“ยิ่งลักษณ์” เสียใจบึ้มตราด-ราชประสงค์ น่าสะเทือนใจ ขอประณาม สั่งตำรวจล่า ยันไม่อยากให้เกิดอีก โวยพวกไม่เคารพกติกาชาติจะสงบยังไง วอนหันหน้าหากันให้ลงตัวที่สุด ย้ำจะไม่ให้มีที่ยืนกันเลยหรือ อ้างอยู่เพื่อรักษาประชาธิปไตย ถามลาออกเพื่อสุญญากาศฉีกรัฐธรรมนูญแล้วจะทำได้ยังไง ขู่ความเชื่อมั่นจะถอย ลั่นจะทำหน้าที่จนนาทีสุดท้าย แย้มทางออกต้องคนส่วนใหญ่ยอมรับ ไม่ปรามแดงป่วนแลกเงื่อนไขทุกฝ่ายเลิกม็อบ
วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.45 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ กปปส.ระบุความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของรัฐบาลว่า ต้องขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะคุณแม่ที่สูญเสียลูกไปที่ จ.ตราด และเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณเวทีราชประสงค์ ซึ่งขอประณามการกระทำที่รุนแรงเช่นนี้ และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีและลงโทษโดยเร็ว
“เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจ ไม่อยากให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอีก จึงอยากขอร้องผู้ที่จะใช้ความรุนแรงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม เราไม่อยากเห็นเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น รัฐบาลพยายามที่จะดูแลความมั่นคงด้วยความอดทน จึงขอร้องทุกฝ่าย” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่สามารถบังคับใช้ได้เต็มรูปแบบ ทำให้เกิดปัญหาในการดูแลความปลอดภัยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เราเป็นห่วง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือฝ่ายความมั่นคงก็ต้องไปศึกษาคำวินิจฉัยของศาลแพ่ง ว่าอะไรที่ทำได้และทำไม่ได้ และสุดท้ายแล้วการดูแลความมั่นคงไม่ได้ ก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย แต่วันนี้ทุกคนไม่เคารพกติกาแล้วจะทำให้ประเทศสงบได้อย่างไร ก็ขอร้องเพราะไม่มีสิ่งไหนที่จะดีกว่าการที่ทุกคนหันหน้าเข้าหากัน เราจะใช้กฎหมายที่แรงที่สุด เราจะใช้ความรุนแรงที่แรงที่สุด แต่สุดท้ายก็เกิดความเจ็บปวดที่กลับมาสู่ประเทศ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายควรหันหน้ามาคุย
เมื่อถามว่า รัฐบาลไม่สามารถที่จะดูแลความปลอดภัยของประชาชนได้ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ยอมเจรจา แนวทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้คืออะไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า 1. ต้องหันหน้ามาคุยกัน 2. เร่งให้การพูดคุยกันเกิดความลงตัวให้เร็วที่สุด และเป็นทางออกของประเทศให้เร็วที่สุด เมื่อถามว่า วันนี้เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกตัวพร้อมที่จะมาเป็นตัวกลางในการเจรจา นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับทุกฝ่าย ส่วนตนยินดีที่จะพูดคุยและต้องขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายมากกว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ใครจะเป็นคนกลาง แต่อยู่ที่ว่าทุกฝ่ายต้องหันหน้ามาคุยกัน ต้องเห็นกับประเทศ
เมื่อถามว่า วันนี้กลุ่ม กปปส.มุ่งหน้าขับไล่นายกฯ ทุกที่ และกดดันธุรกิจในเครือชินวัตร รู้สึกอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า “ถ้าใครเจอกับตัวเอง ก็จะบอกได้ว่ารู้สึกอย่างไร ดิฉันได้รับความรู้สึกนี้มาตลอด และเคยพูดมาแล้วว่าจะไม่ให้มีที่ยืนกันเลยหรือ ดิฉันที่อยู่วันนี้เพื่อรักษาประชาธิปไตย หลายคนมาบอกให้ดิฉันลาออก แต่ถามว่าการลาออกนั้นเป็นคำตอบหรือเปล่า ถ้าการลาออกนี้เพื่อเปิดทางให้เป็นสุญญากาศและเปิดทางให้มีการฉีกรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นประชาธิปไตย ดิฉันจะทำได้อย่างไร ดิฉันก็มีหน้าที่ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ในฐานะผู้นำรัฐบาลที่จะต้องรักษาประชาธิปไตย ที่ต้องประคองไปถึงรัฐบาลใหม่ ขณะเดียวกันกลไกในการที่ไม่ให้เกิดการเลือกตั้งก็เกิดขึ้นและก็บอกให้ลาออก อย่างนี้ก็ทำให้ประเทศเข้าสู่สุญญากาศ ยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นต่างๆ ลดถอยไป ซึ่งดิฉันพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย ขอให้ทุกคนช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ดีกว่าต่างยืนข้อเรียกร้องที่มีมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สามารถหันหน้าเข้าหากันได้ ถ้าเรามาพูดคุยกันอะไรที่แก้ได้ก็ช่วยกันแก้ คิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวเรื่องการปฏิวัติ ซึ่งหากมีการปฏิวัติจริง นายกฯ พร้อมที่จะยืนให้มาจับตัวเลยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า “ดิฉันจะทำหน้าที่ของดิฉันจนนาทีสุดท้าย”
เมื่อถามว่า ตอนนี้รัฐบาลมีความพยายามที่จะให้มีการเจรจาเกิดขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลอยากเจรจาอยู่แล้ว และเปิดโอกาสให้มีการพูดคุยอยู่แล้ว คงต้องฝากไปยังผู้ชุมนุมและทุกฝ่ายในการช่วยกันเจรจา อะไรที่เป็นทางออกประเทศและเป็นทางออกที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ เพราะไม่สามารถที่จะทำตามคำเรียกร้องคนใดคนหนึ่ง หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ เราต้องมาถามพี่น้องประชาชนอีกหลายคนที่เขาไม่ได้แสดงความเห็น ซึ่งก็เสนอให้ฝ่ายวิชาการ หรือฝ่ายต่างๆ ช่วยกันคิดหาทางออกและร่วมกันตกผลึกเพื่อให้สังคมหันมาดูว่าแนวทางไหนเป็นแนวทางที่ดี และสงบภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งเป็นคนของรัฐบาลไปขึ้นเวทีเสื้อแดงและประกาศลั่นกลองรบ นายกฯ เป็นห่วงหรือไม่ว่าจะมีการปะทะกัน นายกฯ กล่าวว่า ต้องขอร้องทุกฝ่าย การเรียกร้องสิทธิเสรีภาพขอให้ทำภายใต้กรอบกฎหมาย และขอร้องอย่าเผชิญหน้า ตรงนี้เป็นสิ่งที่หวังว่าจะค่อยๆ ช่วยกันแก้ เมื่อถามย้ำว่าจะขอร้องให้กลุ่ม นปช.หยุดหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใช้คำนี้ดีกว่าว่าขอร้องทุกฝ่ายให้หยุดชุมนุมและหันหน้ามาพูดคุยกัน
