“พัลลภ” ยอมรับได้รับการทาบทามให้เข้าช่วยงาน ศรส.แต่ต้องรอนายกฯ แต่งตั้งก่อน พร้อมทำงานทันที ด้าน เลขาฯ สมช.ไม่เห็นด้วย เหตุนิยมใช้ความรุนแรง ห่วง กปปส.นำไปขยายผล ทำรัฐบาลเสียหาย
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะมีการแต่งตั้งให้ไปช่วยงานในศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) และจัดการกองกำลังไม่ทราบฝ่ายว่า ตนยังไม่ได้รับคำสั่ง แต่เห็นข่าวแล้วเหมือนกัน ยังไม่เห็นนายกฯพูดอะไร เพราะตนก็เป็นที่ปรึกษานายกฯ อยู่ ซึ่งหากนายกฯสั่งการมาตนก็ยินดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่มีข่าวอยากให้ท่านเข้ามาช่วย ศรส.เพราะอยากให้ดำเนินการให้เด็ดขาดกับการชุมนุมของ กปปส.เหมือนที่เคยดำเนินมาในเหตุการณ์กรือเซะ เมื่อปี 47 หรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า รอให้มีคำสั่งแต่งตั้งตนออกมาก่อนดีกว่า ตอนนี้ยังไม่อยากพูดอะไรมาก แต่ก็ยอมรับว่าในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่งก็เป็นห่วงสถานการณ์ในขณะนี้ ห่วงที่สุด ส่วนตัวอยากให้ประเทศมีความมั่นคง ประชาชนอยู่กันอย่างสันติสุข
“ยอมรับว่ามีคนมาคุย มาทาบทามผมแล้ว แต่เปิดเผยไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่นายกฯเองยังไม่ได้คุยอะไร ยังไม่ได้ออกคำสั่งมา แต่ผมเป็นที่ปรึกษาท่านอยู่แล้ว หากต้องการให้ช่วยก็ออกคำสั่งมาได้เลย ผมก็รออยู่ ถ้าไม่มีคำสั่งผมก็ทำอะไรไม่ได้ นายกฯเหมือนเป็นผู้บังคับบัญชา ผมเหมือนเป็นลูกน้อง เพราะฉะนั้นนายกฯมีอำนาจที่จะใช้ผมเต็มที่อยู่แล้ว สั่งให้ทำอะไรผมก็ต้องปฏิบัติตาม ปฏิเสธไม่ได้ ถ้าปฏิเสธก็คงต้องลาออก”
ส่วนหากมีคำสั่งแต่งตั้งให้มาเป็นกรรมการ ศรส.และได้ดำเนินการตรงนี้ คิดว่าจะสามารถทำให้เหตุการณ์การชุมนุมยุติได้ในระยะเวลาแค่ไหน พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ขอให้คำสั่งออกมาก่อนค่อยคุยดีกว่า
ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคง (สมช.) ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวว่า พล.อ.พัลลภ จะเข้ามาช่วยหรือมาเป็นที่ปรึกษา ศรส.ว่าไม่เป็นความจริง เป็นเพียงข่าว ซึ่งคนที่พูดอาจอยากให้ พล.อ.พัลลภ เข้ามาร่วมทำงานกับ ศรส.และใน ศรส.ก็ยังไม่มีการพูดคุยกันเรื่องนี้เลย
ผู้สื่อข่าวถามว่าหาก พล.อ.พัลลภ เข้ามา คิดว่าจะช่วยทำให้สถานการณ์การเมืองขณะนี้ดีขึ้นหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ก็อาจมองได้ทั้ง 2 มุม คือทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเพราะมีการดำเนินการที่เด็ดขาด แต่อีกมุมหนึ่งภาพในอดีตที่ พล.อ.พัลลภ แก้ไขสถานการณ์แล้วมีลักษณะความรุนแรง ซึ่งมุมนี้ก็สุ่มเสี่ยงที่ฝ่ายตรงข้ามจะนำมาใช้ประโยชน์ในการสื่อสารว่ารัฐบางมุ่งที่จะใช้ความรุนแรงแล้ว ซึ่งคงต้องระมัดระวัง และโดยข้อเท็จจริงยังไม่มีการแต่งตั้งให้ พล.อ.พัลลภ เข้ามาช่วย ศรส.แต่อย่างใด แต่ข่าวเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติในสถานการณ์เช่นนี้ที่มักมีการปล่อยข่าวมาป้องปรามซึ่งกันและกัน
ส่วนหากตั้ง พล.อ.พัลลภ เข้ามาช่วยงานหรือเป็นที่ปรึกษาศรส. จะต้องเป็นอำนาจของใครในการเซ็น เลขาฯสมช.กล่าวว่า ต้องเป็นอำนาจของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะ ผอ.ศรส.
“ในสถานการณ์ขณะนี้ ส่วนตัวผมคิดว่ายังไม่ถึงเวลา และยังไม่จำเป็นที่จะต้องนำท่านมาใช้ในการปฏิบัติงาน ยังเชื่อว่าศรส.สามารถดำเนินการได้อยู่”