“จับกังเหลิม” อ้าง ม.181 นายกฯ ไม่พ้นตำแหน่ง จนกว่ามี ครม.ชุดใหม่ แม้เรียกประชุมสภาใน 30 วันไม่ได้ ย้ำหน้าที่ กกต.ต้องจัดเลือกตั้งให้ครบ รัฐออก พ.ร.ฎ.ใหม่ไม่ได้ แนะเอาผิดม็อบขวางเลือกตั้ง อย่าตั้งแง่รัฐ
วันนี้ (3 มี.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงพร้อมแจกเอกสารชี้แจงกรณีข้อถกเถียงว่า กรณีปัญหาการจัดเลือกตั้ง 28 เขตไม่ได้ รวมทั้งนายกรัฐมนตรีจะต้องพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ หากไม่สามารถเรียกประชุมสภาครั้งแรกได้ภายใน 30 วัน ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะไม่พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการ เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 181 บัญญัติเป็นกรณีเฉพาะว่าต้องอยู่ในตำแหน่งจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามารับหน้าที่ และการบริหารราชการแผ่นดินต้องมีความต่อเนื่อง โดยไม่มีสุญญากาศ นอกจากนี้ยังไม่มีบทบัญญัตว่า ครม.จะต้องพ้นตำแหน่งเมื่อใด ส่วนกรณีการซาวเสียงเลือกตั้งนายกฯตามมาตรา 172 จะต้องทำภายใน 30 วัน นับแต่วันเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรก แต่เมื่อไม่สามารถเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกได้ตามมาตรา 127 ได้ ก็ถือว่าเงื่อนเวลา 30 วัน ที่กำหนดไว้ดังกล่าว ยังไม่เริ่มต้นนับหนึ่งได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงยังไม่พ้นจากตำแหน่งนายกฯเพราะยังไม่มีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า สำคัญที่สุด รัฐธรรมนูญมาตรา 93 วรรคหก จะต้องดำเนินให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ครบตามจำนวนที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญภายใน 180 วัน จึงเป็นหน้าที่ของ กกต.จะต้องดำเนินการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรให้ครบจำนวน 180 วัน และยืนยันรัฐบาลไม่สามารถตรา พ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ เพราะจะเป็นการออก พ.ร.ฎ.ซ้อน ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 ที่ระบุไว้ชัดเจนว่าการยุบสภาจะกระทำได้เพียงครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน ดังนั้น เมื่อ กกต.อ้างอุปสรรคเหตุขัดข้องในการจัดการเลือกตั้งมีมูลเหตุจากกลุ่มประท้วงขัดขวางการเลือกตั้ง ควรแก้ไขที่ต้นเหตุ และขอให้รับแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิด ไม่ใช่ตั้งแง่กับรัฐบาล