xs
xsm
sm
md
lg

“วิรัตน์” จ่อยื่นศาล รธน.ซ้ำเลือกตั้งโมฆะ ชี้หวังยื้ออำนาจ ตั้ง รบ.ไม่ได้ ขอ กกต.ชงชี้ขาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หน.ทีม กม.ปชป.น้อมรับศาล รธน.วินิจฉัยเลือกตั้งไม่เข้าข่ายล้มการปกครอง ม.68 แม้มองรัฐจงใจทำผิด เตือนทำซ้ำยื่นข้อมูลร้องใหม่ จ่อชง ปมเห็นผลลัพธ์ไร้ รบ.ใหม่ แต่ดึงดันเดินหน้ารักษาอำนาจรักษาการ ทำผิด กม.เลือกตั้งหลายมาตรา มั่นใจโมฆะ ไม่ต่างปี 49 เหตุ ไม่เสมอภาค ไม่เป็นความลับ รอ กกต.ไต่สวนเลือกตั้งโมฆะเห็นชอบพร้อมส่งศาล ชม กกต.ชุดนี้กล้าหาญ แนะทำให้บ้านเมืองเดินได้



วันนี้ (13 ก.พ.) นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ยกคำร้องว่าการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ไม่ได้เข้าข่ายล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญว่า คณะทำงานกฎหมายส่งเรื่องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นช่วงยุบสภา รัฐบาลต้องอยู่ภายใต้บังคับรัฐธรรมนูญมาตรา 181 (4) ไม่ใช้ทรัพยากรบุคลากรของรัฐให้มีผลต่อการเลือกตั้ง แต่รัฐบาลรักษาการไปเรื่อยๆ ทั้งที่รู้ว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่สามารถที่จะได้รัฐบาลใหม่ได้ รวมถึงการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกคำสั่งปิดสื่อแต่เปิดโอกาสให้ทีวีของรัฐบาลโฆษณาชวนเชื่อ จนทำให้เกิดการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต เที่ยงธรรม ประชาชนเข้าใจผิดในความนิยมของพรรคการเมือง จึงถือเป็นความพยายามที่จะให้ได้อำนาจมาซึ่งวิธีการที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อศาลเห็นว่าไม่เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ตนก็เคารพคำวินิจฉัยเพราะเป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้หากรัฐบาลยังทำซ้ำตนจะยื่นข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อร้องใหม่อีกครั้ง

“ก่อนหน้านี้ยื่นต่อ กกต.ให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะมีการไต่สวนผมมาแล้ว 15 วัน กระบวนการต่อจากนี้จะมีการสรุปเสนอ กกต.ทั้ง 5 คน หาก กกต.เห็นชอบก็จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยผมคิดว่า กกต.ชุดนี้มีความกล้าหาญกว่าทุกชุด จึงขอเรียนไปยัง กกต.ที่เคยส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่อง สามารถออกพระราชกฤษฎีการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้หรือไม่นั้นความจริงควรหยิบประเด็นเรื่องเป็นโมฆะไปด้วย บ้านเมืองก็เดินได้ แต่ กกต.ขอความเห็นศาลแค่ว่าลงคะแนนใหม่ หรือกำหนดวันเลือกตั้งใหม่เท่านั้น และขอย้ำว่า ไม่มีองค์กรใดยืนยันว่าการเลือกตั้งสมบูรณ์แล้ว ตรงกันข้าม สิ่งที่เกิดขึ้นขัดต่อรัฐธรรมนูญชัดเจน ในลักษณะเดียวกับคำวินิจฉัยให้การเลือกตั้งปี 2549 เป็นโมฆะ” นายวิรัตน์กล่าว

นายวิรัตน์กล่าวว่า การยกคำร้องดังกล่าวเป็นคนละประเด็นกับเรื่อง การเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะหรือไม่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้วินิจฉัยในประเด็นนี้ ซึ่งมีกระบวนการที่ขัดกฎหมายหลายประเด็น ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 30 ไม่เสมอภาค เพราะเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ได้หายไปสองล้านคะแนน นอกจากนี้การเลือกตั้งต้องตรงและลับแต่ตอนนี้ไม่ลับ แม้ กกต.ไม่ประกาศผลเป็นทางการแต่มีการรายงานผลไปทั่วประเทศยกเว้น 28 เขตที่ไม่มีผู้สมัครเท่านั้น จึงไม่เป็นความลับมีผลต่อการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 2 ล้าน และอีก 28 เขต รวมเกือบ 10 ล้านคนที่จะลงคะแนนในวันข้างหน้า ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยแล้วว่าเป็นโมฆะในปี 2549 เพราะไม่เสมอภาคและไม่เป็นความลับ

“ปัญหาของรัฐบาลที่จะตามมา คือ ไม่สามารถเรียกประชุมสภาฯ ภายใน 30 วันตามมาตรา 127 ตั้งนายกฯ ไม่ได้ จะเป็นส่วนหนึ่งในข้อมูลที่จะใช้ยื่นเพิ่มเติมประกอบพฤติกรรมว่ารัฐบาลจงใจที่จะใช้การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 เป็นเครื่องมือในการรักษาการในอำนาจต่อไป ทั้งที่รู้ผลลัพธ์ว่าไม่สามารถตั้งรัฐบาลใหม่ได้ เมื่อครบเวลาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ก็จะเป็นเงื่อนเวลาหนึ่งที่จะยื่นเพิ่มต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ และจะพิจารณาการกระทำใดๆ ที่นอกรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ซึ่งในขณะนี้มีการทำผิด เช่น พยายามกู้เงิน 1.3 แสนล้านบาท ทำขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ทั้งหมดจะเก็บรวบรวมเพื่อยื่นเพิ่มเติมซ้ำอีกครั้ง เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัยว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่” นายวิรัตน์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น