xs
xsm
sm
md
lg

แกะรอย “โกตี๋” กร่างสั่ง “กองกำลังชุดดำ-ตำรวจ” ยิงกบาลกบฏ กปปส. (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพโกตี๋ หรือ นายวุฒิพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เผยแพร่กันอยู่ในโลกออนไลน์
ASTVผู้จัดการ - แฉอีกชัดๆ “โกตี๋.....อยู่เบื้องหลังเหตุปะทะหลักสี่” พร้อมคลิปกร่างสุดๆ สั่งให้ตำรวจพกอาวุธยิงพวกที่มาขัดขวางการเลือกตั้ง ลั่นประชาชนไปเลือกตั้งพกปืนยิงกบฏ กปปส.ไม่มีความผิด พร้อมเปิดภาพสุดท้ายก่อนหนีเข้าเขมรคุยกับใคร? จับผิดคดีในศาลอื้อเจ้าหน้าที่ปล่อยให้เข้าเขมรได้อย่างไร

จากเหตุการณ์กลุ่มสนับสนุนการเลือกตั้งและพรรคเพื่อไทยนำโดย นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” แกนนำเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งได้นำกองกำลังติดอาวุธเข้าโจมตีผู้ชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. บริเวณแยกหลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อช่วงบ่ายถึงเย็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 2557 โดยผู้สื่อข่าว ASTV ผู้จัดการ ได้ตรวจสอบภายหลังจาก “โกตี๋” หรือนายวุฒิพงศ์ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการอินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับเหตุปะทะที่หลักสี่ พร้อมปฏิเสธอยู่เบื้องหลังเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น

ตอนหนึ่ง นายวุฒิพงศ์อ้างว่า “จึงอนุญาตให้นำรถโมบายที่มีเครื่องเสียงไป แต่ตนเองไม่ได้เดินทางร่วมไปด้วย เพราะติดการสอบปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีเหตุการณ์คลอง 5 อยู่ภายในสถานีตำรวจนครบาลดอนเมืองตั้งแต่เที่ยง แต่ได้ขออนุญาตตำรวจออกไปพบกับมวลชนที่วัดหลักสี่จริง แต่ไปเพื่อพูดคุยกับมวลชนว่าตนเองติดภารกิจ และไม่สามารถอยู่ร่วมในการเดินขบวนของกลุ่มได้ เพราะต้องกลับไปสอบปากคำต่อ ก่อนจะเดินทางกลับมาที่ สน.ดอนเมือง และ เมื่อสอบปากคำเสร็จก็เดินทางออกจาก สน.ดอนเมือง ซึ่งแกนนำมวลชนที่ออกไปปะทะกับกลุ่ม กปปส. มีชื่อ ดาบเปี๊ยก กับ ลุงนวย

เมื่อผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการ ตรวจสอบต่อไปก็พบว่า เฟซบุ๊กของผู้ใช้ชื่อว่า Cathay Mee ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอข่าวของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ระบุว่า “โกตี๋.....อยู่เบื้องหลังเหตุปะทะหลักสี่” ซึ่งในรายงานชิ้นดังกล่าว ในช่วงที่ 1.02-1.38 ปรากฏภาพและเสียงนายวุฒิพงศ์ขึ้นปราศรัยบนรถพร้อมเครื่องขยายเสียง โดยมีการ์ดและชายชุดดำรุมล้อมอยู่จำนวนหนึ่ง

“โกตี๋กับทีมงาน วันนี้พี่น้องไม่ต้องห่วง ทุกอย่างพร้อม 200 คน นี่ครับพร้อมแน่นอน เฉพาะของผมนะครับ 200 คน นี่คือนักรบ (เสียงปรบมือ) ... อันดับที่หนึ่ง อันดับที่สอง วันนี้นะครับ ผมรู้ว่าพวกมันนี่ฟังอยู่ครับ มีครับมี ในนี้มีเยอะ ... วันนี้ครับหัวมึงต้องหายแน่นอนครับ ถ้ามึงยังยึดเขตหลักสี่อยู่” นายวุฒิพงศ์ หรือโกตี๋ กล่าวบนเวทีโดยมีช่างภาพของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสจับภาพเอาไว้ได้

ชมคลิปรายงานเหตุปะทะรุนแรงที่แยกหลักสี่ 1 ก.พ. 57 (Thai PBS)


ขณะเดียวกัน วานนี้ (3 ก.พ.) ในเว็บไซต์ thaivoice.org ยังมีการเผยแพร่คลิปการปราศรัยของนายวุฒิพงศ์ หรือโกตี๋ ก่อนวันเลือกตั้ง 2 ก.พ. โดยระบุชื่อคลิปว่า “โกตี๋ สั่งให้ตำรวจ พกอาวุธ ยิงพวกที่มาขัดขวางการเลือกตั้ง” โดยในคลิปนายวุฒิพงศ์ได้กล่าวบิดเบือนถึง เหตุการณ์ที่ ด.ต.คงเพชร เพชรกันหา ผบ.หมู่สืบสวน บก.น.2 ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส.ที่บริเวณหน้าสโมสรกองทัพบก ก่อนถูกการ์ด กปปส.จับตัวได้และรุมทำร้าย เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 28 ม.ค. โดยนายวุฒิพงศ์กล่าวปลุกระดมด้วยข้อความที่เป็นเท็จว่า ในเหตุดังกล่าว ด.ต.คงเพชร หรือดาบติ มิได้เป็นผู้ยิงปืนแต่อย่างใด แต่เป็นผู้ชุมนุม กปปส.หมั่นไส้ตำรวจจึงเข้ามารุมทำร้าย ด.ต.คงเพชรแล้วยิงกันเองจนได้รับบาดเจ็บ ดังนั้น ตำรวจทุกคนเมื่อไปหาข่าวในกลุ่ม กปปส.จึงต้องพกพาอาวุธไปด้วย ขณะที่ในวันเลือกตั้งขอให้ประชาชนพกพาอาวุธไปด้วย เพราะการยิงผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส.นั้นถือเป็นการยิงกบฏ ซึ่งไม่มีความผิด

คลิปโกตี๋ สั่งให้ตำรวจ พกอาวุธ ยิงพวกที่มาขัดขวางการเลือกตั้ง


นอกจากนี้ ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ในสื่อสังคมออนไลน์ยังมีการแพร่กระจายภาพถ่ายที่ระบุว่า พบนายวุฒิพงศ์ หรือโกตี๋ ในรถตู้คันหนึ่งติดสติกเกอร์การ์ตูนภาพ “โกตี๋” โดยเป็นการพูดคุยกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งที่หันหลังพูดคุยกันอยู่ โดยภาพถ่ายดังกล่าวมีการเผยแพร่ก่อนที่นายโกตี๋จะอ้างว่าได้หนีไปประเทศกัมพูชา โดยหนีไปเอง อย่างไรก็ตาม ในโลกออนไลน์มีการตั้งข้อสังเกตว่า หากไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเปิดช่องพาหลบหนีจะเดินทางไปโดยสะดวกได้อย่างไร เพราะนายวุฒิพงศ์ก็มีคดีความอยู่ในศาลหลายคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับ โกตี๋ หรือนายวุฒิพงศ์ เคยล้มป่วยด้วยโรคใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก (Bell's palsy) โดยมีอาการคล้ายกับเป็นอัมพฤกษ์ทางซีกซ้าย และยังปากเบี้ยว ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ขณะที่เจ้าตัวเคยระบุว่าสาเหตุของอาการป่วยเกิดจากเชื้อไวรัสได้เข้าไปทำลายเส้นประสาทเส้นที่ 7 ทำให้ร่างกายซีกซ้ายหมดความรู้สึกเหมือนคนเป็นโรคอัมพาต มีอาการปากเบี้ยว ตาปิดไม่สนิท น้ำตาไหลตลอดเวลา และเป็นอัมพาตชั่วคราวบริเวณซีกซ้ายเป็นอัมพฤกษ์ทางซีกซ้าย ทั้งยังปวดศีรษะอย่างรุนแรงด้วย


ภาพโกตี๋บนเวทีปราศรัย 1 ก.พ. ก่อนเคลื่อนพลเข้าปะทะกับ กปปส. ที่บริเวณแยกหลักสี่
ภาพจากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

กำลังโหลดความคิดเห็น