“สนธิ” นำทีมพนักงานเอเอสทีวีขึ้นเวที ขอบคุณพี่น้องพันธมิตรฯ จัดระดมทุนช่วยที่เวที คปท.ชี้เป็นเวทีลูกหลานกัน ต้องช่วยกัน ลั่นไม่เคยเปลี่ยนสี เอาอะไรไปได้แต่เอาใจออกจากพันธมิตรฯ ไม่ได้ แนะอย่าไปโอดครวญ “ประยุทธ์” ไม่ช่วย ย้ำ 2 ก.พ.ไม่ไปเลือกตั้ง ถามรัฐล้มเหลว การเมืองล้มเหลว จะไปเลือกตั้งทำอะไร มีสิทธิ์ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายไม่เคยสนใจ
วันนี้ (31 ม.ค.) ที่สะพานชมัยมรุเชฐ เมื่อเวลา 18.45 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีพร้อมด้วยทีมผู้ประกาศข่าวจากสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี เพื่อแสดงความขอบคุณเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) หลัง คปท.นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท.และนายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสาน คปท.ได้จัดเวทีคอนเสิร์ตเพื่อระดมทุนช่วยเหลือเอเอสทีวี
นายสนธิ กล่าวว่า ตนและเอเอสทีวีมาขึ้นเวทีนี้ เพราะเนื้อแท้ที่เป็นการต่อสู้ของประชาชนที่แท้จริงนั้นอยู่ที่นี่ นักสู้ที่นี่เป็นนักสู้ที่บริสุทธิ์ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง สู้ทุกครั้งโดยไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น สู้แล้วถูกเหยียบย่ำตลอดเวลา นายนิติธรได้บอกผ่านนายวริษฐ์ ลิ้มทองกุล ผู้อำนวยการเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ซึ่งเป็นหลานชาย และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ทราบว่า เอเอสทีวีเดือดร้อน จะเอาเงินบริจาค คปท.ที่มีเหลืออยู่ประมาณ 1 ล้านบาทมาให้ ตนบอกว่า ขออนุญาตไม่รับ เพราะเป็นเงินที่ให้มาเพื่อให้นายนิติธร และแกนนำ คปท.ต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง นายนิติธร เลยขออนุญาตจัดงานระดมทุนให้เอเอสทีวี ซึ่งตนไม่ขัดข้อง แต่ถ้าเอาเงินบริจาค คปท.มาให้ ตนขอไม่รับ เพราะเอเอสทีวีเป็นเสือที่ไม่ขอใคร เสือเจ็บต้องไม่ร้อง
ทั้งนี้ เวที คปท.เป็นเวทีเดียวที่เอเอสทีวีถ่ายทอดสด และฝ่าดงกระสุน ดงระเบิดด้วยกันโดยไม่ย่อท้อ เอเอสทีวีสู้ให้พี่น้องมาตั้งแต่วันแรก ด้วยจุดยืนของความถูกต้อง ไม่เข้าข้างใคร ไม่มีพรรคการเมืองหนุนหลัง มีแต่พี่น้องพันธมิตรฯ กปปส.ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พันธมิตรฯ เห็นแล้วว่าจิตของ กปปส.ก็คือจิตของพันธมิตรฯ นั่นเอง กปปส.มาแล้วจากไป แต่พันธมิตรฯ คงอยู่ตลอดกาลนิรันดร จำเอาไว้ว่าไม่มีใครดึงจิตใจของพันธมิตรฯ ออกจากพ่อแม่พี่น้องได้ ตนบอกแล้วว่าเวที คปท.คือเวทีของลูกหลานพันธมิตรฯ พี่น้องต้องมาช่วยลูกหลานพันธมิตรฯ เอเอสทีวีก็ต้องมาช่วยลูกหลานพันธมิตรฯ ตลอดไป
“พันธมิตรฯ ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านฝน ผ่านแก๊สน้ำตา ผ่านลูกปืน ผ่านคุกตะราง ผ่านมาหมดแล้ว พันธมิตรฯ ที่แท้จริงคือทหารเสือพระเจ้าตากที่ตีออกจากกรุงศรีอยุธยา เรามีอยู่กันเพียงแค่นี้ แต่จิตใจอันกล้าหาญ ยิ่งใหญ่กว่ากองทัพใหญ่ๆ ทั้งหมด จงภูมิใจในตัวพันธมิตรฯ เอง นี่เป็นหทารเสือพระราชา ทหารเสือพระราชินีอย่างแท้จริง ไม่ใช่ทหารถั่งเช่า”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ทีมงานเอเอสทีวีผ่านการรบ ผ่านการเคี่ยวกรำ ผ่านการทดสอบอุดมการณ์มาเป็นเวลาหลายปี หลายคนที่อยู่ข้างหลังมอบใจที่ภักดีให้พี่น้องพันธมิตรฯ มาตลอด และจะมอบให้ตลอดไป ไม่ว่าจะอยู่เวทีไหน วันเวลาใด เราพูดตลอดเวลาว่าเราจะซื่อสัตย์ จะมั่นคง และไม่เปลี่ยนแปลง พันธมิตรฯ ที่ติดตามเอเอสทีวีมาตลอด จะเห็นว่า พันธมิตรฯ เคยพูดอะไรไม่มีผิด มาก่อนกาลเวลา เห็นมาก่อนทุกคนเห็น สู้มาก่อนทุกคน วันนี้ตนต้องขอบคุณนายนิติธร นางสาวพวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความ คปท.นายอุทัย ลูกหลานพันธมิตรฯ ทั้งนั้น มีแต่ความซื่อสัตย์ ความจริงใจต่อชาติบ้านเมืองที่จะเป็นหลักการ ใครก็ตามเอาชาติเป็นตัวตั้ง เอาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเทิดทูนอยู่เหนือศีรษะ ไม่โกงกิน ทุจริตคอร์รัปชัน มีคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม คือพันธมิตรฯ
เอเอสทีวี ไม่ใช่ทีวีของใครเป็นพิเศษ แต่เป็นทีวีของพันธมิตรฯ เท่านั้นเอง ไม่เคยเปลี่ยนสี ฝนตก ฟ้าร้อง อยู่ตรงไหนอยู่ตรงนั้น นักข่าว พิธีกรเอเอสทีวีก็ไม่เคยเปลี่ยนสี หลายปีที่ผ่านมาเคยพูดอะไร ปีนี้ก็พูดแบบนี้ ไม่ใช่หลายปีเคยตอแหลแบบหนึ่ง พอมาวันนี้ทำเป็นพูดดี ขอกราบคารวะจิตใจทุกคนที่มาเวที คปท.ตนรู้ว่าเวทีนี้ไม่มีดาราเด่น ดาราดังขึ้นมา แต่มีแต่ดาราที่จริงใจ จริงจัง ไม่หล่อ ไม่สวย แต่น่ารัก น่าชื่นชม ไม่ไฮโซ ไม่มีแบรนด์เนม แต่ตีนติดดิน เวลาตนดูทีวีตอนกลางคืนเห็นลูกหลานอย่างนายอุทัย หรือพิธีกรคู่ บางคนบอกว่าน่าเบื่อ แต่ตนบอกว่าน่ารัก เพราะพูดจากใจ ไม่ได้พูดเพราะตอแหล ไม่ต้องการสร้างภาพ รู้สึกอย่างไรก็พูดออกมา พอพูดไม่เป็นก็อึกอัก ไม่เสแสร้ง เวทีนี้ไม่ใช่เวทีที่เสแสร้ง รู้สึกอย่างไรก็รู้สึกอย่างนั้น เป็นนิสัยของพันธมิตรฯ
“ขอให้รู้ว่าสิ่งที่เราทำตั้งแต่ปี 2549 ทั้ง 193 วัน 158 วัน และอีกหลายๆ ครั้งที่เราต่อสู้มานั้นไม่สูญเปล่า ไม่มีวันสูญเปล่า ขอให้รู้ถึงจิตใจผม ถึงผมจะไม่ได้เป็นแกนนำอีกต่อไป แต่จิตใจผมรักพ่อแม่พี่น้องตลอดเวลา วันที่ผมดูทีวี พ่อแม่พี่น้องโดนแก๊สน้ำตา ผมดูอยู่ที่บ้าน ผมบอกทำไมต้องเป็นพวกกูพันธมิตรฯ ตลอดเวลา ทำไมต้องเป็นพวกกูเจ็บตัวตลอดเวลา ทำไมต้องเป็นพวกกูกล้าหาญตลอดเวลา ไม่เป็นไร การศึกสงคราม เราเป็นทหารเสือพระราชา ทหารเสือพระราชินี เราไม่เลือกสงคราม ถ้ามันเป็นสงครามจะต้องสู้ก็ต้องสู้ ไม่เคยเห็นระเบิดตก ตกใจนอนลงไป แล้วยังชูมือตบอีก เวทีอื่นไม่มีอีกแล้ว มีแต่เวทีพันธมิตรฯ เท่านั้น” นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ กล่าวว่า ตนเคยบอกมาตั้งนานแล้วตั้งแต่ 193 วัน ถึง 158 วันว่า พวกเราต้องรักกันให้มากๆ เกาะกลุ่มกันให้มากๆ พวกเราคนไม่เยอะ แต่ใจถึงทุกคน อย่าทอดทิ้งกัน เอาอะไรไปจากเราก็เอาไปได้ เอายี่ห้ออะไรมาแปะหน้าเรา เอาอะไรมาแขวนคอก็เอาไปได้ แต่ไม่สามารถจะเอาพันธมิตรฯ ออกจากจิตใจของเราได้ ตนขอบคุณที่จัดงานระดมทุนช่วยเอเอสทีวี ตนรู้ว่าพี่น้องก็ลำบาก หลายคนทำธุรกิจไปได้ไม่ดีเพราะการประท้วง แต่ไม่ต้องห่วง อยากช่วยเท่าไหร่มีเท่าไหร่ช่วย เพราะว่าเอเอสทีวีมันอมเลือดจนชินแล้ว เอเอสทีวีจะต้องเป็นโทรทัศน์ที่กล่าวขวัญ เพราะพนักงานเอเอสทีวีเป็นพนักงานช่องเดียวในโลกที่อดมื้อกินมื้อมาตลอด ตนไม่อยากเล่าให้ฟังว่าตนทำอะไรบ้าง เอาเป็นว่าตนสบายดี ไม่ต้องห่วง อยากช่วยขอบพระคุณ ไม่อยากช่วยก็ขอบพระคุณ ไม่เป็นไร ขอให้มาชุมนุม เรื่องนี้มันเรื่องเล็ก ไม่ใช่เรื่องใหญ่
ตนดีใจมากที่กลับมาหาพ่อแม่พี่น้อง เหมือนกลับมาบ้านอีกครั้งหนึ่ง ตนบอกต้องบีบไข่ทหาร ทหารอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปให้เกียรติมันทำไม ตนบอกตั้งนานแล้วว่าต้องทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงจุดยืนมาเลยว่าจะอยู่ข้างประชาชนหรืออยู่ข้างทักษิณ ตนบอกมานานแล้วว่าอย่าไปโอดครวญกับมัน อย่างกูพันธมิตรฯ จะไม่มีวันโอดครวญกับมึง วันนี้ถือเป็นการกลับมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องมาถามตนว่าวันที่ 2 ก.พ. จะไปเลือกตั้งหรือไม่ ตนไม่ไป เพราะตนต้องการให้มันเป็นเอกภาพกันทั้งหมด สนธิทำอะไรก็โดนด่า ไม่ทำก็โดนด่า ไม่ขึ้นเวทีก็โดนด่า วันนี้ขึ้นเวทีแล้วก็โดนด่าอีก เมื่อเราไม่ยอมรับรัฐบาลชั่วชุดนี้ ระบบการเมืองแบบนี้ซึ่งรู้กันมานาน พันธมิตรฯ พูดเรื่องการปฏิรูปการเมืองก่อน เราเป็นคนจริงใจ ไม่ใช่คนที่มาตีกิน หลายคนที่เคยอยู่กับเราแล้วมาวันนี้ก็มาตีกิน ไม่เป็นไร ขอให้ตีกินแล้วมันสู้จริง เอาชัยชนะมาช่างมัน อย่าไปสนใจ แต่เมื่อเราไม่ยอมรับระบบการเมืองที่ล้มเหลว ไม่ยอมรับรัฐบาลที่ล้มเหลว เราจะไปเลือกตั้งทำอะไร ถึงจะเสียสิทธิ์ มีสิทธิ์แล้วเหาะได้ไหม มีสิทธิ์ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมันไม่เคยสนใจสิทธิ์เราเพราะฉะนั้นต้องให้มันรู้ว่าเราไม่เอารัฐบาลชุดนี้ เราไม่เอาระบบแบบนี้
“ผมขอบคุณในจิตใจพี่น้อง ใจผมอยู่กับพ่อแม่พี่น้องตลอดเวลา ไม่เคยผิด ถ้าใจไม่อยู่ เอเอสทีวีจะไปอยู่ได้ยังไง ถ่ายทอดตลอดคืน ท่ามกลางควันระเบิด ท่ามกลางกระสุนที่ปลิวว่อนไปมา ขอให้ปลอดภัย ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองพ่อแม่พี่น้อง ดูแลพ่อแม่พี่น้องที่มีจิตใจอันงดงาม รักชาติบ้านเมือง ขอให้ดวงวิญญาณบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ลงมาปกป้องพ่อแม่พี่น้องที่เวที คปท.และขอให้ศัตรูโคตรพ่อโคตรแม่จงชิบหายวายป่วงไปให้หมดเลย” นายสนธิ กล่าวทิ้งท้าย
