หัวหน้าทีม กม.ประชาธิปัตย์ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเลือกตั้ง 2 ก.พ.โมฆะ ยัน กกต.เตือนรัฐบาลให้เลื่อนหลายรอบแต่ดึงดันจัดจนได้ แม้ศาลจะตัดสินว่าทำได้แต่ไม่ทำ จวก “เฉลิม” ประโคมจำนวน ส.ส.เพื่อไทยยิ่งเกิดผลเสียต่อคะแนนโหวตทีหลัง แถมใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้เกิดความเสียเปรียบทางการเมือง ไม่สนพรรคแม้วจะยื่นยุบ ปชป.
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อเวลา 15.45 น. นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลา ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้การเลือกตั้งเลือกตั้ง 2 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นโมฆะ พร้อมขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคเพื่อไทย และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย 5 ปี เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 ที่ระบุให้วันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร อีกทั้งกฎหมายยังกำหนดให้คะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าต้องมาถึงหน่วยเลือกตั้งก่อนเวลา 15.00 น.ของวันเลือกตั้ง ดังนั้น การที่ กกต.กำหนดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้ารอบสองขึ้นในวันที่ 23 ก.พ.นั้น จึงขัดรัฐธรรมนูญในเรื่องของความเสมอภาค เพราะจำนวนผูัมีสิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดอีก 2 ล้านคนจะไม่สามารถนำมานับรวมคะแนนได้เลย ทำให้เกิดความไม่เสมอภาค เพราะเสียสิทธิโดยเปล่าประโยชน์นอกจากนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่นอกราชอาณาจักร ก็ไม่สามารถเลือกผู้แทนใน 28 เขต ที่ยังไม่มีผู้สมัครได้เช่นกัน
โดยนายวิรัตน์กล่าวว่า ที่ผ่านมา กกต.พยายามทำหนังสือถึงรัฐบาลหลายครั้ง เพื่อเสนอให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ออกไป เพราะเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ที่จะทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลก็ดึงดังที่จะจัดการเลือกตั้ง โดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ถึงแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยการเลื่อนการเลือกตั้งสามารถทำได้ แต่ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไปตกลงกัน ซึ่งรัฐบาลก็ยังเดินหน้าที่จะจัดการเลือกตั้งทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะเลือกตั้งมาแล้วก็ไม่สามารถประกาศผลคะแนน และไม่สามารถประกาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้ง 125 คนได้ อีกทั้ง การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ออกมาประโคมข่าวว่าพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.กี่คนนั้น ยิ่งเป็นการทำให้ประชาชนที่ยังไม่ไปใช้สิทธิเกิดความลังเล และส่งผลได้ผลเสียกับคะแนนที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย
“ที่ผ่านมารัฐบาลตั้งใจประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพราะต้องการสกัดกั้นชาวนาที่จะมาชุมนุม และป้องกันสื่อมวลชน ไม่ให้เผยแพร่หรือเสนอข่าวด้านลบต่อรัฐบาล ซึ่งการประกาศดังกล่าว ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบที่เกิดจากพรรคการเมือง ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 237 ระบุว่า ถ้าเป็นการกระทำของพรรคการเมือง ให้ถือว่าเป็นการได้มาซึ่งอำนาจนอกวิธีที่กำหนดตามรัฐธรรมนูญซึ่งผลก็คือยุบพรรคการเมือง ดังนั้น หากศาลสั่งให้เลือกตั้งเป็นโมฆะ คงต้องมีผู้รับผิดชอบแน่” นายวิรัตน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยจะยื่นยุบพรรคประชาธิปัตย์เนื่องจากสมาชิกไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง นายวิรัตน์กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทยที่จะยื่นต่อศาล แต่ยืนยันพรรคประชาธิปัตย์เคารพรัฐธรรมนูญ ซึ่งการที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ไปเลือกตั้งนั้น เนื่องจากกระบวนการการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนการเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคประชาธิปัตย์จะส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าพรรคประชาธิปัตย์ปฏิรูปพรรคเสร็จเรียบร้อยหรือไม่ ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทยยื่นหลักฐานเท็จต้องรับผิดชอบด้วย