รองหน.ปชป. ตอกรัฐรู้ดีปัญหาชาวนาชุมนุม แต่บิดเบือนเป็นเรื่องการเมือง ทำพลาดซ้ำสอง ชี้ ชาวนาโวยเป็นฟางเส้นสุดท้ายจำนำข้าวเหลว เลิกอ้างยุบสภาเหตุมีเวลาแต่ไม่จ่ายเงิน บี้ ระบายข้าวแต่มีปัญหาโกงไว้จึงทำไม่ได้ ยันกู้ไม่ได้ จี้รัฐรับความจริงโทษตัวเองอย่าโทษคนอื่น โฆษกปชป. ชี้ รัฐต้องออกนโยบายช่วยชาวนาได้จริง อย่าโยนบาปแบบ "ยรรยง" ดักDSI ไม่กล้าทำจำนำข้าวคดีพิเศษหวั่นกระทบ นายกฯ-รมว.พณ.
วันนี้ (9ก.พ.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีชาวนาชุมนุมประท้วงถูกรัฐบาลโกงเงินจำนำข้าวที่หน้ากระทรวงพาณิชย์และเตรียมไปเรียกร้องที่สำนักงานกระทรวงกลาโหมที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีทำงานอยู่ ว่า รัฐบาลรับทราบดีถึงปัญหาของชาวนาแต่กลับบิดเบือนข้อเท็จจริงว่าเป็นเรื่องการเมืองไม่ใช่ความเดือดร้อนของชาวนา ซึ่งเป็นความผิดพลาดซ้ำสองจากที่เริ่มโครงการจำนำข้าว เท่ากับกลัดกระดุมเเม็ดแรกผิดสุดท้ายไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะชาวนาไม่ได้ชุมนุมขับไล่รัฐบาล แต่มาขอในสิ่งที่เขาควรจะได้ตามสิทธิของชาวนา จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดมองการชุมนุมของชาวนาว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะรัฐบาลเป็นผู้สร้างปัญหาให้กับชาวนา ทำให้ชาวนาต้องออกมาเรียกร้องสิทธิของตัวเองเท่านั้น แต่ถ้ายังมองปัญหาไม่ถูกก็จะทำให้มีอคติแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาไม่ได้ เพราะมุ่งแต่จะแก้ปัญหาทางการเมืองให้กับตัวเองมากกว่า
สำหรับการประท้วงของชาวนานั้น นายองอาจ กล่าวว่า เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่สะท้อนความล้มเหลวของโครงการรับจำนำข้าวที่ล้มเหลวตั้งแต่เริ่มโครงการ มีการสวมสิทธิ ทุจริต โกงความชื้น ขั้นตอนเก็บรักษา และระบายข้าว ดังนั้นรัฐบาลไม่สามารถนำเรื่องยุบสภามาใช้เป็นเหตุผลในการแก้ตัวได้ เพราะโครงการนี้ผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น รัฐบาลมีเวลาถึงสองเดือนก่อนยุบสภาในการหาเงินมาจ่ายชาวนาทั้งเงินกู้และการระบายข้าว สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่านายกฯโทษรัฐธรรมนูญ โทษคนอื่น ทั้งที่ควรจะกล่าวโทษตัวเองที่ปล่อยให้โครงการผิดพลาดมาโดยตลอด ทั้งนี้การหาเงินให้ชาวนามีสองวิธีคือ เร่งระบายข้าวขายในตลาดแต่มีปัญหาเพราะมีการทุจริตในขั้นตอนนี้อย่างต่อเนื่องจึงไม่มีเงินหมุนเวียนจ่ายชาวนา อีกทั้งข้าวในสต๊อคก็ไม่ครบตามจำนวนที่มีการแสดงไว้ในบัญชี มีการเล่นแร่แปรธาตุเอาข้าวไปขายแล้วบางส่วน และยังมีข้าวด้อยคุณภาพปนอยู่ด้วย จนทำให้ไม่มีคนสนใจที่จะประมูลเนื่องจากไม่มั่นใจในคุณภาพข้าว จึงทำให้รัฐบาลไม่สามารถระบายข้าวได้
หรือ การกู้เงินจากสถาบันการเงินแต่วิธีการนี้ต้องทำตั้งแต่เดือนตุลาคมที่มีมติครม. ไม่ใช่ทำในเวลาที่ยุบสภาและมีข้อจำกัดทางกฎหมายว่ารัฐบาลไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ได้ สถาบันการเงินจึงไม่ปล่อยกู้เพราะเกรงว่าจะต้องรับผิดร่วมกับรัฐบาล นอกจากนี้สถาบันการเงินยังไม่ต้องการสร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ขององค์กรในเรื่องการต่อต้านการคอร์รัปชั่น เพราะโครงการนี้ทุจริตอย่างมโหฬารจึงไม่ร่วมมือสนับสนุนโครงการที่มีการทุจริต ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการที่สุดคือ ต้องแสดงความรับผิดชอบออกมายอมรับความจริงกล่าวโทษตนเองให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ แสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการช่วยชาวนา แทนที่จะไม่ยอมรับความจริงโทษคนอื่น เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถช่วยเหลือชาวนาได้
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องออกมาตรการที่เป็นไปได้เพื่อช่วยเหลือชาวนา ไม่ใช่ออกมาตรการที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง โยนบาปให้ ก.ก.ต. ตบตาชาวนา เช่น กรณีที่นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ ออกมาระบุว่าจะให้ ก.ก.ต.พิจารณาว่าสามารถให้ชาวนานำใบประทวนไปจำนำกับโรงสีแล้วรัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายดอกเบี้ยนั้นไม่สามารถปฏิบัติได้เพราะผูกพันไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งนายยรรยงทราบอยู่แล้ว แต่ต้องการทำเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการกล่าวโทษคนอื่น ดังนั้นรัฐบาลต้องมีความจริงใจต่อชาวนาด้วยการเร่งจ่ายเงินชาวนาในสิ่งที่ทำได้จริงตามกฎหมาย และขอให้ดีเอสไอนำคดีทุจริตจำนำข้าวเป็นคดีพิเศษ พร้อมกับตั้งคำถามว่าที่ไม่กล้ารับเป็นคดีพิเศษเพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ใช่หรือไม่