร

พูดไปก็เหมือนใส่ร้าย ถ้าเช่นนั้นก็ต้องยกตัวอย่างมาให้เห็นภาพ เอากันที่เห็นเฉพาะหน้าก่อนก็คือ นโยบายรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ซึ่งในความเป็นจริงก็คือการรับซื้อข้าวทุกเมล็ดจากรัฐบาลนั่นเอง ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดเกือบสองเท่า ซึ่งก็แน่นอนว่าเมื่อราคาสูงแบบนี้ชาวนาก็ต้องขายขาด ขณะที่รัฐบาลก็ต้องใช้เงินงบประมาณไปอุดหนุนสำรองจ่ายไปก่อน แต่ปัญหาก็คือขายไม่ออก ไม่มีใครซื้อเพราะต้นทุนสูง ถ้าจะขายก็ต้องยอมขาดทุนมหาศาล ซึ่งก็คือเงินของประชาชนทั้งประเทศอีก ไม่ใช่เงินของทักษิณและครอบครัวแน่นอน

โครงการดังกล่าวยังทำลายคุณภาพข้าวไทยย่อยยับ เพราะชาวนาไม่จำเป็นต้องคัดคุณภาพข้าว เพราะมีแต่รีบเก็บเกี่ยวรีบขาย ไม่จำเป็นต้องคัดเลือกสายพันธุ์กันเช่นในอดีต และแน่นอนนว่าภายใต้ระดับนี้จะต้องเกิดการทุจริตกันทุกขั้นตอน การส่งออกหายนะ เพราะทำลายธุรกิจค้าข้าวย่อยยับ เพราะรัฐบาลกลายเป็นพ่อค้าข้าวแข่งกันเอกชน

ข้อมูลแบบนี้สังคมรับรู้ข้อมูลและความเป็นจริงมาจนจะอ้วกอยู่แล้ว และในช่วงฤดูกาลแรกๆ ชาวนาก็แฮปปี้ จ่ายเงินตรง จ่ายเงินครบ ไม่ต่างจาก “แชร์ลูกโซ่” ที่ในตอนแรกที่ได้ผลตอบแทนดี มีดอกเบี้ยสูง แต่พอผ่านไปสองสามงวดก็เริ่มช้า เริ่มบ่ายเบี่ยงจนมาถึงการ “เบี้ยว” ในที่สุด ซึ่งวิธีการเบี้ยวหนี้ไม่ว่าจะเป็นพวกทักษิณ หรือพวก “สิบแปดมงกุฎ” ล้วนไม่ได้ต่างกัน นั่นอ้างโน้น โทษโน่นโทษนี่สารพัด แต่ไม่ยอมโทษตัวเอง ไม่เคยยอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง

นั่นคือความล้มเหลว โกงกินงบประมาณของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เคยสร้างภาพเป็น “กูรูด้านเศรษฐกิจ” ที่หากให้ชาวบ้านเลิกจนก็ต้องให้คนพวกนี้เข้ามาบริหาร แต่กลายเป็นว่าทุกเรื่องล้วนมีแต่เรื่อง “โม้เกินจริง”

มีแต่พวกครอบครัวชินวัตร ครอบครัวทักษิณ ชินวัตร เท่านั้นที่ร่ำรวย เอาเปรียบคนอื่น

เพราะกว่า 2 ปีที่ “เชิด” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามา ก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นเลย เศรษฐกิจย่ำแย่ ของแพงทั้งแผ่นดิน ราคาสินค้าเกษตรทุกตัวตกต่ำ การส่งออกหดตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งหดตัวก่อนที่เกิดการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและระบอบทักษิณเสียอีก ทั้งที่จะว่าไปแล้วรัฐบาลชุดนี้มีองค์ประกอบทุกอย่างพร้อม มีคนของตัวเองที่ไว้ใจได้ทั้งที่เป็นรัฐมนตรี ทั้งข้าราชการระดับสูงล้วนแล้วแต่เป็นพวกที่พร้อมรับใช้แบบชี้นกเป็นไม้ได้ทุกเรื่อง ผลงานจึงน่าจะออกมาดี แต่ก็อย่างว่าแหละในเมื่อ “ของปลอม” ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น

จะว่าไปแล้วที่ผ่านมาก็มีหลายคนที่รู้ทัน และรู้จักคนพวกนี้ดีอยู่แล้วว่า เส้นทางความร่ำรวย และการสร้างอำนาจทางการเมืองล้วนมาจากการลงทุนแบบใต้โต๊ะ ใช้ทางลัดคือ “ซื้อดะ” ไม่ได้ใช้ฝีมือในการแข่งขันกับคนอื่นอย่างยุติธรรม รับรู้ว่าคนพวกนี้มันเห็นแก่ตัว เอาเปรียบคนอื่นอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยความรวย และการสร้างภาพที่กระทำกันแบบครบวงจร และที่สำคัญสิ่งที่คนพวกนี้ใช้ “หากิน” มาตลอดนั่นคืออิงแอบมากับประชาธิปไตยจอมปลอมผ่านการเลือกตั้งเข้ามาอย่างแนบเนียน อ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง แต่ก็เป็นการซื้อ ส.ส.กันยกพรรค ควบรวมพรรคการเมือง ปากบอกว่ายึดมั่นในระบบรัฐสภา แต่ตัวเองแทบจะไม่เคยเข้าประชุมสภา ไม่เคยไปนั่งรับฟังความเห็นของสมาชิกรัฐสภา ใช้สภาเป็นเพียงแค่พิธีธรรมด้านประชาธิปไตย หรือใช้ออกกฎหมายเพื่อธุรกิจของตัวเอง หรือที่กลายเป็นเรื่องก็คือ การออกกฎหมายเพื่อลบล้างความผิดของตัวเอง เท่านั้น

ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเลยแม้แต่น้อย

ทุกอย่างเป็นผลประโยชน์ส่วนตัวที่แอบอ้างประชาชนบังหน้าเท่านั้น และที่ผ่านมาสิ่งที่คนพวกนี้มักจะใช้เป็นสาเหตุสำหรับใช้กลบเกลื่อนความจริงก็คือ มักจะโทษแต่คนอื่น เช่น โทษอำมาตย์ โทษเผด็จการขัดขวางประชาธิปไตย อะไรบ้างมั่วไปหมด แต่เมื่อสังคมให้โอกาสอย่างเต็มที่ผ่านมากว่าสองปี ทุกอย่างก็เผยความจริงออกมาให้เห็นทุกเรื่อง ทำให้คนพวกนี้ต้องเปลือยธาตุแท้ออกมาให้เห็น ผ่านมาสองปีเราก็ได้เห็นถึงระดับสมองของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่ามีแค่ไหน ทุกอย่างประจานออกมาให้เห็นเอง ซึ่งหากไม่เปิดโอกาสให้เธอได้บริหารบ้านเมือง เราก็คงไม่ได้เห็นความจริงอย่างทุกวันนี้ จนไม่มีอะไรคาใจ

เหมือนอย่างเรื่อง “ล้มเจ้า” ของ ทักษิณ ชินวัตร และพวกเครือข่าย นักวิชาการและมวลชนเสื้อแดง ที่ล้วนแล้วเป็นพวกเดียวกันที่มีมานาน แต่ก็ยังมีหลายคนยังไม่รู้ ยังไม่เชื่อ หาว่าถูกกลั่นแกล้ง แต่มาวันนี้ถึงเวลากับความคิด “แบ่งแยกประเทศ” หรือ “สร้างรัฐไทยใหม่” มันก็เกิดขึ้นมานานแล้ว เพียงแต่ว่าเพิ่งมีการเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยกันเท่านั้นเอง เพราะความเหิมเกริมคิดว่าพวกของตัวเองคุมกลไกรัฐเอาไว้ทุกอย่างในมือ ไม่มีใครกล้าทำอะไร แต่กลายเป็นว่า “คาดการณ์ผิด” ซ้ำซากเหมือนอย่างที่เคยคาดการณ์ผิดเมื่อตอนที่ผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรม “สุดซอย” ออกมาก่อนหน้านี้จนสร้างกระแสไม่พอใจทั้งเมือง เพราะเรื่องแยกประเทศได้ทำให้อารมณ์คนไทยได้ “ขาดผึง” ลงไปทันที และกลายเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” เกินที่คนไทยจะรับได้

จนเป็นสาเหตุที่ต้องชิ่ง กลับลำกันพัลวัน แต่ถึงอย่างไรสังคมก็ได้รับรู้เรื่องราวกันทะลุปรุโปร่ง ไม่อาจอำพรางตบตาได้อีกต่อไปแล้ว เพราะมันได้เปลือยตัวตนออกมาจนหมดเปลือกนั่นเอง!!
กำลังโหลดความคิดเห็น