อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผย ศรส.ประสาน กกต.จัดเลือกตั้ง ส.ว.แล้ว ขอบคุณพรรคพวกเลิกม็อบหน้า ป.ป.ช.ส่งทหารเจรจา “หลวงปู่พุทธะอิสระ” ขอคืน ถ.แจ้งวัฒนะพรุ่งนี้ ขอร้อง นปช.อย่าเข้ากรุง แจ้งหมายเรียก 53 กปปส.พบ ตร.ภายในกลางเดือนนี้ เฉไฉคดีแดงแบ่งแยกดินแดนไม่ได้อยู่นอกเหนือบัญชีท้ายต้องมีผู้ร้องก่อนชงกรรมการคดีพิเศษอนุมัติ
วันนี้ (3 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เมื่อเวลา 13.00 น. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงผลการประชุม ศรส.ว่า หลังจากมี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 โดยกำหนดให้จัดการเลือกตั้งในวันที่ 30 มี.ค.นี้ ศรส.จะได้ประสานงานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อช่วยเหลือ และจัดกำลังตำรวจ ทหาร พลเรือน ให้การเลือกตั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามที่ กกต.จะได้ร้อง
นายธาริตกล่าวว่า ทั้งนี้ ศรส.ขอขอบคุณแกนนำกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ที่ยุติการชุมนุมบริเวณด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่วนข้อเรียกร้องของ กวป.ที่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ต้องเลิกการชุมนุมเช่นกันนั้น ศรส.กำลังพยายามขอร้องและเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยที่ประชุม ศรส.ได้แต่งตั้ง พล.ต.สุรชาติ จิตต์แจ้ง หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ กระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าคณะผู้เจรจากับพระพุทธอิสระ เพื่อขอให้มีการเปิดถนนแจ้งวัฒนะ และสถานที่ราชการในบริเวณดังกล่าวทั้งหมด โดยจะเริ่มเจรจาตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.เป็นต้นไป ขณะที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในต่างจังหวัด ศรส.ได้ติดตามอยู่ตลอด และอยากขอร้องว่าแกนนำนปช.อย่าได้นำมวลชนเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า
อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า ศรส.ได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งพิจารณาเห็นชอบให้ออกหมายเรียกแกนนำ กปปส.โดยในจำนวนผู้ต้องหาทั้ง 58 คน ศาลได้ออกหมายจับฐานกบฏ ตามมาตรา 113 และมาตรา 114 ฐานร่วมกันยุยงส่งเสริมให้ประชาชนล่วงละเมิดต่อกฎหมาย ตามมาตรา 116 ฐานร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215 ให้แล้ว 3 คน ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายพิชิต ไชยมงคล และนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อยู่ระหว่างให้ออกนอกราชอาณาจักร 1 คน คือ นายสาธิต เซกัล และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามคำแนะนำของพนักงานอัยการ 1 คน คือ นายพิจารณ์ สุขภารังษี คงเหลือที่ได้ออกหมายเรียกในวันนี้ 53 คน โดยเป็นการออกหมายเรียกซ้ำ เป็นครั้งที่ 3 หากคราวนี้ไม่มาตามหมายเรียกอีกก็จะขอศาลออกหมายจับต่อไป อย่างไรก็ตาม ศรส.ได้แบ่งผู้ต้องหาทั้ง 53 คนออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนที่ ศรส.ระหว่างวันที่ 19-21 มี.ค.นี้ ในเวลา 09.30 น.
เมื่อถามว่าจะนำกรณีมีบุคคลขึ้นป้าย สปป.ล้านนา เข้าเป็นคดีพิเศษหรือไม่ นายธาริตกล่าวว่า ดีเอสไอแบ่งคดีเป็น 2 ประเภท คือ 1. คดีที่อยู่ตามบัญชีท้าย สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ทันที โดยไม่ต้องนำเข้าคณะกรรมการคดีพิเศษ และ 2. คดีนอกเหนือบัญชีท้าย จะต้องมีผู้ร้องทุกข์ เพื่อนำเข้าสู่คณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ได้อยู่ในบัญชีท้าย จึงต้องมีการร้องขอให้เป็นคดีพิเศษเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และนำเข้าสู่คณะกรรมการคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่