โฆษกประชาธิปัตย์ จี้รัฐบาลยอมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน หลังพรรคร้องเลือกตั้งโมฆะ จวกเพื่อไทยจอมบิดเบือน ชี้เป็นแถลงการณ์ประวัติศาสตร์กล่าวให้ร้ายการตรวจสอบในชาติโดยไม่เป็นธรรม หยันถ้าไม่โกงก็คงไม่กลัว ไล่เลิกโทษมือที่มองไม่เห็นแต่เป็นเพราะมือสกปรกไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม เชื่อสื่อนอกวิพากษ์พรรคตามยุทธศาสตร์โลกล้อมไทย เล็งฟ้องกลับ ไล่ “ภราดร” ลาออกไปสังกัด พท.
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัญหาการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ที่ยังมีปัญหาในหลายพื้นที่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จะหารือกันในวันที่ 6 ก.พ. 57 ว่าจะเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 23 ก.พ. 57 ได้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้จะทำให้การเลือกตั้งดังกล่าวเป็นโมฆะ จำเป็นต้องมีการออกพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งใหม่หรือไม่ ซึ่งหากจะออกพระราชกฤษฎีกาใหม่ต้องออกโดยฝ่ายบริหาร หาก กกต.ไปออกประกาศ กกต.จะทำให้เป็นผู้กระทำผิดรัฐธรรมนูญเสียเอง ทั้งนี้ใน 28 เขตที่ไม่มีผู้สมัครนั้นเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องแก้ไขไม่ให้ขัดรัฐธรรมนูญได้อย่างไร และหากกกต.กับนายกรัฐมนตรี มีความเห็นแตกต่างกันขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากรัฐบาลไม่ส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ แต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยจากคำร้องของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ขอให้รัฐบาลยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วย
นายชวนนท์กล่าวด้วยว่า มีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงจากพรรคเพื่อไทยสะท้อนว่าพรรคการเมืองวิจารณ์โครงสร้างการปกครองของประเทศตนเอง วิจารณ์กระบวนการตรวจสอบภายในประเทศ ถือเป็นแถลงการประวัติศาสตร์ที่พรรครัฐบาลวิจารณ์กระบวนการตรวจสอบภายในประเทศอย่างรุนแรง โดยอ้างถึง มือที่มองไม่เห็น อำมาตยาธิปไตย ตุลาภิวัฒน์ ซึ่งหากอ่านเผินๆ จะคิดว่าอ่านแถลงการณ์ของ นปช. ชัดเจนว่าสองกลุ่มนี้เป็นเนื้อเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบต่อการกล่าวร้ายโครงสร้างการปกครองส่วนอื่นอย่างไม่เป็นธรรม สิ่งที่สะท้อนจากแถลงการณ์ดังกล่าว คือ อ้างว่าจะมีองค์กรอิสระเข้ามาจัดการชี้มูลเรื่องทุจริตแสดงว่ายอมรับว่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากมาย หากไม่โกงก็คงไม่กลัว หรือไม่ละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม กฎหมายที่ไหนก็คิดบัญชีไม่ได้ จึงฝากถึงพรรคเพื่อไทยว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะพรรคเพื่อไทยไม่ให้ความเคารพกระบวนการยุติธรรม ต่อต้านการตรวจสอบถ่วงดุล ปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชัน จนประสบกับความยากลำบากในทุกวันนี้ เลิกโทษมือที่มองไม่เห็นเพราะมีแต่มือสกปรกที่ทำให้ชาติเสียหาย
ส่วนกรณีที่สื่อต่างชาติวิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ และการชุมนุมของประชาชนนั้น นายชวนนท์เห็นว่าเป็นกระบวนการเดียวกันกับรัฐบาลที่จะใช้โลกล้อมประเทศไทย เพราะคนไทยรู้ทันประชานิยมและการบริหารของระบอบทักษิณแล้ว จึงจำเป็นต้องไปนำต่างชาติมาสนับสนุนตัวเอง ด้วยการให้ความเท็จว่าพรรคประชาธิปัตย์ขัดขวางการเลือกตั้ง โดยฝ่ายกฎหมายกำลังพิจารณาที่จะดำเนินคดีกับสื่อต่างชาติที่กล่าวหาพรรคโดยปราศจากข้อเท็จจริงด้วย เพราะความจริงคือ 43 จังหวัดในพื้นที่พรรคเพื่อไทยมีผู้มาใช้สิทธิไม่ถึงครึ่ง สะท้อนว่าประชาชนไม่ได้ปฏิเสธการเลือกตั้งแต่ปฏิเสธการเลือกตั้งที่พรรคเพื่อไทยต้องการสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองกลับสู่อำนาจ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องฟังประชาชนและทบทวนว่าจะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับและเป็นทางออกให้กับประเทศ
“การที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช.มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงของประเทศ แต่กลับแสดงออกชัดเจนว่าเลือกข้างทางการเมือง เป็นเลขาฯ สภาความมั่นคงของพรรคเพื่อไทย โดยมีการกล่าวอ้างทฤษฎีก้านร่ม คือรัฐธรรมนูญ ส่วนซี่ร่มคือองค์กรอิสระ ที่สนิมเขรอะ และผ้าร่มคือสถาบันที่ยังสวยงามอยู่ เหมือนตัวเองทำงานในพรรคเพื่อไทย แสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพของข้าราชการ จึงขอให้ลาออกจากราชการไปเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอย่าทำให้ตำแหน่งเลขาฯ สมช.ต้องแปดเปื้อน” นายชวนนท์กล่าว