ดุสิตโพล ชี้ ปชช.มองขัดแย้งการเมืองไม่ธรรมดา เห็นต่างปัญหาฝังราก ขอถอยคนละก้าว

สวนดุสิตโพล ทำผลสำรวจเจาะลึกความขัดแย้งการเมือง เสียงส่วนใหญ่มองขัดแย้งไม่ธรรมดา เหตุปัญหาจาก 2 พรรคใหญ่ฝังรากมานาน มีความเห็นต่างอคติ ส่วนมากมอง ศก.ลงทุน สูญเสียมากสุด แนะถอยคนละก้าวแก้ขัดแย้ง

วันนี้ (16 ก.พ.) “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “เจาะลึก” ความขัดแย้งของบ้านเมือง ณ วันนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่วุ่นวาย ยืดเยื้อมานาน และมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น เกิดความสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยความขัดแย้งยังไม่สามารถแก้ไขได้ ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของประชาชน การบริหารงานและการพัฒนาประเทศ เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน และจากผลสำรวจจำนวนทั้งสิ้น 1,383 คน ระหว่างวันที่ 11-15 กุมภาพันธ์ 2557 สรุปผลได้ ดังนี้

เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าความขัดแย้งในบ้านเมืองที่มีอยู่ ณ วันนี้ เป็นความขัดแย้งธรรมดาหรือไม่ธรรมดา อันดับ 1 มองว่าไม่ธรรมดา 83.91% เพราะเป็นความขัดแย้งของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ที่ฝังรากลึกและยืดเยื้อมานาน เป็นการแบ่งขั้วอย่างชัดเจน มีความแตกต่างทางด้านความคิด ต่างฝ่ายต่างต้องการอำนาจในการบริหารประเทศ มีการสูญเสียเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ฯลฯ อันดับ 2 มองว่าขัดแย้งธรรมดา 16.09% เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยก็มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้นบ่อยครั้ง การเมืองไทยยังคงดำเนินต่อไปได้ และสถานการณ์ต่างๆก็ยังสามารถควบคุมได้ ในบางประเทศก็ประสบปัญหาแบบนี้เหมือนกัน ฯลฯ

ต่อคำถามที่ว่าประชาชนคิดว่า “สาเหตุ” ที่ทำให้ความขัดแย้งมีอยู่ยาวนาน คือ อันดับ 1 ระบุว่าความเห็นและมุมมองที่แตกต่างกัน มีอคติ ถือทิฐิ 33.17% อันดับ 2 ระบุว่าอำนาจและผลประโยชน์ ความเห็นแก่ตัว 31.66% อันดับ 3 ระบุว่าขาดความสามัคคี ไม่มีคุณธรรมจริยธรรม 19.10% และอันดับ 4 ระบุว่าการไม่เคารพกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมไม่เข้มแข็ง 16.07%

ส่วนคำถามว่า “ผลเสีย” จากความขัดแย้งในปัจจุบันที่เห็นได้ชัดเจน คือ อันดับ 1 เห็นว่าเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนต้องหยุดชะงัก 41.10% อันดับ 2 เห็นว่าบ้านเมืองวุ่นวาย ไม่สงบสุข ประชาชนได้รับความเดือดร้อน กระทบต่อชีวิตประจำวัน 26.03% อันดับ 3 เห็นว่าประเทศไม่พัฒนา ขาดเสถียรภาพ ภาพลักษณ์เสียหาย 18.26% และอันดับ 4 เห็นว่าคนในสังคมแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน ทะเลาะกันมากขึ้น 14.61%

ทั้งนี้เมื่อถามว่า “วิธีแก้ความขัดแย้ง” ที่เป็นรูปธรรม คือ อันดับ 1 เผยว่ารัฐบาล และ กปปส ควรถอยคนละก้าว เห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ 44.59% อันดับ 2 เผยว่าทุกฝ่ายต้องหยุดพฤติกรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านเมือง และหันมาสมัครสมานสามัคคี ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าและน่าอยู่ต่อไป 29.28% อันดับ 3 เผยว่าหาตัวแทนหรือคนกลางเข้ามาเจรจา ไกล่เกลี่ย พูดคุยกันด้วยเหตุผล รับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน 17.56% และอันดับ 4 เผยว่าทุกคนต้องเคารพกฎหมายและปฏิบัติตามกฎ กติกาของสังคม หากผู้ใดฝ่าฝืน หรือกระทำผิดต้องได้รับการลงโทษ 8.57%